กัมพูชาถือฤกษ์ 15 มิ.ย. ยื่นฟ้อง 4 พื้นที่พิพาทต่อศาลโลกแล้ว

พนมเปญ 15 มิ.ย. – เช้าวันนี้ รัฐบาลกัมพูชายื่นจดหมายอย่างเป็นทางการต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice : ICJ) หรือ ศาลโลก เพื่อหาข้อยุติกรณี 4 พื้นที่พิพาท คือ ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาเมือนโต๊ด, ปราสาทตากระเบ็ย หรือ ปราสาทตาควาย รวมทั้งพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต หรือ ช่องบกของไทย รัฐบาลกัมพูชากล่าวอ้างถึงเหตุการณ์เมื่อ 63 ปีที่แล้ว คือ วันที่ 15 มิถุนายน 2505 ซึ่งถือเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ พิพากษาให้กัมพูชาชนะคดีเขาพระวิหาร โดยระบุว่า แม้เหตุการณ์ห่างกัน 63 ปี แต่ความมุ่งมั่นและเจตจำนงของกัมพูชายังคงเหมือนเดิม คือ กัมพูชาเลือกที่จะใช้สันติวิธี โดยยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศ ผ่านกลไกกระบวนการของศาล ICJ เพื่อแก้ปัญหาพิพาทเขตแดนในพื้นที่ที่เป็นจุดเปราะบาง มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการปะทะกันทางทหาร และเป็นพื้นที่ปัญหาที่ไม่อาจหาข้อยุติได้ด้วยกลไกระดับทวิภาคี ดังเช่น กรณีพื้นที่เขาพระวิหาร เมื่อกว่า 60 ปีที่แล้ว รวมทั้ง […]

กัมพูชาปฏิเสธข่าวแรงงานออกจากไทย

พนมเปญ 10 มิ.ย. – กัมพูชาปฏิเสธข่าวที่ว่าแรงงานชาวกัมพูชาพากันเดินทางออกจากประเทศไทย พร้อมทั้งกล่าวหาว่าสื่อบางกลุ่มจงใจบิดเบือนความจริงเพื่อปลุกปั่นความเกลียดชังและเพิ่มความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นายซัน เมซา โฆษกกระทรวงแรงงานและการฝึกอาชีพของกัมพูชาปฏิเสธรายงานที่ว่าคนงานชาวกัมพูชาพากันออกจากประเทศไทยว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และเรียกร้องให้ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์งดเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับแรงงานกัมพูชาออกจากประเทศไทย เพราะข่าวปลอมดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศหรือประชาชน แต่เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงและสร้างความกังวลโดยไม่มีเหตุอันควร การเรียกร้องดังกล่าวมีขึ้นหลังจากมีผู้ใช้งานสื่อโซเชียลได้โพสต์ภาพคนงานชาวกัมพูชาที่กำลังเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยผู้โพสต์อ้างว่าเป็นภาพชาวกัมพูชาที่เดินทางออกจากประเทศไทยเนื่องจากปัญหาพิพาทชายแดน นายเมซาบอกว่าเวลานี้คนงาน นักศึกษา หรือนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาที่อยู่ในไทยยังคงอยู่อาศัยกันตามปกติไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เมืองปอยเปตในจังหวัดบันเตียเมียนเจยก็ปฏิเสธข่าวลือที่แพร่สะพัดในโลกออนไลน์ว่ามีแผนการอพยพประชาชน และขอให้สื่อต่างๆช่วยลบหรือแก้ไขข้อมูลที่ผิดพลาดเพื่อป้องกันความสับสนของประชาชน โดยเฉพาะชาวบ้านในเมืองปอยเปต นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ประชาชนไม่เผยแพร่ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความหวาดกลัวหรือความไม่สงบในสังคม ด้านโฆษกกระทรวงสารสนเทศของกัมพูชาก็เรียกร้องให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้ใช้งานสื่อโซเชียลระมัดระวังการแชร์ข้อมูลที่มาจากต่างประเทศซึ่งอาจไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นทางการ ไม่ผ่านการตรวจสอบ หรือเป็นข้อมูลเท็จ ซึ่งจะทำให้เกิดผลเสียตามมา.-816.-สำนักข่าวไทย

Cambodia Foreign Minister met with his Thai counterpart on May 30 cr. Cambodia Foreign ministry

กัมพูชาขอไทยขึ้นศาลโลกด้วยกัน

พนมเปญ 9 มิ.ย. – นายปรัก สุคน (Prak Sokhonn) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา ได้ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการมาถึงนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย เพื่อขอความร่วมมือกับประเทศไทย ในการยื่นข้อพิพาทเรื่องพรมแดนกับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก (International Court of Justice : ICJ) ให้ตัดสินอย่างสันติและถูกต้องตามกฎหมาย โดยเนื้อหาในหนังสืออย่างเป็นการทางระบุไว้ว่า จากความซับซ้อนทางประวัติศาสตร์และความอ่อนไหวในข้อพิพาท เห็นได้ชัดว่า การเจรจาระดับทวิภาคีเพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างครอบคลุมและยั่งยืน รัฐบาลกัมพูชาจึงเห็นว่า การแก้ไขปัญหาพื้นที่ช่องบก ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย โดยศาลโลกเป็นหนทางที่เหมาะสมและสันติมากที่สุด นายปรักยังระบุใจความในหนังสืออย่างเป็นทางการว่า คำตัดสินของศาลโลกตั้งอยู่บนหลักกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นคำตัดสินที่ยุติธรรม ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย และสามารถให้ความชัดเจนในเรื่องข้อพิพาทดินแดนของทั้ง 2 ประเทศ อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ ตลอดจนความร่วมมือของทั้ง 2 ประเทศ “แนวทางปฏิบัติดังกล่าว จะยืนยันถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของเราในการรักษาหลักนิติธรรม รักษาความสามัคคีในภูมิภาค และส่งเสริมความร่วมกันของประชาชนภายในชุมชนอาเซียน “จากที่กล่าวมาข้างต้น ฉันขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยพิจารณาร่วมกับรัฐบาลกัมพูชา ในการส่งข้อพิพาทเรื่องพรมแดนของเรา ไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ขอให้ใช้โอกาสนี้ยืนยันความมุ่งมั่นร่วมกันของเรา ในการพูดคุยอย่างสันติ […]

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และสามเหลี่ยมมรกต เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

จีน-อินเดียเจรจาลดความขัดแย้งเรื่องพรมแดน

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและอินเดียเข้าร่วมการเจรจาเพื่อลดปัญหาความขัดแย้งเรื่องพรมแดนระหว่างกันที่กรุงปักกิ่งเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการเจรจาอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 5 ปี

ฟิลิปปินส์ประณามจีนกระทำการยั่วยุในทะเลจีนใต้

กองทัพฟิลิปปินส์กล่าววันนี้ ประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำที่เป็นอันตรายและยั่วยุของกองทัพอากาศจีน ที่บริเวณน่านฟ้าเหนือพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้

ฟิลิปปินส์ว่าเรือยามฝั่งใหญ่ของจีนทอดสมอในทะเลจีนใต้

หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ หรือ พีซีจี กล่าววันนี้ว่า เรือใหญ่ที่สุดของหน่วยยามฝั่งของจีนมาทอดสมออยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ หรือ อีอีซี ของฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้ และการกระทำของจีนมีป้าหมายเพื่อข่มขู่ฟิลิปปินส์

“มาร์กอส” ระบุฟิลิปปินส์ไม่มีแนวคิดที่จะก่อสงครามใด ๆ

ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์กล่าววันนี้ว่า ฟิลิปปินส์ไม่ได้มีแนวคิดที่จะมุ่งก่อสร้างครามแต่มักจะมุ่งเป้าหมายในการหาทางยุติข้อพิพาทต่าง ๆ อย่างสันติวิธี

จีนระบุเรือฟิลิปปินส์ไปที่เกาะหินปะการังที่เป็นข้อพิพาท

จีนกล่าววันนี้ว่า เรือพลเรือนขนาดเล็กลำหนึ่งจากประเทศฟิลิปปินส์ได้เข้าไปจอดอย่างผิดกฎหมายที่บริเวณชายหาดของเกาะที่เกิดจากหินปะการัง

อินเดียเปิดวิหารพระรามในพื้นที่พิพาท

นิวเดลี 22 ม.ค.- ความขัดแย้งระหว่างศาสนาฮินดูกับอิสลามในอินเดียส่อเค้าที่จะรุนแรงขึ้นมาอีก เมื่อวันนี้รัฐบาลอินเดียจะเปิดวิหารพระรามในเมืองอโยธยาที่สร้างขึ้นบนพื้นที่ข้อพิพาทกับชาวมุสลิม พื้นที่พิพาทในเมืองอโยธยา รัฐอุตตระประเทศทางเหนือของอินเดีย เคยเป็นที่ตั้งของมัสยิดบาบรี อายุกว่า 400 ปี จนกระทั่งเมื่อปี 2539 กลุ่มฮินดูขวาจัดบุกเข้าทำลายมัสยิด เพราะเห็นว่าแต่เดิมนั้นพื้นที่นี้เป็นวิหารของชาวฮินดู จนเกิดการประท้วงและปะทะกันระหว่างคนสองศาสนาในหลายเมืองของอินเดีย ทำให้ผู้เสียชีวิตไปมากกว่า 2,000 คน ต่อมาเมื่อมีการฟ้องร้องดำเนินคดี จนเมื่อปี 2562 ศาลฎีกามีคำพิพากษาตัดสินให้พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นกรรมสิทธิ์ของชาวฮินดู จึงมีการสร้างวิหารพระรามขึ้นใหม่ ซี่งเป็นไปตามคำร้องของชาวฮินดูที่เชื่อว่า โดยดั้งเดิมนั้นพื้นที่พิพาทเป็นที่ตั้งของวิหารพระราม แล้วชาวมุสลิมที่รุกรานเข้าไปได้สร้างมัสยิดทับวิหารเดิมที่เป็นแดนกำเนิดของพระราม ในวันนี้ นาย นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียจะเดินทางไปทำพิธีเปิดวิหารที่มีความสูง 3 ชั้น สร้างด้วยดินทรายสีชมพู ผสมกับหินแกรนิตสีดำเป็นหลัก ภายในประดิษยฐานเทวรูปพระรามความสูง 51 นิ้ว  เขาได้ยกให้การสร้างวิหารพระรามนี้เป็นนโยบายหลักในการหาเสียงจนพรรคภารติยะชันตะของเขาชนะการเลือกตั้ง และเพิ่งกล่าวว่า เป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของรัฐบาล  ในขณะเดียวกัน  นักการศาสนาบางคนยังเห็นว่า วิหารยังไม่สมบูรณ์และไม่ควรประกอบพิธีใดๆ ยิ่งไปกวานั้น ฝ่ายค้านได้ต่อต้านนายโมดีและรัฐบาลที่มีแนวนโยบายชาตินิยมฮินดู เพราะเห็นว่าเป็นการนำความขัดแย้งมาหาประโยชน์ทางการเมือง การรีบเร่งเปิดวิหารจึงน่าจะเป็นความพยายามหาคะแนนนิยมจากชาวฮินดูซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใหญ่ในอีกไม่เดือน.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียคาดนายกฯ เยือนปารีสช่วยฟื้นสัมพันธ์ฝรั่งเศส

นายกรัฐมนตรีแอนโทนี่ อัลบาเนซี ของออสเตรเลียจะเดินทางเยือนฝรั่งเศสในสัปดาห์หน้า ในขณะที่รัฐบาลพรรคแรงงานของเขากำลังหาทางกลัยไปสานความสัมพันธ์ที่เกิดร้าวฉานเมื่อปีที่แล้ว เมื่อออสเตรเลียยกเลิกข้อตกลงซื้อเรือดำแบบธรรมดาจากฝรั่งเศส

ฟิลิปปินส์ตำหนิเรือรบจีนฝึกซ้อมลักษณะอันตราย

หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ หรือ พีซีจี รายงานวันนี้ เกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้ที่เรือของหน่วยยามฝั่งจีน หรือ ซีซีจี ฝึกซ้อมในระยะประชิดกับเรือฟิลิปปินส์ ใกล้พื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทเรื่องดินแดนของหลายประเทศในทะเลจีนใต้ ส่งผลกระทบต่อการเดินเรือของเรือฟิลิปปินส์ที่อยู่ใกล้เคียง

1 2
...