ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ “ร.ต.ท.” ยิงนักธุรกิจดับบนทางด่วน

กรุงเทพฯ 30 ธ.ค. – ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ “ร.ต.ท.” ยิงนักธุรกิจเสียชีวิตบนทางด่วน เชื่อสาเหตุมาจากการขัดผลประโยชน์ เตรียมเรียกครอบครัวผู้เสียชีวิตเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม และคุมตัว “ร.ต.ท.” ฝากขังศาลอาญา วันพรุ่งนี้ (31 ธ.ค.)


พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยภายหลังศาลอนุมัติหมายจับ ร.ต.ท.ณรงค์วัส รอง สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก ข้อหาพยายามฆ่า และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

พล.ต.ต.ธนันท์ธร เปิดเผยว่า หลังเข้าสอบปากคำนานกว่า 6 ชั่วโมง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ เนื่องจากมีปากเสียงกันภายในรถตู้ เพราะถูกผู้เสียชีวิตหลอกว่าจะช่วยเคลียร์ปัญหาหนี้สินที่ติดค้าง 2 ล้านบาท และอ้างว่าจะให้การช่วยเหลือโยกย้ายตำแหน่งงานจากสายงานสอบสวนไปสืบสวน


จากคำให้การผู้ต้องหาอ้างว่ารู้จักกับผู้เสียชีวิตเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในฐานะที่ผู้เสียชีวิตเคยเป็นผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก ว่าธุรกิจถูกฉ้อโกง ต่อมาผู้เสียชีวิตชักชวนให้มาทำงานพิเศษเป็นคนขับรถส่วนตัวและรักษาความปลอดภัย แลกกับค่าจ้างวันละ 1,000 บาท นอกจากนี้ผู้ต้องหายังอ้างว่าส่วนตัวมีปัญหาเรื่องหนี้สินในระบบ 2 ล้านบาท จากการไปกู้เงินมาลงทุนทำธุรกิจ

จากคำให้การทั้งหมดตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงต้องขอสอบปากคำเพื่อขยายผลให้ครบถ้วนในประเด็นที่สงสัย โดยเฉพาะต้องขยายผลเรื่องธุรกิจของผู้เสียชีวิตว่าทำไมต้องจ้างให้ผู้ต้องหาไปทำงาน แต่เบื้องต้นทราบว่าธุรกิจดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา หลังจากนี้จะเชิญครอบครัวผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน

ภายหลังจากชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 สอบปากคำแล้วเสร็จจะส่งตัว ร.ต.ท.ณรงค์วัส ให้กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง ควบคุมตัวฝากขังศาลอาญา ในวันพรุ่งนี้ (31 ธ.ค.)


ทั้งนี้ มีข้อมูลว่าหลังจากผู้ต้องหาลงมือก่อเหตุแล้วหนีไป พบว่าได้ขับรถวนกลับมาเพื่อเอาโทรศัพท์มือถือที่ทำหล่นไว้ในจุดเกิดเหตุ ก่อนจะเห็นว่าคู่กรณียังไม่เสียชีวิตจึงบังคับให้โอนเงินให้จำนวน 20 ล้านบาท แต่ผู้เสียชีวิตไม่ยอม จึงถูกยิงซ้ำจนเสียชีวิต และผู้ต้องหาขับรถหนีไป ก่อนถูกจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง.-414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก