คนไทย 40.7% กลับมาทุกข์หลังสงกรานต์ วิตกเศรษฐกิจ-การเมือง

20 เม.ย. – ซูเปอร์โพล เผยคนไทย 40.7% กลับมาทุกข์หลังสงกรานต์ วิตกเศรษฐกิจ-การเมือง ชี้ ‘แพทองธาร’ ยังครองใจประชาชน 60.3% เหตุภาพลักษณ์ผู้นำรุ่นใหม่ นโยบายช่วยคนจนโดนใจ


เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2568 นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “สังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ในสายตาของประชาชน” กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ รวมจำนวนตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติทั้งสิ้น 1,215 ราย ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 15 – 19 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา

นายนพดล กล่าวว่า ดัชนีความสุขคนไทยหลังสงกรานต์พบว่า จำนวนมากหรือร้อยละ 40.7 กลับมารู้สึกทุกข์เหมือนเดิม ถึงทุกข์มากขึ้นเพราะเศรษฐกิจไม่ดี ไม่มีงานทำ สุขภาพไม่ดี มีปัญหาครอบครัว ยาเสพติด มลพิษ ความวุ่นวายการเมือง และความไม่ปลอดภัย ในขณะที่ ร้อยละ 24.8 รู้สึกกลาง ๆ ไม่สุข ไม่ทุกข์ เพราะไม่เห็นมีอะไรดี ทรง ๆ มีขึ้น ๆ ลง ๆ ยังมองไม่ออกว่าจะเป็นอย่างไร เป็นต้น และร้อยละ 34.5 มีความสุข เหมือนเดิม ถึงเพิ่มขึ้ เพราะความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว การงานอาชีพดี ความสัมพันธ์ของคนในชุมชน เพื่อนดีเป็นกัลยาณมิตร ทำบุญเข้าวัด สมาธิวิปัสสนา เป็นต้น สะท้อนว่าแม้วันหยุดเทศกาลสงกรานต์จะช่วยฟื้นฟูจิตใจบางส่วน แต่ความทุกข์จากปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมยังคงหนักหน่วงในมุมมองประชาชน


นายนพดล กล่าวอีกว่า ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อสอบถามถึงความรู้สึกปลอดภัย และรู้สึกตื่นตกใจต่อคนหรือเจ้าหน้าที่รัฐติดอาวุธ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.2 รู้สึก ตกใจ และไม่เชื่อมั่น ต่อเจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อเห็นกลุ่มคน ขบวนการออกมาคุกคามประชาชนและก่อความไม่สงบในที่สาธารณะ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 62.4 รู้สึก “ปลอดภัย” รู้สึกอุ่นใจ เมื่อเห็น “ตำรวจ” ออกตรวจตรา หรืออยู่ในที่เกิดเหตุ ร้อยละ 60.5 รู้สึก เชื่อมั่น เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่รัฐออกมาชี้แจงข้อสงสัยได้ดีมีเยียวยาความเสียหาย ร้อยละ 57.8 รู้สึก ปลอดภัย สบายใจ เมื่อมีเจ้าหน้าที่รัฐออกให้บริการอำนวยความยุติธรรม และร้อยละ 54.1 รู้สึก ตื่นตกใจ เมื่อเห็นทหาร หรือ คนแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่รัฐออกมาถืออาวุธ สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า “ศรัทธา” ของประชาชนต่อรัฐ ไม่ได้ขึ้นกับอาวุธหรืออำนาจ แต่ขึ้นอยู่กับ “พฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐ” และ “การสื่อสาร” มากกว่า อย่างไรก็ดี ผลสำรวจสะท้อนด้วยว่า “ตำรวจ” ยังเป็นสัญลักษณ์ของความหวังและความมั่นใจในระดับปฏิบัติการจริง โดยเฉพาะเมื่อตำรวจทำหน้าที่เชิง “ผู้พิทักษ์” ที่ให้บริการประชาชนอย่างใกล้ชิด

