ครูป้องนักเรียน​หญิง หลังถูก รปภ.ล่อลวง แจ้งความคดีไม่คืบ

กทม. 1 ก.ค.- ครูออกโรงป้องนักเรียน​หญิง​วัย 14 ปี หลังถูก รปภ.โรงเรียน​ดังล่อลวง ​แต่เด็กหนีออกมาได้ แจ้งความคดีไม่คืบแถมถูกบุคลากร​โรงเรียนต่อว่า จนเด็ก​เสียสภาพจิต ร้องสายไหมต้องรอดช่วยเหลือ


เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ครูโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งย่านบางเขน พานักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 วัย 14 ปี มาร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด เนื่องจากนักเรียนถูก รปภ. โรงเรียนล่อลวงไปล่วงละเมิด โชคดีนักเรียนหนีออกมาได้ แต่คดีไม่มีความคืบหน้าและถูกบุคลากรในโรงเรียนต่อว่า หาว่านักเรียนสมยอมเอง โดยไม่สนใจสภาพจิตใจของเด็ก จนเกิดความไม่สบายใจ จึงมาร้องเรียนเพื่อหวังว่าจะช่วยทำให้คดีเกิดความคืบหน้า

ครูเปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ช่วงประมาณ 17.00 น. นักเรียนกำลังนั่งชาร์จแบตโทรศัพท์หลังเลิกเรียนระหว่างรอกลับบ้านที่ป้อมยาม ซึ่งบริเวณตรงนี้ ตัวนักเรียนชอบมานั่งเป็นปกติอยู่แล้ว ปรากฏว่า รปภ. คนดังกล่าว ได้มาพูดชักชวนกับนักเรียนว่าเอา Power Bank ดีไหม ชาร์จเร็วกว่า เดี๋ยว รปภ. จะพานักเรียนไปเอาพาวเวอร์แบงค์ที่หอพักย่านการเคหะชุมชนออเงิน ด้วยความที่ตัวนักเรียนเองก็รู้จัก รปภ. มานาน และมีความไว้ใจในตัว รปภ. จึงตัดสินใจซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ตาม รปภ. ไป


เมื่อไปถึงที่หอพัก รปภ. ล็อกห้องแล้วหยิบ Power Bank ให้นักเรียน ก่อนจะพูดกับนักเรียนว่า ตนคิดถึงลูกสาว แล้วจากนั้นจับนักเรียนผู้เสียหายมาโอบกอด นั่งตัก แล้วใช้มือกระทำอนาจาร โดยการจับที่หน้าอกและอวัยวะเพศของนักเรียน จนนักเรียนขัดขืนและร้องขอว่าอย่า พอได้แล้ว ตัว รปภ. เองก็บอกให้นักเรียนเงียบ ๆ อย่าเสียงดัง ก่อนที่นักเรียนจะพูดโน้มน้าวว่า หนูต้องรีบกลับ เพราะตาที่บ้านเป็นห่วง มันเย็นมากแล้ว ทางรปภ. ก็พานักเรียนกลับไปส่งที่บ้าน

เมื่อกลับมาถึงบ้าน นักเรียนก็เล่าเรื่องนี้ให้แม่ฟัง ทางแม่จึงเกิดความไม่สบายใจ จึงพานักเรียนไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.สายไหม แล้วแจ้งมายังตนในฐานะเป็นครูที่ปรึกษา ทางครูเองจึงได้ประสานขอความช่วยเหลือไปทางโรงเรียน ช่วยวิ่งเรื่องคดี และพาน้องไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 เดือนผลถึงจะออก

ส่วนทางโรงเรียนเอง เบื้องต้นได้มาพูดคุยกับทางนักเรียนเพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาและแจ้งกับทางครูว่า ตอนนี้ไม่ให้ รปภ. คนดังกล่าวทำงานที่โรงเรียนแล้ว แต่ไม่สามารถที่จะไปจับกุมหรือนำตัวมาส่งตำรวจ ได้ อ้างว่า รปภ. คนดังกล่าว ไม่ใช่ลูกจ้างของโรงเรียนโดยตรง แต่เป็น รปภ. จากบริษัท outsource ซึ่งตอนนี้ทางบริษัท outsource ก็เอา รปภ. คนนี้ออกจากโรงเรียนแล้ว


