DSI จับเพิ่ม 3 ผู้ต้องหารายสำคัญแก๊งหลอกทำบัตร ปชช.ปลอม

ดีเอสไอ 12 ก.พ. – DSI จับเพิ่ม 3 ผู้ต้องหารายสำคัญแก๊งหลอกทำบัตรประชาชนปลอม พบบัญชีม้ามากกว่า 250 บัญชี เงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท


พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับนายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง แถลงข่าวตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีพิเศษ 3 จุด ได้แก่ พื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พื้นที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และพื้นที่จังหวัดอ่างทอง จับผู้ต้องหาเพิ่ม 3 ราย ได้แก่ นายเหม อายุ 54 ปี จับได้ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พฤติการณ์เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ใช้ในการจ่ายค่าเปิดบัญชีธนาคารเพื่อใช้เป็นบัญชีม้าแล้วนำไปกระทำความผิดต่าง ๆ ตรวจสอบพบว่าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-1 มี.ค.66 มีการโอนเงินไปบัญชีธนาคารอื่น ๆ ในยอดเงิน 500 บาท จำนวน 248 รายการ เมื่อตรวจสอบบัญชีธนาคารผู้รับโอนเงิน พบว่าเป็นชื่อบัญชีธนาคารที่ใช้หลอกเงินผู้เสียหายด้วยวิธีการต่าง ๆ อีกหลายราย

ส่วนนางสาววิมลณัฐ อายุ 19 ปี ถูกจับกุมตัวได้ในพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้ต้องหารายนี้เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่แก๊งทำบัตรประชาชนปลอมใช้รับเงินจากผู้เสียหาย เป็นบัญชีธนาคารลำดับชั้นที่ 3 อีกรายคือนางสาววลีรัตน์ อายุ 27 ปี จับกุมในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง รายนี้เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่แก๊งทำบัตรประชาชนปลอมใช้รับเงินจากผู้เสียหาย เป็นบัญชีธนาคารลำดับชั้นที่ 1 ซึ่งผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าวกว่า 20 ราย มีเงินโอนเข้าบัญชีรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท


คดีนี้เป็นการขยายผลจับแก๊งทำบัตรประชาชนก่อนหน้านี้จับกุมแล้ว 3 ราย ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดนนทบุรี ครั้งนี้จับเพิ่มอีก 3 ราย เป็นแก๊งทำบัตรประชาชนปลอมหลอกลวงชาวต่างชาติ โดยใช้เฟซบุ๊ก 2 เพจ คือ “เปิดรับลงทะเบียนสิทธิ์ ทำบัตร” และ “รับสิทธิ์ลงทะเบียน” โฆษณารับทำบัตรประชาชน อ้างว่าใส่ข้อมูลในระบบฐานข้อมูลของกรมการปกครองได้ ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันนําข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ร่วมกันฉ้อโกง/ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น/ฉ้อโกงประชาชน เป็นผู้สนับสนุนในความผิดฐานฟอกเงิน ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ” โดยเหยื่อแต่ละราย เสียค่าดำเนินการ จำนวน 15,000-25,000 บาท และมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงิน แต่ไม่ได้รับบัตรประชาชนตามที่กล่าวอ้าง

สำหรับเพจที่มีการเปิดเพื่อหลอกลวง มีมากกว่า 250 บัญชี พบเงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท อยู่ระหว่างเชื่อมโยงขยายผลไปยังองค์กรอาชญากรรม .-119-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งกวาดล้างแก๊งไทใหญ่ 999

กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น

ผู้การอยุธยา สั่งสอบ ตร. เก็บส่วยร้านอาหาร

แฉคลิปเสียงชายอ้างเป็นตำรวจ เรียกเก็บเงินรายเดือนจากร้านอาหาร พอปฏิเสธถูกลงตรวจถี่ยิบ ล่าสุด ผู้การฯ อยุธยา สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน

ปิด “จุดชมวิวภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว เหตุเสียงปืนดังข้ามแดน-กระสุนตกใส่หลังคาบ้าน

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ชายแดนไทย-สปป ลาว อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเสียงปืนดังข้ามแดน และพบกระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน

กทม.พาสื่อดูซากตึก สตง. คาดอีก 2-3 วัน ภารกิจเสร็จสิ้น

กทม.พาสื่อลงพื้นที่ดูซากตึก สตง. ขณะนี้เคลียร์ถึงชั้นใต้ดินซึ่งเป็นจุดสุดท้าย คาดภารกิจการค้นหาผู้สูญหายและรื้อซากจะเสร็จสิ้นในอีก 2-3 วัน