นายนพดล กล่าวอีกว่า ที่น่าเป็นห่วงคือเมื่อสอบถามถึงความหวาดกลัวต่อภัยเศรษฐกิจพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.9 กลัวเงินไม่พอใช้ กลัวเศรษฐกิจแย่ ข้าวของราคาแพง ค้าขายไม่ดี ร้อยละ 75.2 กลัวเงินออม เงินเก็บ ลดลง กลัวเงินหมด ร้อยละ 62.2 กลัวนโยบายรัฐบาลทำไม่ได้จริง กลัวนโยบายรัฐมีผลต่อเงินในกระเป๋า ร้อยละ 61.8 กลัวสงครามการค้าโลก กลัวราคาน้ำมันพุ่ง กลัวภาษี และร้อยละ 53.5 กลัวตกงาน กลัวถูกลดเงินเดือน กลัวถูกลดชั่วโมงทำงาน ตามลำดับ ข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาเชิงปากท้อง ยังเป็นความกังวลอันดับหนึ่งที่ประชาชนสัมผัสได้ชัดเจนที่สุด นี่ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจภาพใหญ่ แต่คือความทุกข์ของชีวิตประจำวันที่เกิดขึ้นจริงในตลาดสด ที่ทำงาน และที่บ้าน นอกจากนี้ ยังสะท้อน “ความรู้สึกไม่มั่นคงทางการเงิน” ที่กำลังลามจากภาวะเงินไม่พอใช้ ไปสู่ความกลัวว่าจะไม่มี “กันชน” ป้องกันตนเองในอนาคต แสดงให้เห็นว่า ประชาชนกำลังเข้าสู่ “โหมดของการเอาตัวรอด” มากกว่า “การลงทุนเพื่อชีวิต” ดังนั้น การปรับตัวของประชาชน การออกนโยบายรัฐบาลใหม่ ๆ และเศรษฐกิจระหว่างประเทศจึงเป็นกลไกสำคัญในการฟื้นศรัทธาและลดความหวาดกลัวต่อภัยเศรษฐกิจของประชาชน

นายนพดล กล่าวต่อว่า ที่น่าสนใจคือ ความนิยมต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผลสำรวจของซูเปอร์โพล พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 60.3 เชื่อมั่นมากถึงมากที่สุดต่อนายกฯ เพราะนโยบายตอบโจทย์ช่วยเหลือคนรายได้น้อย แก้ปัญหาเศรษฐกิจ เป็นผู้หญิงคนรุ่นใหม่ เก่ง ทำงานเร็ว ได้บารมีจากพ่อ ภาพลักษณ์ส่วนตัว รักครอบครัว ดูดีมีสง่า คิดอ่านพูดทันสมัย สื่อสารตรงประชาชน และปรับตัวเก่ง เป็นต้น ในขณะที่ ร้อยละ 24.8 เชื่อมั่นน้อยถึงไม่เชื่อมั่นเลย เพราะขาดประสบการณ์ เป็นเครือข่ายตระกูลการเมือง ยังไม่เห็นผลงานชัดเจน มีหลุดอารมณ์ดูไม่ดี กังวลผลของนโยบายบางอย่าง ยังไม่เด็ดขาด และเห็นแก่พวกพ้อง เป็นต้น และร้อยละ 14.9 ไม่มีความเห็น


“ผลสำรวจนี้สะท้อนให้เห็นว่า น.ส.แพทองธาร ได้รับแรงสนับสนุนในระดับที่มั่นคง แต่ไม่ใช่ไร้ข้อท้าทาย โดยเฉพาะจากกลุ่มที่เฝ้าจับตามองด้วยความระแวดระวัง ปัจจัยสนับสนุนความเชื่อมั่น: ผู้นำรุ่นใหม่ ผู้หญิงเก่ง และสื่อสารตรงใจประชาชน เหตุผลที่ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อมั่น ได้แก่ ภาพลักษณ์ของ “คนรุ่นใหม่” ที่เก่ง ทำงานเร็ว และพูดจาทันสมัย เป็น “ผู้หญิง” ที่สะท้อนความนุ่มนวลและเข้าถึงได้ ในขณะที่ยังแสดงออกถึงความสามารถ นโยบายที่ประชาชนมองว่า “ตอบโจทย์คนรายได้น้อย” และ “ช่วยเศรษฐกิจฐานราก” การสื่อสารที่ “ตรงไปตรงมา” และการปรับตัวเก่งในสถานการณ์ใหม่ ๆ นี่คือ สูตรผสมระหว่างภาพลักษณ์กับเนื้อหาทางนโยบาย ที่ทำให้เธอกลายเป็น “ความหวังใหม่” ของประชาชนในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของประเทศ” นายนพดล กล่าว.-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นอนคุกคืนแรกเครียด ไม่กินมื้อเย็น

กรมราชทัณฑ์ 18 พ.ค. – อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นอนคุกคืนแรกเครียด ไม่กินมื้อเย็น ส่วน “เปรมชัย” กักโรคอยู่แดนพยาบาลเรือนจำ ภายหลังวานนี้ (17 พ.ค.) พนักงานสอบสวนนำตัว 3 ผู้ต้องหา คดียักยอกเงินวัดไร่ขิง ได้แก่ นายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรือ อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นายเอกพจน์ ภูฆัง หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ ภูฆัง พระลูกวัดคนสนิทของอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ โบรกเกอร์เว็บพนันออนไลน์ ฝากขังศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน และส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้ออกหมายขังระหว่างสอบสวน ให้ขัง น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ ที่ทัณฑสถานหญิงกลางโดยได้ดำเนินการรับตัวและนำตัวกักโรคโควิด-19 ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในแดนระหว่างพิจารณาคดี เบื้องต้นตรวจสุขภาพร่างกายปกติ […]

ฝนตกหนักบนดอยสุเทพ น้ำหลากท่วมชุมชนเขตเทศบาลเชียงใหม่

เชียงใหม่ 18 พ.ค.-ฝนตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ นานนับชั่วโมง ทำให้น้ำป่าไหลหลากลงมาตามลำห้วย และเอ่อล้นท่อระบายน้ำ ท่วมขังชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนกาดก้อม ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังกังวล กลัวจะเหมือนปีที่ผ่านมา ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ทำให้รถเล็ก ที่จะผ่านเส้นทางบริเวณดังกล่าว ผ่านลำบาก รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์ดับหลายคัน ระดับน้ำสูง 30 เซนติเมตร ขณะที่ชาวบ้านขอความร่วมมือผู้ที่ขับรถยนต์ผ่านเส้นทางเข้าในชุมชน ขอให้ชะลอความเร็ว เนื่องจากเกิดคลื่นน้ำ ทะลักเข้าไปในบ้าน ทรัพย์สินจะเสียหาย หากเป็นไปได้ ให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง ไปใช้เส้นทางอื่นแทน ขณะนี้ระดับน้ำยังคงสูงขึ้น เนื่องจากฝนยังไม่หยุดตก ทำให้การสัญจรบางเส้นทางลำบาก นอกจากนั้นยังมีน้ำท่วมขังถนนอีกหลายสาย รอการระบาย ทำให้มีประชาชนติดค้างตามร้านค้าร้านอาหารข้างทางเพื่อหลบฝน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาและเร่งระบายน้ำ หลังจากนั้นประมาณ 2-3 ชั่วโมง ระดับน้ำน่าจะลดลง ล่าสุดเช้าวันนี้ ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว บางจุดยังมีน้ำขังบนถนนเล็กน้อย ถนนตามชุมชนมีแต่ขยะและถุงขยะลอยมากับน้ำท่วม ทำให้รถขยะของเทศบาลนครเชียงใหม่ เร่งเก็บเศษขยะและถุงขยะ อย่างไรก็ตามประชาชนส่วนใหญ่ยังกังวลเกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วม กลัวจะเหมือนปีที่ผ่านมา ขณะที่ผู้รับเหมาดูดตะกอนดินทรายในแม่น้ำปิง ได้นำเรือดูดทรายลำแรกจากจังหวัดอ่างทอง มาถึง ลงในน้ำปิง ตรงข้ามกับสำนักงานแขวงนครพิงค์ ย่านวังสิงห์คำ ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

ตำรวจเร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารวัดไร่ขิง กว่า 20 บัญชี

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจเร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารวัดไร่ขิง กว่า 20 บัญชี หาความเชื่อมโยงการยักยอกเงินของอดีตเจ้าอาวาส เบื้องต้นพบมีอีก 7 บัญชี ที่ใช้กล่าวหาการกระทำความผิด เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบและสอบปากคำพยาน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด คดียักยอกเงินวัดไร่ขิง วันนี้ (18 พ.ค.68) พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้ข้อมูลว่า ทางพนักงานสอบสวนยังคงเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานเส้นทางการเงิน สอบปากคำพยานและผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัดไร่ขิง จำนวนหลายบัญชีทยอยเข้ามาสอบปากคำ โดยตั้งศูนย์ปฏิบัติงานที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน จากข้อมูลการสอบสวนปัจจุบัน พบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินระหว่างนายแย้ม กับ นางสาวอรัญญาวรรณหลายช่องทาง ช่วงปี 2563 ถึง ปี 2567 รวมเป็นเงินกว่า 300 ล้านบาท -แยกออกเป็นบัญชีส่วนตัวของอดีตพระแย้ม โอนเงินให้นางสาวอรัญญาวรรณในช่วงปี 2566 รวมกัน 80 ล้านบาท-ใช้บัญชีของอดีตพระเอกพจน์ หรือนายเอกพจน์ โอนเงิน และตระเวณนำเงินสดไปฝากตู้ธนาคารต่าง ๆ ให้นางสาวอรัญญาวรรณ หลายรายการรวมแล้วกว่า 200 ล้านบาท-และพบว่ามีชื่อบัญชีบุคคลอีก 1 บัญชี โอนเงินให้ นางสาวอรัญญาวรรณ […]