สถานะแคนดิเดตนายกฯ ยังอยู่ เสนอชิงได้

สำนักข่าวไทย 14 มิ.ย.- “อ.สติธร” ยัน “พิธา” ยังมีสถานะแคนดิเดตนายกฯ เสนอชื่อชิงตำแหน่งได้ ระบุมีเรื่องที่ต้องพิสูจน์อีกมาก ทั้งเรื่องคุณสมบัติ ส.ส. – คุณสมบัตินายกฯ สุดท้ายจบที่ศาล


นายสติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า  ยืนยันว่า ขณะนี้คุณสมบัติแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลยังอยู่ และส.ส.สามารถเสนอชื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ เพราะหากจะบอกว่าขาดคุณสมบัติเลยเวลามาแล้ว เนื่องจากกกต.ได้รับรองการสมัครไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น โอกาสที่จะทำให้นายพิธาเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง มี 2 ทางคือ สถานะความเป็นส.ส.ที่ยังต้องรอกกต.รับรอง

นายสติธร กล่าวว่า เมื่อกกต.รับรองเป็นส.ส.แล้ว อาจจะมีคนไปร้อง ซึ่งจะเข้าข่ายคล้ายกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้ และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ก่อน ส่วนเรื่องคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี ต้องรอให้ลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีก่อน หากรัฐสภารับรองให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี จึงจะร้องเรื่องคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีได้ เมื่อถึงเวลานั้น อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่


“ไม่มีกรณีที่จะทำให้คุณพิธาขาดคุณสมบัติความเป็นผู้สมัครส.ส. และชื่อที่อยู่ในบัญชีแคนดิเดตพรรค เพราะตามกฎหมายมันเลยขั้นตอนนั้นมาแล้ว ส่วนเรื่องคุณสมบัติแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กกต.ได้ตรวจแล้วเมื่อตอนรับสมัคร ถ้าจะไม่รับรองก็ต้องเกิดขึ้นก่อนการประกาศรายชื่อ ถ้าย้อนไปก็เหมือนกับกรณีพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เราจะพบว่ามีการตรวจคุณสมบัติอย่างรวดเร็ว จะพบว่าขาดคุณสมบัติไป ท่านก็ไม่ประกาศรับรองเป็นบัญชีของพรรคไทยรักษาชาติ แต่เงื่อนเวลาแบบนี้ตามกระบวนการของกฎหมายของรอบปี 66 แบบนั้นมันหมดไปแล้ว” นายสติธร กล่าว

เมื่อถามว่าความเป็นนายกรัฐมนตรีเริ่มตั้งแต่เมื่อใด นายสติธร กล่าวว่า ต้องดูว่าศาลรัฐธรรมนูญชี้ประเด็นนี้อย่างไร หากเป็นกรณีเรื่องขาดคุณสมบัติเท่ากับว่าความเป็นนายกรัฐมนตรีไม่มีมาตั้งแต่ต้น และหากดำรงตำแหน่งไปแล้ว จะต้องคืนเงินเดือนเครื่องราชอิสริยาภรณ์  ซึ่งคล้าย ๆ กับกรณีส.ส.หลายคนที่เคยถูกร้องเรื่องคุณสมบัติ ส่วนงานหรือการใดที่ทำไปแล้วในฐานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าชอบด้วยกฎหมาย เหมือนกรณีส.สเช่นกันที่เคยลงมติอะไรไว้จะไม่ลบคะแนน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทันทีที่โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี น่าจะมีส.ส.ไปร้องทันที

ส่วนคลิปเสียงการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวีที่มีการเผยแพร่ทางสื่อจะเป็นหลักฐาน ยืนยันให้นายพิธารอดพ้นจากการขาดคุณสมบัติหรือไม่ นายสติธร กล่าวว่า ต้องดูน้ำหนักว่าพิสูจน์เรื่องอะไร กรณีของนายพิธาต้องพิสูจน์หลายเรื่อง เช่น ไอทีวียังเป็นสื่อหรือไม่ นายพิธาถือหุ้นเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือไม่ การถือหุ้นไอทีวีของนายพิธาจะทำให้นายพิธาขาดคุณสมบัติการเป็นส.ส.หรือไม่ ขาดคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายพิธารู้ตัวหรือไม่ว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติ


“คลิปรายงานการประชุมเป็นการพิสูจน์สถานะของไอทีวีว่าเป็นสื่อหรือไม่  เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการพิสูจน์สถานะของไอทีวีเท่านั้น แต่ยังมีรายละเอียดอื่น ๆ รวมทั้งงบดุลที่รายงานด้วย ขณะที่นายพิธายังต้องพิสูจน์ความเป็นเจ้าของหุ้นด้วยว่าถือครองในฐานะผู้จัดการมรดก หรือฐานะทายาท และวันนี้โอนหุ้นได้หรือไม่ ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องวินิจฉัย หลังจากมีคนไปร้อง” นายสติธร กล่าว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย