กทม. 4 ส.ค. – อาจารย์สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ พยานใหม่ในคดีตามความของคณะทำงานอัยการสูงสุด ยืนยันว่าเข้าไปตรวจสอบความเร็วในฐานะที่ปรึกษาให้กับกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ไม่เคยได้รับการว่าจ้าง ไม่เคยได้รับเงิน ขณะที่นักวิชาการด้านกฎหมายมองว่าทั้งสองประเด็นที่คณะทำงานอัยการสูงสุดแถลงมีส่วนสำคัญต่อการสอบสวนใหม่ เพื่อพิจารณาสำนวนคดี และควรให้เรื่องถึงศาล
นี่เป็นส่วนหนึ่งคำให้สัมภาษณ์ของ ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ถึงการตรวจสอบความเร็วรถเฟอร์รารี่ขณะนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ขับพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ที่วันนี้คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงอัยการสูงสุดแถลงว่านี่คือพยานหลักฐานใหม่ในคดี และมีความเห็นให้สอบสวนเพิ่ม เพื่อเอาผิดในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
อาจารย์สธนยืนยันว่าการร่วมตรวจสอบครั้งนั้นในฐานะที่ปรึกษาด้านวิชาการให้กับกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ไม่เคยได้รับการว่าจ้าง ไม่เคยได้รับเงินใดๆ ทั้งสิ้น
อาจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นหลังการแถลงของคณะทำงานอัยการสูงสุดว่าเห็นด้วยประเด็นที่อัยการมีความเห็นให้สอบสวนเพิ่มเติม ทั้งเรื่องความเร็วรถและการพบสารประกอบโคเคนในเลือดของนายบอส ที่ยังไม่มีการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ซึ่งยังเหลืออายุความอีก 2 ปี ซึ่งการสอบสวนเพิ่มเติมทั้งสองประเด็นจะนำไปสู่ข้อสรุปว่าคดีนี้เป็นเหตุสุดวิสัยหรือประมาท
ส่วนประเด็นที่มีการตั้งคำถามว่าเหตุใดพนักงานสอบสวนจึงไม่มีการนำผลตรวจสอบความเร็วรถที่อัยการแถลงว่าเป็นหลักฐานใหม่ ไปรวมในสำนวน เป็นเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกมาให้คำตอบกับสังคม
อาจารย์ปริญญามองว่านอกจาก 2 ประเด็นที่คณะทำงานอัยการสูงสุดแถลง ยังมีประเด็นอื่นที่นำไปสู่การสอบสวนใหม่ได้ ทั้งนายจารุชาติ มาดทอง พยานบุคคลที่เพิ่งปรากฏตัวหลังคดีผ่านไปถึง 7 ปี หรือการเชิญเจ้าของค่ายรถยนต์เฟอร์รารี่มาให้ข้อมูล ที่ล้วนเป็นพยานหลักฐานใหม่ได้ทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย