นักวิชากรเชื่อ “เศรษฐา 1” เดินหน้าเงินดิจิตอลได้

กรุงเทพฯ 22 ส.ค.- “สติธร”  มอง รัฐบาล”เศรษฐา1” ดันนโยบายดิจิตอลวอลเล็ต ไร้ปัญหา มีงบกลาง-งบประมาณเหลือบางส่วน ชี้ เป็นโครงการเฉพาะหน้า รัฐบาลใหม่ขยับไม่ได้มาก งบถูกวางกรอบไว้แล้ว แนะแกนนำรบ.ไม่จำเป็นต้องกลุ่มกระทรวงเกรดเอทั้งหมด แต่ให้ผูกโยงกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันนโยบาย สร้างผลงาน


นายสติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงภาพรวมรัฐบาล “เศรษฐา1” ซึ่งเป็นรัฐบาลผสมและรวมกับขั้วรัฐบาลเดิม ที่ประกาศเดินหน้าผลักดันนโยบายดิจิตอลวอลเล็ต ว่า นโยบายดิจิตอลวอลเล็ต ผลักดันไม่ยากเนื่องจากเป็นโครงการเฉพาะหน้า ที่ใช้งบกลางและงบประมาณที่เหลือบางส่วนมาผสมกัน น่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว และการเป็นนโยบายเฉพาะหน้า เฉพาะกิจ จะทำให้คนรู้สึกว่ารัฐบาลเข้ามาก็สามารถขับเคลื่อนนโยบายได้เลย แต่โจทย์ต่อไปคือหลังจากนั้นจะทำอย่างไรเพราะนโยบายนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมากเต็มที่ 6 เดือน

เมื่อถามว่า งบประมาณน่าจะไม่มีปัญหาและพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่น่าจะมีปัญหาในการขับเคลื่อนนโยบายนี้เช่นเดียวกันใช่หรือไม่ นายสติธร กล่าวว่า ใช่   เพราะเข้าใจว่าการใช้งบประมาณขับเคลื่อนนโยบายนี้จะใช้งบกลางเป็นส่วนใหญ่ และไม่กระทบกับกระทรวงอื่นที่ไปอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งตัวรัฐบาลที่เข้ามาใหม่ไม่สามารถขยับตัวอะไรได้มาก เพราะงบประมาณถูกวางกรอบเอาไว้แล้วสำหรับปีแรกในการทำงาน จึงต้องไปดูงบประมาณฯในปี 2568 ว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลจะจัดสรรและวางกรอบงบประมาณอย่างไรเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย


ส่วนที่หลายคนมองว่าจะเอางบประมาณจากไหนในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ นายสติธร กล่าวว่า ปกติแล้วเรื่องงบประมาณอาจจะไม่ค่อยติดมาก แต่จะติดเรื่องการใช้จ่ายและการถูกตรวจสอบ ซึ่งการร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะที่เป็นอดีตพรรครัฐบาลเดิมที่สลายขั้วกันมา ดังนั้นการใช้งบประมาณ เพื่อทำนโยบายของพรรคเพื่อไทยก็ไม่น่าจะมีปัญหาในแง่จะถูกข้อทักท้วงว่าเป็นการใช้งบประมาณถูกต้องหรือไม่ ซึ่งน่าจะดำเนินการได้และเสียงข้างมากของรัฐบาลชุดนี้ก็ค่อนข้างแข็งแกร่ง 300 กว่าเสียง

เมื่อถามว่ามองเป็นผลดีกับพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่สำหรับนโยบาย ดิจิตอลวอลเล็ต นายสติธร กล่าวว่า ในระยะสั้นเป็นอย่างนั้น เพราะรัฐบาลถูกตั้งบนสถานการณ์ที่คนไม่พอใจเยอะเพราะมีการข้ามขั้วมาจับมือกัน โฉมหน้าที่คนก็รู้สึกว่ารัฐบาลเก่ารวมกับพรรคเพื่อไทย หน้าตารัฐมนตรีก็อาจจะคล้ายเดิมหรือไม่ ดังนั้นการที่จะผลักนโยบายอะไรออกไป ที่จะสามารถเห็นผลได้ทันทีโดยเร็วก็จะสามารถลดกระแสต่อต้านเหล่านี้ได้ซึ่งก็เป็นผลดี  พร้อมย้ำว่าในระยะสั้นอาจจะเป็นผลดีแต่สิ่งที่ต้องคิดต่อไปก็คือนอกจากนโยบายดิจิตอลวอลเล็ตแล้ว ยังมีนโยบายอื่นที่พรรคเพื่อไทยต้องพิสูจน์ตัวเองกับการเดิมพันตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ซึ่งน่าจะเป็นโจทย์ใหญ่

ส่วนที่มีโผครม.”เศรษฐา1” ที่นายเศรษฐา ทวีสินจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สร้างความเชื่อมั่นหรือจะเป็นไปได้หรือไม่ นายสติธร กล่าวว่า อาจจะสร้างความเชื่อมั่นได้ระดับหนึ่งที่นายกฯ ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และภาพลักษณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็มีภาพของนักบริหารที่เข้าใจเรื่องการเงิน เพียงแต่ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยกระทรวงการคลังทั้งหมด มีกระทรวงอื่นเป็นองค์ประกอบด้วย ซึ่งจะเห็นว่าหลายกระทรวงมีความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และดูแลเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่อาจไปอยู่ในโคต้าของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งอยู่ที่ฝีมือของนายเศรษฐาว่าจะทำงานกับรัฐมนตรีที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาลอื่นได้ดีขนาดไหน รวมไปถึงการผลักดันนโยบายที่กระทบกับเศรษฐกิจปากท้อง เพราะเมื่อพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจปากท้องคนจะคาดหวังกับพรรคเพื่อไทยมากเป็นพิเศษ


ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานที่ขณะนี้ปรากฏรายชื่อนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในโควต้าของพรรครวมไทยสร้างชาติ นายสติธร กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน ไม่ว่าจะเปลี่ยนชื่อรัฐมนตรีหรือไม่ แต่โควต้ายังอยู่กับพรรคเดิม  แนวโน้มก็น่าจะ เป็นคนที่มีเครือข่ายคอนเน็คชั่นส์สังกัดเดิมเข้ามา แต่ภาพลักษณ์คงจะแก้ยาก อยู่ที่ตัวนายกฯ และรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยที่จะต้องทำให้คนรู้สึกต่อต้านให้น้อยที่สุด และต้องมองหานโยบายที่จะทำอย่างไรให้เป็นการช่วยลดภาระด้านพลังงานให้กับประชาชนโดยเร็ว ซึ่งก็อาจจะ ช่วยลดกระแสได้นอกจากการวางตัวคนและการเสนอชุดนโยบาย เฉพาะหน้าที่ทำให้คนรู้สึกว่าภาระเรื่องพลังงานทำให้ ได้รับการช่วยเหลือดูแลก็จะเยียวยาความรู้สึกได้

เมื่อถามถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลใหม่ แต่ครม.เกือบจะเป็นหน้าเดิม เพียงแค่เปลี่ยนตัวแกนนำรัฐบาลเป็นพรรคเพื่อไทย นายสติธร กล่าวว่า ภาพลักษณ์นี้อาจจะติดตัว และเมื่อพรรคร่วมรัฐบาลเคยเป็นรัฐบาลเดิมแกนนำคนสำคัญ ก็อยากมานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างน้อยครึ่งหนึ่งคงจะหน้าซ้ำ สิ่งที่อาจจะช่วยได้คืออาจต้องท่องคาถาแบบนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่า “ ทำงาน ทำงาน ทำงาน” ก็อาจจะช่วยได้ ประเมินหน้าตาเปลี่ยนไม่ได้ แต่พฤติกรรมอาจจะเปลี่ยนได้มากกว่า

ส่วนกระทรวงเกรดเอที่ปกติแล้วพรรคแกนนำตั้งรัฐบาลจะต้องดูแล แต่ครั้งนี้มีกระแสข่าวว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะนั่งตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะเป็นการเสียรางวัดหรือไม่ นายสติธร มองว่า เรื่องกระทรวงไม่เท่าไหร่ แต่เรื่องการบริหารงานหากจะให้มีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์  ทำให้ประชาชน รู้สึกว่ารัฐบาลทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน มันอยู่ที่การผูกกระทรวงที่ได้มาเป็นแพคเกจมากกว่า “ถ้าจะเน้นไปทางสังคมก็เอากระทรวงด้านสังคม ซึ่งอาจจะมีทั้ง เกรดเอ เกรดบี เกรดซี มารวมกัน และดันนโยบายเชิงบูรณาการให้แต่ละกระทรวงมีบทเล่นของตัวเอง จะช่วยได้ดีกว่า ส่วนประเภทไปเกลี่ยกระทรวงเกรดเอ เกรดบี เกรดซี  อาจจะทำให้รูปแบบการทำงานไม่ยืดหยุ่นพอ ก็อยู่ในสภาวะจำเป็น ที่ต้องแบ่งกระทรวงเกรดเอให้เพื่อนบ้างเป็นธรรมดา เราเก็บเอ บี ซีอะไรไว้ได้ ก็พยายามจัดให้เป็นแพคเกจเดียวกัน และชูเป็นเซ็ตนโยบาย อันนี้อาจจะช่วยได้ซึ่งจะได้ไม่ต้องกังวลอะไรมาก เช่น กระทรวงใหญ่ ก็ต้องมีทั้งรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วย ที่ต้องมาแบ่งงานกันภายใน และพยายามเก็บหน่วยงานภายใต้กระทรวงนั้นนั้นที่สามารถทำงานร่วมกันกับกระทรวงที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐมนตรีให้ได้มากที่สุด จะเพียงพอต่อการสร้างชุดนโยบายที่ทำให้คุณรู้สึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ได้บ้าง” นายสติธร กล่าว.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ผบ.ทสส.นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – ถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ พรุ่งนี้ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คาด “ผบ.ทบ.” รับผิดชอบโดยตรง เตรียมแผนรับมือครอบคลุมทุกมิติแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2568 วาระเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ในเวลา 14.00 น. คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกโดยตรง ทั้งการเตรียมกำลัง และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทุกมิติแล้ว สำหรับการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ในครั้งนี้ กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ และได้แจ้งสื่อมวลชน ขอยกเลิกการมาทำข่าวนี้ เนื่องจากเป็นการประชุมเฉพาะกิจ นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุม และคาดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาโดยเฉพาะ.-313-สำนักข่าวไทย

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย