เหยื่อบุฟเฟ่ต์แซลมอนดังร้องทนาย ถูกหลอกขายคูปองก่อนปิดร้านหนี

กรงเทพฯ 19 มิ.ย. – เหยื่อบุฟเฟ่ต์แซลมอนเจ้าดังตบเท้าเข้าพบทนาย หลังโดนหลอกขายคูปองราคาถูก แต่กลับปิดร้านหนี แถมเพจเฟซบุ๊กปลิวหาย ติดต่อเจ้าของไม่ได้ ด้านผู้จัดการร้านยันพนักงานและเจ้าของแฟรนไชส์ไม่รู้เรื่อง ขณะที่ สคบ.แนะผู้เสียหายเก็บหลักฐาน-แจ้งสายด่วน 1166


เมื่อลูกค้าหลายรายที่ซื้อ Voucher หรือคูปองร้านบุฟเฟ่ต์ดังซึ่งมีอยู่ 27 สาขา ในห้างดังต่าง ๆ จะเข้าไปใช้บริการแต่กลับพบว่าร้านปิด โดยมีกระดาษพิมพ์ข้อความแปะประตูร้านว่า “ปรับปรุงระบบ” หลายคนได้สอบถามและพูดคุยในกลุ่มเฟซบุ๊กจนทราบว่าร้านดังกล่าวทุกสาขาปิดร้านโดยไม่มีกำหนด และไม่มีการแจ้งล่วงหน้า แม้กระทั่งพนักงาน สร้างความเสียหายทั้งลูกค้าที่ซื้อ Voucher นักลงทุนที่ซื้อแฟรนไชส์ไปเปิดสาขา รวมถึงพนักงานเกือบ 300 คน ที่ยังไม่รู้ว่าจะได้รับเงินเดือนหรือไม่

วันนี้กลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกค้าที่ซื้อ Voucher ล่วงหน้าจากร้านดังกล่าว จำนวน 10 คน จากทั้งหมดกว่า 6,000 คน โดยมีทั้งผู้ที่ซื้อไว้เพื่อไปกินเอง และซื้อเพื่อนำไปขายต่อทำกำไร นำหลักฐานการซื้อและสลิปโอนเงินเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ ที่ จ.นนทบุรี


หนึ่งในผู้เสียหายคือ น.ส.เจน บอกว่าตนเองเป็นทั้งลูกค้าและเป็นผู้จำหน่ายคูปองให้กับลูกค้าคนอื่น ๆ เนื่องจากเห็นว่าธุรกิจนี้ทำกำไรได้ จึงนำเงินของครอบครัวไปลงทุนซื้อคูปอง Voucher จำนวน 2,628 ใบ ราคาใบละ 212.93 บาท รวมเป็นเงิน 559,380 บาท เพื่อขายให้กับลูกค้าในเพจของตน ราคาใบละ 240 บาท ได้กำไร 27 บาทต่อใบ แต่หากลูกค้าโดยตรงกับทางร้านจะต้องจ่ายในราคาใบละ 299 บาท ตนทำธุรกิจนี้มาแล้วกว่า 2 ปี กระทั่งทราบว่าร้านปิดทุกสาขา จึงติดต่อไปหาลูกค้าที่ซื้อ Voucher จากตนเองไป เพื่อโอนเงินคืนให้ ซึ่งตนโอนเงินคืนไปแล้ว 40 ราย และได้สอบถามผู้จัดการร้าน ทราบว่าเจ้าของบริษัทเป็นหนี้สินหลายทาง ทั้งค่าปลาแซลมอน ค่าเช่าร้าน

ส่วนนายปรัชญิล บอกว่า ตนเองเป็นลูกค้าประจำของร้านนี้ คอยติดตามโปรโมชันเพื่อซื้อคูปองหลายครั้ง ล่าสุดทางร้านประกาศขายในราคา 199 บาทต่อใบ แต่มีข้อจำกัดว่าต้องซื้อ 5 ใบ ตนจึงซื้อไว้ 10 ใบ แต่ได้ใช้ไป 6 ใบเท่านั้น

ด้านนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ เปิดเผยว่า ผู้เสียหายที่เดินทางมาวันนี้มีทั้งลูกค้าที่ซื้อคูปอง และผู้ที่ทำธุรกิจกับร้านบุฟเฟ่ต์ เข้ามาขอคำปรึกษา หาช่องทางกฎหมายเอาผิดกับเจ้าของบริษัท หลังจากพูดคุยกับผู้เสียหายได้แนะนำให้แจ้งความจึงจะสามารถดำเนินคดีได้ โดยเฉพาะคดีแพ่ง สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ ส่วนคดีอาญาต้องดูที่เจตนาของเจ้าของบริษัทว่าเขามีเจตนาฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ หรือผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือไม่ ซึ่งอัตราโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท ย้ำว่าผู้เสียหายสามารถแจ้งความได้ที่ Thai Police.com


ผู้จัดการร่ายยาวยันพนักงาน-เจ้าของแฟรนไชส์ไม่รู้เรื่อง
อย่างไรก็ตาม หลังเป็นกระแสดราม่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งระบุว่าตนเองคือหนึ่งในผู้จัดการสาขาของร้านดังกล่าว ยืนยันว่าพนักงานร้านและเจ้าของแฟรนไชส์ไม่รู้มาก่อนว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ จู่ ๆ เจ้าของบริษัทดีดตัวเองออกจากไลน์กลุ่มทั้งหมด ติดต่อไม่ได้ ตนและคนอื่น ๆ เพิ่งทราบเรื่องเช้าวันที่ 17 มิถุนายน ที่เจ้าของบริษัทออกจากกลุ่มไลน์ทั้งหมด ไม่มีใครติดต่อได้ ทางกลุ่มผู้จัดการจึงปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรต่อ ก่อนจะได้มติว่าปิดให้บริการ 1 วัน เพราะยังมีความหวังว่าจะติดต่อเจ้าของบริษัทได้

คำตอบที่ว่า “ระบบส่วนกลางล่ม” เป็นคำตอบที่คิดขึ้นได้ในขณะนั้นที่ทางลูกค้ากระหน่ำโทรเข้ามาสอบถาม เพราะไม่รู้ว่าจะให้คำตอบอย่างไรดี ถ้าตอบว่าติดต่อผู้บริหารไม่ได้กลัวจะมีผลต่อหน้าที่การงานในอนาคต ที่ปิดทุกสาขาเป็นการตัดสินใจเฉพาะหน้าของกลุ่มผู้จัดการ เพราะซัพพลายเออร์ไม่ส่งวัตถุดิบให้ แถมบริษัทยังมีหนี้เก่าค้าง

บริษัทไม่มีทีมบริหาร ไม่มีฝ่ายบุคคล-บัญชี หรือทีมบริหาร การตัดสินใจทั้งหมดอยู่ที่เจ้าของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว พอเจ้าของไปก็ล้มทั้งระบบ ผู้จัดการสาขารายนี้ยังแนะนำลูกค้าที่ซื้อคูปองที่กังวลว่าจะถูกฉ้อโกงให้ไปแจ้งความได้เลย ไม่ต้องโทรเข้าสาขา เพราะพนักงานไม่มีคำตอบให้แม้แต่อนาคตของตัวเอง

นอกจากนี้ผู้จัดการสาขายังฝากไปถึงเจ้าของบริษัทที่ตนเองเรียกว่า “บอส” ว่าถ้าบอสได้มาอ่านอยากให้มาแก้ปัญหา เผชิญความจริง เชื่อว่าเรื่องนี้มีทางออกที่ดีกว่านี้ ตนยังไม่ลืมวิกฤติโควิด-19 รอบแรกที่ได้มาทำงานกับบริษัทนี้ บอสอ้าแขนรับไว้ เป็นเจ้านายที่ดีมาก ๆ ตนรู้ว่าบริษัทไม่ได้มีกำไร บอสพูดเสมอว่าสู้เพื่อลูกน้อง เพื่อให้มีการจ้างงาน จนถึงวันนี้ยังไม่มีความโกรธเกลียด ยังรักเหมือนเดิม

สคบ.แนะผู้เสียหายเก็บหลักฐาน-แจ้งสายด่วน 1166
ด้านสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ระบุว่า กรณีดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายความผิดด้านสัญญาที่ชัดเจน เพราะขาย Voucher แล้วเปิดให้บริการไม่ได้ โดย สคบ. จะเรียกเจ้าของร้านบุฟเฟ่ต์แซลมอนชื่อดังมาชี้แจงข้อเท็จจริง รวมถึงรายละเอียดของเรื่องดังกล่าว ในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ ผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจากการซื้อคูปองล่วงหน้า (E-Voucher) ของร้านดังกล่าว ให้เก็บหลักฐานเอกสารที่เกี่ยวข้อง อาทิ หลักฐานการคุยกันในแอปฯ หรือแชต หากชำระเงินผ่านบัตรเครดิตให้ติดต่อที่ธนาคารเจ้าของบัตร เพื่อขอเงินคืนโดยด่วน หรือร้องเรียนมาที่ https://complaint.ocpb.go.th/ หรือสายด่วน 1166 (ในวันและเวลาราชการ)

ด้านเจ้าของบริษัท IT Provider ที่ร้านดังกล่าวว่าจ้างให้สร้างและพัฒนาแอปฯ โพสต์ข้อความระบุว่า หลังจากเห็นข่าวหลายช่อง และทาง สคบ. ให้ทุกท่านที่เกี่ยวข้องส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทันที จึงได้ติดต่อสายด่วนไปเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ปิด จึงได้ไปสถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันแล้ว และพร้อมส่งมอบข้อมูลทันที ตอนนี้ร้านดังกล่าวไม่มี E-Voucher แล้ว ตัวเลขคูปองจะโชว์ในแอปฯ หากท่านใด log out จะกลายเป็นศูนย์ หลักฐานจะหายไป และ log in ไม่ได้ เนื่องจากระบบปิดหมด เพราะเกรงคนจะซื้อเพิ่ม และจะมีผู้เสียหายเพิ่มเติม พร้อมเผยรู้สึกตกใจ เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ และยินดีแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้มีส่วนร่วม พร้อมส่งมอบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือ สคบ.

เหยื่อบุฟเฟ่ต์ทิพย์ทยอยแจ้งความ
ผู้เสียหายอีกกลุ่ม จำนวน 11 คน ซึ่งอยู่ใน จ.สมุทรปราการ รวมตัวเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ เพื่อให้ดำเนินคดีกับเจ้าของแฟรนไชส์ และคนขายแฟรนไชส์ ซึ่งก็คือเจ้าของบริษัท หลังซื้อคูปองออนไลน์ในราคาใบละ 199 บาท คนละหลายใบ แต่ตอนนี้ทุกสาขาปิดหมด ทำให้กังวลว่าคูปองจะสามารถใช้ได้อีกหรือไม่

นางสาวจุฑามาศ อายุ 40 ปี เปิดเผยว่า ตนเองซื้อคูปองผ่านแอปพลิเคชัน ในราคา 199 บาท โดยคูปองมีอายุประมาณ 6 เดือน ผู้เสียหายทุกคนที่เดินทางมาในวันนี้โดนไม่ต่ำกว่าคนละ 5 ใบ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตนได้โทรไปที่สาขาเพื่อจองคิวเข้าใช้บริการ แต่ติดต่อไม่ได้ โทรไปสาขาอื่น ๆ ก็ไม่มีใครรับโทรศัพท์เช่นกัน ตนเองจึงเข้าไปดูที่เพจเฟซบุ๊กของร้าน พบว่าเพจถูกปิดเช่นกัน จึงรวมตัวกับผู้เสียหายใน จ.สมุทรปราการ มาแจ้งความ

นอกจากที่มาวันนี้ยังมีผู้เสียหายคนอื่น ๆ ในกรุ๊ปไลน์อีกมากกว่า 60 คน พร้อมเผยการแจ้งความวันนี้ไม่ได้หวังเงินคืน แต่อยากเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้บริโภค หลังจากนี้จะรวมตัวนำหลักฐานเข้าไปแจ้งร้องทุกข์ สคบ. อีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

ปิดตำนาน “บิ๊กสุ” นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย

กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา สิริอายุ 91 ปี นอกจากบทบาททางการทหารแล้ว พล.อ.สุจินดา ยังมีส่วนสำคัญต่อสถานการณ์การเมืองไทย.-สำนักข่าวไทย

จ่อให้ออกจากราชการไว้ก่อน “พญ.” แอบอ้างสั่งยานอนหลับ

10 มิ.ย.- จ่อสั่งแพทย์หญิงคนดัง ให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีถูกจับกุม แอบอ้างคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ พบก่อนหน้านี้เคยถูกสั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ปมเอี่ยวจีนเทา กรณีตำรวจ ปส. และ อย. เข้าตรวจสอบคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ ก่อนเชื่อมโยงถึงแพทย์หญิงคนดัง พร้อมจับกุมชายรายหนึ่ง ซึ่งรับเป็นผู้ดูแลห้องพักภายในแฟลตตำรวจ ยึดของกลางกลุ่มยานอนหลับ บรรจุอยู่ในกล่องลังกว่า 10 กล่อง เบื้องต้นพบเงินหมุนเงินกว่า 80 ล้านบาท และมีเงินหมุนเวียนร่วมกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกว่า 400 ล้านบาท ล่าสุดมีรายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง จากการตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2565 มีผู้เสียหายร้องเรียนแพทย์หญิงคนดังเกี่ยวกับกรณีที่ผู้เสียหายได้นำเงินมามอบให้ เพื่อให้ช่วยต่อวีซ่าการพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการฟ้องศาลคดีอาญา โดยศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 7 ปี และมีการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งทราบว่าสามารถตกลงกับคู่กรณีได้ อย่างไรก็ตาม กระบวนการทางวินัยยังคงดำเนินต่อ โดยทางโรงพยาบาลตำรวจ มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงในกรณีนี้ และอยู่ระหว่างการนัดประชุมเพื่อพิจารณาผลวินัยร้ายแรงในเร็วๆ นี้ ส่วนกรณีที่มีการจับกุมสั่งซื้อ-ขายยานอนหลับ ในวันนี้ ล่าสุดชุดทำคดีได้ทำหนังสือส่งมายังต้นสังกัดว่า แพทย์หญิงคนดัง ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1 และมีความเห็นว่า หากให้รับราชการต่อไปอาจเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ซึ่งจะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง […]

นายกฯ คุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี

ทำเนียบ 10 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำผลเจรจาชายแดนไทย-กัมพูชา เรียบร้อยดี เผยคุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี งัดเทคนิค จริงใจเจรจา จนกัมพูชาปรับทัพ บอกรับทราบ “สนธิ” ยื่นหนังสือจี้รัฐบาลรักษาอธิปไตย ลั่นแก้ทีละปม ไม่เหมารวม MOU 44 พร้อมขอบคุณ จนท.ทุกหน่วย ขอ ปชช.มั่นใจไม่เกิดความรุนแรงแน่นอน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายผลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการคลี่คลายสถานการณ์ ที่มีความขัดแย้งกัน และปฏิบัติงานร่วมกันหลายภาคส่วน ซึ่งผลออกมาค่อนข้างสงบเรียบร้อยดี โดยในระดับนโยบาย รัฐบาลได้ให้หน่วยงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะกองทัพในพื้นที่ ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือทวิภาคี ได้พูดคุยกันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ย้ำว่าทุกหน่วยงานได้มีการพูดคุยกัน ทั้งไทยและกัมพูชา และตนเองก็ได้พูดคุยกับพลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และสมเด็จฯฮุน เซน ประธานองคมนตรี ประธานวุฒิสภากัมพูชา ก็มีการประสานงานและเจรจากันเพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ และผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]