คุนหมิง, 8 พ.ย. – นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ครั้งที่ 8 ในวันพฤหัสบดี โดยเรียกร้องให้สมาชิกอนุภูมิภาคฯ ทั้ง 6 ประเทศยกระดับความร่วมมือ หลังจากดำเนินความเป็นหุ้นส่วนอันมีประสิทธิผลยาวนานสามทศวรรษนับตั้งแต่จัดตั้งกลไกดังกล่าว
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า การประชุมข้างต้นจัดขึ้นเมื่อวันที่ 6-7 พฤศจิกายน ในนครคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ได้รวบรวมคณะผู้นำจากกัมพูชา จีน ลาว เมียนมา ไทย และเวียดนาม รวมถึงประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB)
ทั้ง 6 ประเทศเปิดตัวโครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเมื่อปี 1992 เพื่อระดมความพยายามในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานระดับภูมิภาค และส่งเสริมการเติบโตของการค้า การลงทุน และเศรษฐกิจ
นายหลี่ กล่าวว่าโครงการฯ ได้กลายมาเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับจีนและกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงในการหารือความร่วมมือและส่งเสริมการพัฒนา จีนและกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงควรทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ใช้ประโยชน์จากความเกื้อกูลทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ และดำเนินความร่วมมือเชิงปฏิบัติในด้านต่างๆ อย่างลึกซึ้ง ในขณะที่โลกเข้าสู่ยุคแห่งความปั่นป่วนและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่
นายหลี่ เรียกร้องให้สมาชิกอนุภูมิภาคฯ เดินหน้าการเปิดกว้างในระดับที่สูงขึ้นและขนาดที่ใหญ่ขึ้น เพื่อสร้างตลาดขนาดใหญ่พิเศษที่มีประสิทธิภาพและพลวัตยิ่งขึ้น พร้อมเสนอแนะว่ากลุ่มประเทศเหล่านี้ควรสร้างหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางที่มีคุณภาพสูง ดำเนินความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) เป็นอย่างดี และเร่งการลงนามพิธีสารฉบับปรับปรุง 3.0 ของเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน
นายหลี่ เน้นย้ำถึงการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายส่งเสริมการวางแผน การก่อสร้าง และการยกระดับโครงข่ายไฟฟ้าระดับภูมิภาค ดำเนินความร่วมมือในด้านอุตสาหกรรมแบตเตอรี่พลังงานใหม่ ยานยนต์ และโซลาร์เซลล์อย่างลึกซึ้ง และขยายความร่วมมือในด้านเกิดใหม่ อาทิ พลังงานสะอาด การผลิตอัจฉริยะ คลังข้อมูลขนาดใหญ่ และเมืองอัจฉริยะ
นายหลี่ กล่าวว่าควรดำเนินการเชื่อมต่อในด้านโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น อาทิ ถนน ทางรถไฟ และท่าเรือ รวมถึงด้านนโยบาย กฎหมาย การกำกับดูแล กฎระเบียบ และมาตรฐาน เพื่อเร่งการบูรณาการทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค อีกทั้งประกาศว่าจีนได้ตัดสินใจออก “วีซ่าล้านช้าง-แม่น้ำโขง” ให้แก่กลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง 5 ประเทศ และออกวีซ่าเดินทางเข้าประเทศแบบหลายครั้ง ระยะ 5 ปี ให้แก่นักธุรกิจที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
นายหลี่ ระบุว่ากลุ่มประเทศอนุภูมิภาคฯ ควรปฏิบัติตามหลักพหุภาคีที่แท้จริง ส่งเสริมการพัฒนาที่สอดประสานของอนุภูมิภาคฯ กับความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขงและกลไกระดับภูมิภาคอื่นๆ ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือกับสหประชาชาติ (UN) ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย ธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย และสถาบันอื่นๆ
บรรดาบุคคลสำคัญต่างชาติชื่นชมบทบาทสำคัญของจีนในความร่วมมือทางเศรษฐกิจอนุภูมิภาคฯ โดยกล่าวว่าพวกเขายินดีที่จะเสริมสร้างความสอดประสานระหว่างยุทธศาสตร์การพัฒนาของกลุ่มประเทศสมาชิก และกลุ่มประเทศสมาชิกจะมุ่งเน้นการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ขยายความร่วมมือเชิงปฏิบัติในด้านเศรษฐกิจและการค้า การเกษตร การเชื่อมต่อ เศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาสีเขียว การดูแลสุขภาพ การท่องเที่ยว วัฒนธรรม และด้านอื่นๆ เพื่อกำกับดูแลการค้าเสรี และการพัฒนากลุ่มประเทศอนุภูมิภาคฯ ที่ครอบคลุมและยั่งยืน.-813.-สำนักข่าวไทย