จับกุมแล้ว 7 คน เหตุวิวาทหน้าร้านเกมส์ย่านบางกะปิ

กทม. 14 พ.ค.- รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยเหตุทะเลาะวิวาทหน้าร้านเกมส์ย่านบางกะปิเกิดจากปัญหาเรื่องผู้หญิงและผู้เสียหายขโมยรถจักรยานยนต์ของคู่กรณีไป ไม่ยอมนำมาคืนเบื้องต้นจับกุมแล้ว 7 คน ส่วนมือแทงเป็นเด็กอายุ 15 ปี


13.40 น. พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลแถลงผลการจับกุม 2 คดี โดยคดีแรกเป็นคดีกลุ่มเยาวชนอายุตั้งแต่ 14-19 ปี ก่อเหตุแทงและปาระเบิดใส่กันหน้าร้านเกมส์ย่านบางกะปิ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 คน โดยพลตำรวจตรี จิรสันต์ ได้กล่าวว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้น เวลา 16.45 น. ขณะที่นายณัฐวุฒิ นั่งอยู่บริเวณหน้าร้านอีสปอร์ตย่านแฮปปี้แลนด์ เขตบางกะปิ ได้มีกลุ่มผู้ต้องหาเข้ามาทำร้ายนายณัฐวุฒิ ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าจำนายณัฐวุฒิได้ว่าเคยมีเรื่องกับตัวเองมาก่อนหน้า โดยผู้ต้องหาได้ชกที่ใบหน้าผู้เสียหายหลายครั้งจนล้มลงนอนกับพื้น จากนั้นมีผู้ต้องหารายอื่นเข้ามาตะลุมบอน ผู้ต้องหาที่มีอาวุธมีดก็ได้ใช้อาวุธแทงบริเวณลำตัวของผู้เสียหายหลายครั้งก่อนที่ผู้ต้องหาทั้งหมดจะแยกย้ายหลบหนีก็ยังได้ขว้างระเบิดไปที่ผู้เสียหายอีก

หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจลาดพร้าว ได้ติดตามตัวเยาวชนที่ปรากฏในคลิปกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุ มาสอบปากคำจำนวน 10 คน โดยใช้เวลาสอบปากคำยาวนานกว่า 3 ชม. จนทราบว่ามือมีดผู้ก่อเหตุแทงผู้เสียหายเป็นเยาวชนชายอายุ 15 ปี ส่วนเยาวชนทั้ง 10 คน จากการสอบสวนพบว่าในจำนวนนี้ 7 คน มีส่วนร่วมกระทำผิด ทั้งใช้อาวุธ ซึ่งเป็นระเบิดปิงปองทำร้ายผู้เสียหาย รวมทั้งร่วมกันรุมทำร้ายจนผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงแจ้งดำเนินคดีกับทั้ง 7 คน รวม 2 ข้อหา ประกอบด้วย ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส มีเครื่องกระสุนปืนหรือวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองและพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยเปิดเผยและไม่มีเหตุอันควร


สำหรับสาเหตุของการทะเลาวิวาทครั้งนี้ เกิดจากผู้เสียหายกับผู้ต้องหาเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อนโดยมีสาเหตุมาจากเรื่องผู้หญิงและเรื่องขโมยรถจักรยานยนต์ ของ 1 ในผู้ต้องหา นอกจากนี้ตำรวจเตรียมดำเนินคดีกับพ่อแม่ของเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ปล่อยปละละเลยให้บุตรหลานก่อเหตุดังกล่าวขึ้นซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก

ส่วนคดีที่ 2 เป็นคดีนักเรียนอาชีวะทะเลาะวิวาทแย่งชิงเสื้อรุ่นของ สน.บางบอน จับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุปล้นเสื้อรุ่นสถาบันของผู้เสียหายก่อนที่จะหลบหนีไป โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเย็นวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้เสียหาย 2 คน ซึ่งเป็นนักศึกษาของสถาบันแห่งหนึ่งได้ขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนเอกชัยขณะจอดที่จุดเกิดเหตุ มีกลุ่มคนร้าย ซึ่งเป็นนักศึกษาของวิทยาลัยอีกสถาบันหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ตามมาประกบและทำร้ายร่างกายก่อนจะใช้อาวุธปืนบังคับข่มขู่ให้ถอดเสื้อรุ่นสถาบันก่อนจะหลบหนีไป จากนั้นผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.บางบอน ให้ช่วยติดตามผู้ก่อเหตุ ก่อนที่ชุดสืบสวนจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจนติดตามไปถึงตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คน เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 16-17 ปี พร้อมของกลางเสื้อรุ่นที่กลุ่มคนร้ายปล้นชิงไป

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง เพราะเห็นผู้เสียหายผ่านมาในจุดเกิดเหตุและเห็นเสื้อรุ่นจึงเกิดความคึกคะนองอยากได้เสื้อต่างสถาบันจึงเข้าไปก่อเหตุซึ่งคดีนี้ผู้ต้องหาทั้งสองคนยืนยันว่าไม่มีรุ่นพี่ หรือบุคคลอื่นสั่งการให้มาก่อเหตุดังกล่าว


ด้าน พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เปิดเผยว่าในพื้นที่สนบางบอนมักจะมีกลุ่มวัยรุ่นต่างสถาบันก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้ง ทั้งที่มาจากพื้นที่นครบาลเองมาจากพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 โดยก่อนหน้านี้ได้มีการเรียกผู้บริหารรุ่นพี่และนักเรียนของแต่ละสถาบันมาหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันอีก แต่เนื่องจากติดในช่วงเวลาปิดภาคเรียนของแต่ละสถาบันจึงยังไม่สามารถนัดหมายมาพูดคุยกันได้ แต่ในสัปดาห์หน้าแต่ละสถาบันจะเริ่มเปิดภาคเรียนแล้วจึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ วางแผนดูแลจุดเสี่ยงต่อการเกิดเหตุในแต่ละจุดไว้เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปกวาดล้างจับกุมตรวจค้นในจุดที่อาจมีการซุกซ่อนอาวุธหรือสิ่งผิดกฎหมายของนักเรียนแต่ละสถาบันด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก