นักวิชากรเชื่อ “เศรษฐา 1” เดินหน้าเงินดิจิตอลได้

กรุงเทพฯ 22 ส.ค.- “สติธร”  มอง รัฐบาล”เศรษฐา1” ดันนโยบายดิจิตอลวอลเล็ต ไร้ปัญหา มีงบกลาง-งบประมาณเหลือบางส่วน ชี้ เป็นโครงการเฉพาะหน้า รัฐบาลใหม่ขยับไม่ได้มาก งบถูกวางกรอบไว้แล้ว แนะแกนนำรบ.ไม่จำเป็นต้องกลุ่มกระทรวงเกรดเอทั้งหมด แต่ให้ผูกโยงกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันนโยบาย สร้างผลงาน


นายสติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงภาพรวมรัฐบาล “เศรษฐา1” ซึ่งเป็นรัฐบาลผสมและรวมกับขั้วรัฐบาลเดิม ที่ประกาศเดินหน้าผลักดันนโยบายดิจิตอลวอลเล็ต ว่า นโยบายดิจิตอลวอลเล็ต ผลักดันไม่ยากเนื่องจากเป็นโครงการเฉพาะหน้า ที่ใช้งบกลางและงบประมาณที่เหลือบางส่วนมาผสมกัน น่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว และการเป็นนโยบายเฉพาะหน้า เฉพาะกิจ จะทำให้คนรู้สึกว่ารัฐบาลเข้ามาก็สามารถขับเคลื่อนนโยบายได้เลย แต่โจทย์ต่อไปคือหลังจากนั้นจะทำอย่างไรเพราะนโยบายนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมากเต็มที่ 6 เดือน

เมื่อถามว่า งบประมาณน่าจะไม่มีปัญหาและพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่น่าจะมีปัญหาในการขับเคลื่อนนโยบายนี้เช่นเดียวกันใช่หรือไม่ นายสติธร กล่าวว่า ใช่   เพราะเข้าใจว่าการใช้งบประมาณขับเคลื่อนนโยบายนี้จะใช้งบกลางเป็นส่วนใหญ่ และไม่กระทบกับกระทรวงอื่นที่ไปอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งตัวรัฐบาลที่เข้ามาใหม่ไม่สามารถขยับตัวอะไรได้มาก เพราะงบประมาณถูกวางกรอบเอาไว้แล้วสำหรับปีแรกในการทำงาน จึงต้องไปดูงบประมาณฯในปี 2568 ว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลจะจัดสรรและวางกรอบงบประมาณอย่างไรเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย


ส่วนที่หลายคนมองว่าจะเอางบประมาณจากไหนในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ นายสติธร กล่าวว่า ปกติแล้วเรื่องงบประมาณอาจจะไม่ค่อยติดมาก แต่จะติดเรื่องการใช้จ่ายและการถูกตรวจสอบ ซึ่งการร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะที่เป็นอดีตพรรครัฐบาลเดิมที่สลายขั้วกันมา ดังนั้นการใช้งบประมาณ เพื่อทำนโยบายของพรรคเพื่อไทยก็ไม่น่าจะมีปัญหาในแง่จะถูกข้อทักท้วงว่าเป็นการใช้งบประมาณถูกต้องหรือไม่ ซึ่งน่าจะดำเนินการได้และเสียงข้างมากของรัฐบาลชุดนี้ก็ค่อนข้างแข็งแกร่ง 300 กว่าเสียง

เมื่อถามว่ามองเป็นผลดีกับพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่สำหรับนโยบาย ดิจิตอลวอลเล็ต นายสติธร กล่าวว่า ในระยะสั้นเป็นอย่างนั้น เพราะรัฐบาลถูกตั้งบนสถานการณ์ที่คนไม่พอใจเยอะเพราะมีการข้ามขั้วมาจับมือกัน โฉมหน้าที่คนก็รู้สึกว่ารัฐบาลเก่ารวมกับพรรคเพื่อไทย หน้าตารัฐมนตรีก็อาจจะคล้ายเดิมหรือไม่ ดังนั้นการที่จะผลักนโยบายอะไรออกไป ที่จะสามารถเห็นผลได้ทันทีโดยเร็วก็จะสามารถลดกระแสต่อต้านเหล่านี้ได้ซึ่งก็เป็นผลดี  พร้อมย้ำว่าในระยะสั้นอาจจะเป็นผลดีแต่สิ่งที่ต้องคิดต่อไปก็คือนอกจากนโยบายดิจิตอลวอลเล็ตแล้ว ยังมีนโยบายอื่นที่พรรคเพื่อไทยต้องพิสูจน์ตัวเองกับการเดิมพันตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ซึ่งน่าจะเป็นโจทย์ใหญ่

ส่วนที่มีโผครม.”เศรษฐา1” ที่นายเศรษฐา ทวีสินจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สร้างความเชื่อมั่นหรือจะเป็นไปได้หรือไม่ นายสติธร กล่าวว่า อาจจะสร้างความเชื่อมั่นได้ระดับหนึ่งที่นายกฯ ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และภาพลักษณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็มีภาพของนักบริหารที่เข้าใจเรื่องการเงิน เพียงแต่ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยกระทรวงการคลังทั้งหมด มีกระทรวงอื่นเป็นองค์ประกอบด้วย ซึ่งจะเห็นว่าหลายกระทรวงมีความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และดูแลเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่อาจไปอยู่ในโคต้าของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งอยู่ที่ฝีมือของนายเศรษฐาว่าจะทำงานกับรัฐมนตรีที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาลอื่นได้ดีขนาดไหน รวมไปถึงการผลักดันนโยบายที่กระทบกับเศรษฐกิจปากท้อง เพราะเมื่อพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจปากท้องคนจะคาดหวังกับพรรคเพื่อไทยมากเป็นพิเศษ


ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานที่ขณะนี้ปรากฏรายชื่อนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในโควต้าของพรรครวมไทยสร้างชาติ นายสติธร กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน ไม่ว่าจะเปลี่ยนชื่อรัฐมนตรีหรือไม่ แต่โควต้ายังอยู่กับพรรคเดิม  แนวโน้มก็น่าจะ เป็นคนที่มีเครือข่ายคอนเน็คชั่นส์สังกัดเดิมเข้ามา แต่ภาพลักษณ์คงจะแก้ยาก อยู่ที่ตัวนายกฯ และรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยที่จะต้องทำให้คนรู้สึกต่อต้านให้น้อยที่สุด และต้องมองหานโยบายที่จะทำอย่างไรให้เป็นการช่วยลดภาระด้านพลังงานให้กับประชาชนโดยเร็ว ซึ่งก็อาจจะ ช่วยลดกระแสได้นอกจากการวางตัวคนและการเสนอชุดนโยบาย เฉพาะหน้าที่ทำให้คนรู้สึกว่าภาระเรื่องพลังงานทำให้ ได้รับการช่วยเหลือดูแลก็จะเยียวยาความรู้สึกได้

เมื่อถามถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลใหม่ แต่ครม.เกือบจะเป็นหน้าเดิม เพียงแค่เปลี่ยนตัวแกนนำรัฐบาลเป็นพรรคเพื่อไทย นายสติธร กล่าวว่า ภาพลักษณ์นี้อาจจะติดตัว และเมื่อพรรคร่วมรัฐบาลเคยเป็นรัฐบาลเดิมแกนนำคนสำคัญ ก็อยากมานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างน้อยครึ่งหนึ่งคงจะหน้าซ้ำ สิ่งที่อาจจะช่วยได้คืออาจต้องท่องคาถาแบบนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่า “ ทำงาน ทำงาน ทำงาน” ก็อาจจะช่วยได้ ประเมินหน้าตาเปลี่ยนไม่ได้ แต่พฤติกรรมอาจจะเปลี่ยนได้มากกว่า

ส่วนกระทรวงเกรดเอที่ปกติแล้วพรรคแกนนำตั้งรัฐบาลจะต้องดูแล แต่ครั้งนี้มีกระแสข่าวว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะนั่งตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะเป็นการเสียรางวัดหรือไม่ นายสติธร มองว่า เรื่องกระทรวงไม่เท่าไหร่ แต่เรื่องการบริหารงานหากจะให้มีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์  ทำให้ประชาชน รู้สึกว่ารัฐบาลทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน มันอยู่ที่การผูกกระทรวงที่ได้มาเป็นแพคเกจมากกว่า “ถ้าจะเน้นไปทางสังคมก็เอากระทรวงด้านสังคม ซึ่งอาจจะมีทั้ง เกรดเอ เกรดบี เกรดซี มารวมกัน และดันนโยบายเชิงบูรณาการให้แต่ละกระทรวงมีบทเล่นของตัวเอง จะช่วยได้ดีกว่า ส่วนประเภทไปเกลี่ยกระทรวงเกรดเอ เกรดบี เกรดซี  อาจจะทำให้รูปแบบการทำงานไม่ยืดหยุ่นพอ ก็อยู่ในสภาวะจำเป็น ที่ต้องแบ่งกระทรวงเกรดเอให้เพื่อนบ้างเป็นธรรมดา เราเก็บเอ บี ซีอะไรไว้ได้ ก็พยายามจัดให้เป็นแพคเกจเดียวกัน และชูเป็นเซ็ตนโยบาย อันนี้อาจจะช่วยได้ซึ่งจะได้ไม่ต้องกังวลอะไรมาก เช่น กระทรวงใหญ่ ก็ต้องมีทั้งรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วย ที่ต้องมาแบ่งงานกันภายใน และพยายามเก็บหน่วยงานภายใต้กระทรวงนั้นนั้นที่สามารถทำงานร่วมกันกับกระทรวงที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐมนตรีให้ได้มากที่สุด จะเพียงพอต่อการสร้างชุดนโยบายที่ทำให้คุณรู้สึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ได้บ้าง” นายสติธร กล่าว.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]