ทางครูระบุอีกว่า นักเรียนหญิงคนนี้ ที่บ้านมีฐานะยากจนมาก พ่อแม่แทบไม่มีเวลาในการดูแลลูก เนื่องจากต้องทำงานรับจ้าง ตนจึงต้องมาช่วยดูแลนักเรียนเอง ส่วนตัวนักเรียน ปกติแล้วก็รู้จักกับ รปภ. คนนี้ดี เพราะชอบมานั่งที่ป้อมยามบ่อยครั้ง บางที รปภ. เองก็ให้เงินนักเรียน เพราะนักเรียนยากจนและไม่ค่อยมีเงิน ซึ่งตัวนักเรียนก็มีวุฒิภาวะที่ยังไม่โตพอที่จะแยกแยะว่า รปภ. คนนี้สมควรที่จะไว้วางใจหรือไม่ พอ รปภ. ชักชวน ก็เลยตามไป ส่วนตัว รปภ. คนดังกล่าว ทราบว่าทำงานที่โรงเรียนนี้มานานเกิน 3 ปีแล้ว และเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปของนักเรียนหลายคน บางทีก็ชอบให้เงินนักเรียนคนอื่น ๆ ด้วย แต่ไม่ทราบประวัติมาก่อนว่าเคยก่อเหตุในลักษณะนี้กับนักเรียนคนอื่นหรือไม่

อย่างไรก็ตามทางครูระบุด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออีกว่าไม่มีใครมาถามถึงสภาพจิตใจของนักเรียนคนนี้เลย หลังเกิดเหตุน้องนักเรียนคนนี้นอนไม่หลับ กินข้าวไม่ได้ และหวาดกลัวไม่กล้าที่จะมาเรียน ยังถูกบุคลากรในโรงเรียนตำหนิต่อว่า หาว่าสมยอมไปกับ รปภ. เอง โดยไม่มาสอบถามสภาพจิตใจของน้องว่ารู้สึกอย่างไร มีแต่เพียงตนในฐานะที่ปรึกษาที่คอยห่วงใยความรู้สึกและรับฟังน้อง อีกทั้งครูเองยังมีความกังวลในเรื่องของทางคดี เพราะผ่านมาแล้วหลายวัน ทางตำรวจเองก็ยังไม่ทำหนังสือขอภาพวงจรปิดจากในโรงเรียนและยังไม่เชิญตัวน้องและครอบครัว มาสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพ จึงเกรงว่า คนร้ายจะไหวตัวแล้วหลบหนีไปหรืออาจจะกลับมาทำอันตรายกับน้องได้ เพราะ รปภ. ก็รู้แหล่งที่อยู่ของน้อง

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์ตัวอย่าง ที่เป็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน แม้กระทั่งบุคลากรในโรงเรียนเองก็ยังไม่สามารถไว้วางใจได้ ยังกล้าที่จะล่วงละเมิดหรือกระทำอนาจารนักเรียน เบื้องต้น ได้ประสานไปยังทาง ผกก.สน.สายไหม แล้วว่า ให้เร่งรัดพนักงานสอบสวน รีบดำเนินการนัดหมายสหวิชาชีพมา มาร่วมสอบปากคำนักเรียนผู้เสียหายและครอบครัว กับเร่งให้ออกหนังสือไปยังโรงเรียน เพื่อดำเนินการขอภาพวงจรปิดและพยานหลักฐาน รวมทั้งได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐานและข้อมูลของ รปภ. ผู้ก่อเหตุแล้ว ส่วนเรื่องของคดีที่ล่าช้านั้น ยอมรับว่า ต้องใช้เวลาที่จะสามารถนัดสหวิชาชีพ มาร่วมสอบปากคำ กับนักเรียนผู้เสียหายได้ คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า จะสามารถดำเนินการนัดหมายสหวิชาชีพมาสอบปากคำร่วมกับน้องและออกหมายจับ รปภ. คนดังกล่าวได้ เบื้องต้นดูจากพฤติการณ์แล้ว เข้าข่ายความผิด 3 ข้อหา ได้แก่ พรากผู้เยาว์บุคคลอายุต่ำกว่า 15 ปี กระทำอนาจารบุคคลอายุต่ำกว่า 15 ปี และกักขังหน่วงเหนี่ยว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว

ช้างพลายขุนเดช

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” ไปสถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” สู่สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง จบดราม่า หลังฝากเลี้ยงที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่