ซูเปอร์โพลเผยนักธุรกิจ 82.4% อยากเห็นการเมืองไทยเปลี่ยนแปลง

กรุงเทพฯ 17 ส.ค.- ซูเปอร์โพล เผยนักธุรกิจ-นักลงทุน 82.4% ต้องการเห็นการเมืองไทยเกิดการเปลี่ยนแปลง ชี้พรรคใหญ่มุ้งเยอะทำคนเบื่อ จับตาพรรคเล็กแจ้งเกิดการเมืองใหม่ ขณะที่ “อาร์ท-เอกสิทธิ์” จากปวงชนไทย นำกระตุ้น SMEs-ท่องเที่ยว ด้าน “ดร.เอ้” เด่นการศึกษา ส่วน “สุดารัตน์” มีประสบการณ์การเมือง


สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยรายงานผลสำรวจเรื่อง “โพลนักธุรกิจ นักลงทุน คิดอย่างไรต่อพรรคการเมือง” จากกลุ่มตัวอย่างนักธุรกิจ นักลงทุน ในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว บริการ การค้า และการผลิตทั่วประเทศจำนวน 450 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 10 – 16 ส.ค.2568 ที่ผ่านมา พบว่า ภาคธุรกิจมีมุมมองวิพากษ์วิจารณ์ต่อพรรคการเมืองขนาดใหญ่ในหลายมิติ โดย 74.3% เห็นว่าพรรคใหญ่เต็มไปด้วยความขัดแย้งภายใน มีหลายมุ้งหลายกลุ่ม ไม่เป็นเอกภาพ, 70.9% เห็นว่าพรรคใหญ่ถูกหนุนหลังโดยกลุ่มทุนขนาดใหญ่, และ 68.8% เห็นว่าพรรคใหญ่ไม่สะท้อนเสียงของธุรกิจ SMEs ที่เป็นฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าภาคธุรกิจ ไม่พึงพอใจต่อการเมืองแบบรวมศูนย์และผูกขาด เท่ากับเปิดพื้นที่ให้พรรคเล็กและพรรคเกิดใหม่เข้ามาเป็นทางเลือกที่ใกล้ชิดกับเศรษฐกิจจริงมากกว่า

ส่วนร้อยละ 82.4 ของนักธุรกิจและนักลงทุน แสดงความต้องการอย่างชัดเจนที่จะเห็นการเมืองไทยเกิดการเปลี่ยนแปลง ขณะที่มีเพียง ร้อยละ 9.5 ที่ไม่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และอีก ร้อยละ 8.1 ไม่มีความเห็นในประเด็นดังกล่าว ตัวเลขเชิงสถิติที่ปรากฏนี้มิได้เป็นเพียงการบ่งชี้เชิงปริมาณเท่านั้น หากยังสะท้อนถึง “กระแสความรู้สึกส่วนรวม” ของกลุ่มผู้มีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งกำลังเรียกร้องการปรับตัวของระบบการเมืองไทยอย่างมีนัยสำคัญ


นอกจากนี้ ผลสำรวจของซูเปอร์โพลแสดงให้เห็นว่า พรรคการเมืองเล็กและพรรคเกิดใหม่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะพรรคปวงชนไทย ที่มีคะแนนนำในหลายประเด็น เช่น สภาพคล่อง SMEs และสตาร์ทอัพ: ปวงชนไทย (37.6%) นำหน้าไทยสร้างไทย (31.8%) และไทยก้าวใหม่ (31.2%)  ความเข้มแข็งของ SMEs: ปวงชนไทย (45.6%) นำเหนือไทยก้าวใหม่ (43.8%) โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล: ปวงชนไทย (45.8%) นำหน้าไทยก้าวใหม่ (45.2%) พลังงานสะอาดและลดต้นทุนโลจิสติกส์: ปวงชนไทย (42.6%) นำหน้าไทยก้าวใหม่ (41.3%)

ขณะที่ ไทยสร้างไทยและ เสรีรวมไทย ก็มีความโดดเด่นในบางประเด็น เช่น การท่องเที่ยวคุณภาพสูง และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน นี่สะท้อนว่าพรรคเล็กกำลังถูกมองว่า “มีบทบาทเชิงนโยบาย” ที่จับต้องได้ แตกต่างจากภาพลักษณ์พรรคใหญ่ที่ถูกวิจารณ์หนัก

ที่น่าสนใจ คือ ผลการสำรวจภาพลักษณ์หัวหน้าพรรคการเมืองขนาดเล็กและพรรคเกิดใหม่ สะท้อนให้เห็นว่า นักธุรกิจและนักลงทุนมีการเชื่อมโยงคุณลักษณะของผู้นำกับบุคคลสำคัญในแวดวงการเมืองและภาคธุรกิจอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับศักยภาพด้านเศรษฐกิจและการเข้าถึงกลุ่มธุรกิจในมิติ ประสบการณ์ด้านธุรกิจและเศรษฐกิจพบว่า เอกสิทธิ์ คุณานันทกุล ได้รับการยอมรับสูงสุด ร้อยละ 38.9 สะท้อนภาพลักษณ์ของผู้นำที่มีพื้นฐานจากการปฏิบัติจริงในแวดวงธุรกิจ ตามมาด้วย สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ร้อยละ 36.5 และ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 32.5


ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าผู้นำรุ่นใหม่ที่มีรากฐานจากภาคธุรกิจเริ่มเป็นที่จับตามองของกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียทางเศรษฐกิจในด้านความใกล้ชิดกับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม เอกสิทธิ์ คุณานันทกุล ยังคงนำหน้า ร้อยละ 47.2 โดยมีสุชัชวีร์ (ร้อยละ 45.9) และสุดารัตน์ (ร้อยละ 44.8) ติดตามมาอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับด้าน ความสามารถในการเข้าถึงและเป็นที่ยอมรับในภาคธุรกิจ ซึ่งเอกสิทธิ์ได้รับคะแนนสูงที่สุด ร้อยละ 48.9 ขณะที่สุชัชวีร์ (ร้อยละ 47.3) และสุดารัตน์ (ร้อยละ 45.3) ได้คะแนนตามลำดับ สะท้อนว่าผู้นำที่สามารถสร้าง “ความใกล้ชิด” และ “ความเชื่อมโยง” กับกลุ่มธุรกิจจะได้รับการยอมรับมากขึ้นในยุคที่ภาคเศรษฐกิจต้องการพันธมิตรทางการเมืองที่ตอบสนองปัญหาได้รวดเร็ว

ด้าน การดูแลแรงงานและสวัสดิการ ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่า เอกสิทธิ์ คุณานันทกุล (ร้อยละ 42.9) ได้เปรียบเหนือสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (ร้อยละ 41.0) และสะท้อนบทบาทของผู้นำที่ถูกมองว่าสามารถเชื่อมโยงประเด็นการคุ้มครองแรงงานเข้ากับผลประโยชน์ของภาคธุรกิจได้อย่างสมดุล

อย่างไรก็ตาม ในมิติที่เกี่ยวข้องกับ ความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส และ ประสบการณ์ทางการเมือง กลับเป็นชื่อของนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ที่ยังคงมีความโดดเด่นและได้รับการยอมรับสูงกว่า

ผลโพลชี้ให้เห็นว่า ผู้นำพรรคเล็กและพรรคเกิดใหม่ เริ่มได้รับการยอมรับจากภาคธุรกิจ โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ ความสามารถทางเศรษฐกิจและการเข้าถึงกลุ่มทุนจริง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่น แต่ในขณะเดียวกัน คุณลักษณะด้านความน่าเชื่อถือทางการเมืองและคุณธรรมจริยธรรม ยังคงเป็นพื้นที่ที่ผู้นำรุ่นใหม่จำเป็นต้องพัฒนาและสร้างความเชื่อมั่นให้มากขึ้น หากต้องการก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกสำคัญของสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

“ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” ไม่กังวลปมคุณสมบัติ

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” อุบตอบ “กล้าธรรม” ได้กระทรวงอะไรเพิ่ม ไม่กังวลปมคุณสมบัติ เหตุตัวเองเป็น “รมต.” มา 2 รอบแล้ว แย้ม เลขาฯ พรรค ต้องได้เก้าอี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เดินทางมายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อพบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเป็นการส่วนตัว จากนั้นเวลา 16.50 น. นายอนุทิน และ ร.อ.ธรรมนัส เดินลงจากที่ทำการพรรคมายังร้านกาแฟจาริสต้าร์ ซึ่งมี น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส รออยู่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส สั่งเครื่องดื่มอเมริกาโน่ร้อน ไม่หวาน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มาซื้อกาแฟวันนี้ หมายความว่าได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนมารับภรรยา เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรมมีการพูดคุยตำแหน่งรัฐมนตรีลงตัวแล้วหรือไม่ […]

พายุไต้ฝุ่น ‘เผ่ย์ผ่า’ ถล่มชิซูโอกะในญี่ปุ่น

โตเกียว 6 พ.ย. – พายุไต้ฝุ่น “เผ่ย์ผ่า” (Peipah) ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในจังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันศุกร์ โดยมีรายงานว่าลมกระโชกแรงจากพายุลูกนี้ทำลายอาคารไปอย่างน้อย 220 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน เอ็นเอชเค สื่อสาธารณะของญี่ปุ่นรายงานว่า ตรวจพบกระแสลมแรงใน เขตเทศบาล 4 แห่งของจังหวัดชิซูโอกะ ซึ่งรวมถึงเมืองโยชิดะและเมืองมากิโนะฮาระ เจ้าหน้าที่เมืองมากิโนะฮาระระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 20 ราย ณ เวลา 21:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย นอกจากนี้ เอ็นเอชเค ยังรายงานด้วยว่า มีอาคารอย่างน้อย 43 หลังในเมืองมากิโนะฮาระถูกทำลายทั้งหมดหรือเสียหายครึ่งหนึ่งและอีก 184 หลังได้รับความเสียหายบางส่วน พายุ “เผ่ย์ผ่า” ได้ลดระดับลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเวลาประมาณ 21:00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น […]

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลั่นนั่งนายกฯ ควบ มท.1 เร่งแก้ปัญหา 4 ด้าน

พรรคภูมิใจไทย 7 ก.ย.- “อนุทิน” ลั่นไม่ติดหนี้บุญคุณใคร นอกจากประชาชน โพล่งนั่งนายกฯ ควบ มท.1 ประกาศเร่งแก้ปัญหา 4 ด้าน ยันไม่มีแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. ทุกอย่างกางบนโต๊ะโปร่งใส ไม่ยัดเยียดปรุงแต่ง หรือกลั่นแกล้งใคร เหมือนที่เคยโดน สั่งล่วงหน้า ครม.หนู เวลาน้อยแค่ 4 เดือน ต้องไม่เหนื่อย-ไม่ป่วย-ไม่ลา-ทำงานไม่มีวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า นับเป็นพระมหากรุณากรุณาธิคุณ แก่ตัวกระผมอันหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ผมยืนยันด้วยความตระหนักดีว่าการเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันนี้ อาจมีข้อจำกัดหลายประการหลายด้าน ในการปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม ผมให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่าน ว่า ตนและคณะรัฐมนตรีของผมทุกคน จะมุ่งมั่นทุ่มเททำงานด้วยความไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย จะใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเรามีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกำลังกาย กำลังสมอง เพื่อให้ประเทศไทยของเราได้หลุดพ้นจากสถานการณ์วิกฤตต่าง ๆ โดยเร็วที่สุด ต้องขอขอบพระคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ความมั่นใจโดยผ่านความไว้วางใจและการลงคะแนนเสียงของบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาชนที่ได้ให้การสนับสนุนตนให้เข้ามาแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า และได้เสียสละให้ประเทศไทยมีทางออกและหลังจากลงคะแนนเสียงเรียบร้อยแล้ว ได้กลับไปอยู่ในเจตนารมณ์เดิมของพรรคประชาชนคือการเป็นฝ่ายตรวจสอบ ตนได้ขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรรกล้าธรรม […]

“อนุทิน” รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32

พรรคภูมิใจไทย 7 ก.ย. – “อนุทิน ชาญวีรกูล” รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ถวายสัตย์จะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มกําลังความสามารถ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และมีคุณธรรม ขณะที่พรรคร่วมฯ เข้ายินดีพร้อมเพรียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 กันยายน 2568) เวลา 11.30 น. ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางมาถึงที่ทำการพรรคภูมิใจไทย โดยได้อัญเชิญไปยังสถานที่ในการรับสนองพระบรมราชโองการฯ ซึ่งพรรคจัดไว้ที่ชั้น 4 ของอาคารที่ทำการพรรคภูมิใจไทย จากนั้น เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ด้วยความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

สส. รวมชื่อยื่นศาลวินิจฉัย “อนุทิน-ณัฐพงษ์” พ้นสมาชิกภาพ ปมทำ MOA

รัฐสภา 7 ก.ย.-เปิดหนังสือ สส. รวมชื่อส่งประธานสภาฯ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย “อนุทิน-ณัฐพงษ์” พ้นสมาชิกภาพ ปมทำ MOA ยุบสภา 4 เดือน-ทำประชามติแก้ รธน. แลกโหวตนั่งนายกฯ เหตุเข้าข่ายครอบงำชี้นำพรรคการเมือง ก้าวก่ายแทรกแซงเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ วันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสภาฯ ได้ร่วมกันเข้าชื่อยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพการเป็น สส. ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคประชาชน และ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (2) ประกอบมาตรา 185 (1) และ (2) ซึ่งประทับตรารับหนังสือโดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 เวลา 11.38 น. […]