09 มิถุนายน 2568
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล
ข้อมูลน่าสงสัย :
มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับชานมไข่มุกเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ โดยอ้างว่าการดื่มชานมไข่มุกต่อเนื่องมีความอันตราย เพราะรายงานข่าวปี 2019 พบเด็กหญิงวัย 14 ปีในมณฑลเจ้อเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน ป่วยด้วยอาการท้องผูกและกินอาหารไม่ได้ เมื่อแพทย์ทำการตรวจสอบด้วยวิธี CT Scan พบวัตถุลักษณะคล้ายไข่มุกที่ยังไม่ถูกย่อยจำนวนมากอยู่ในระบบทางเดินอาหาร เชื่อว่าเกิดการจากการดื่มชานมไข่มุกมากเกินไป

บทสรุป :
1.ตามปกติแล้วภาพ X-Ray จะไม่เห็นอาหารในระบบทางเดินอาหาร
2.ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าน่าจะมีการใช้สารแปลกปลอมในไข่มุกจนร่างกายย่อยไม่ได้
FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :
อย่างไรก็ดี รายงานข่าวชิ้นนี้สร้างข้อสงสัยในวงการแพทย์ เพราะตามปกติแล้ว การ X-Ray จะไม่แสดงภาพอาหารในระบบทางเดินอาหาร
ลักษณะภาพจากการ X-Ray
ภาพจาก X-Ray จะบ่งบอกปริมาณการดูดซับรังสีเอ็กซ์ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของสสาร โดยธาตุน้ำหนักเบาจะยอมให้รังสีผ่านไปได้มาก ในขณะที่ธาตุหนักจะดูดซับรังสีไว้
เช่น แคลเซียมในกระดูกสามารถดูดซับรังสีเอกซ์ได้มากที่สุด จึงทำให้มองเห็นภาพเอกซเรย์กระดูกเป็นสีขาว
ส่วนคาร์บอน ไฮโดรเจน และไนโตรเจน ในเนื้อเยื่อและอวัยวะภายใน จะดูดซับรังสีได้น้อยกว่าจึงมองเห็นภาพเป็นสีเทา
ในขณะที่ออกซิเจนดูดซับรังสีได้น้อยที่สุด จึงทำให้มองเห็นปอดเป็นสีดำ
สารแปลกปลอมในไข่มุก
ดร.ลินา ฟิลิเปซ ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหารและโรคตับ โรงพยาบาล Nicklaus Children’s Hospital ในเมืองไมอามี สหรัฐอเมริกา ชี้แจงต่อเว็บไซต์ Live Science ว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่การบริโภคไข่มุกจากชานมไข่มุกมากเกินไปจะทำให้ท้องผูก แต่ความผิดปกติของเคสนี้คือการเห็นไข่มุกจำนวนมากในภาพ X-Ray
เนื่องจากไข่มุกหรือสารเพิ่มความหนืดที่อยู่ในไข่มุกไม่จัดเป็นสารทึบรังสี (Radiopaque) และจะปล่อยให้รังสีเอ็กซ์ทะลุผ่านไปได้ ทำให้มองไม่เห็นในภาพ X-Ray
ดร.วลาดิเมียร์ คูชเนียร์ รองศาสตราจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน และโฆษกสมาคมแพทย์ระบบทางเดินอาหารประเทศสหรัฐอเมริกา ให้มุมมองที่คล้ายกันว่า หากภาพ X-Ray คือไข่มุกจากชานมไข่มุกจริง ๆ อาจเป็นไปได้ว่าไข่มุกดังกล่าวมีการใส่สารเติมแต่งที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ ซึ่งอาจไม่พบในชานมไข่มุกทั่วไปในท้องตลาด
คดียึดไข่มุกใช้สารต้องห้ามในไต้หวัน
ในอดีตมีการตรวจยึดสารแปลกปลอมที่นิยมใช้ทำไข่มุกในชานมไข่มุกที่ไต้หวันบ่อยครั้ง
โดยปี 2013 องค์การอาหารและยาของไต้หวันได้ยึดแป้งอาหารมากกว่า 312 ตัน ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับทำไข่มุกในชานมไข่มุก หลังการปนเปื้อนกรดมาลิก สารเติมแต่งอาหารราคาถูกที่อาจทำให้ไตวายหากบริโภคในปริมาณมาก
ส่งผลให้รัฐบาลของของประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์สั่งห้ามนำเข้าแป้งอาหารจากไต้หวัน หลังตรวจพบการปนเปื้อนกรดมาลิกในร้านชานมไข่มุกในประเทศตนเองเช่นกัน
ข้อมูลอ้างอิง :
https://www.snopes.com/fact-check/bubble-tea-pearls-in-stomach/
https://www.livescience.com/65705-bubble-tea-abdomen-constipation.html
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter