ครูป้องนักเรียน​หญิง หลังถูก รปภ.ล่อลวง แจ้งความคดีไม่คืบ

กทม. 1 ก.ค.- ครูออกโรงป้องนักเรียน​หญิง​วัย 14 ปี หลังถูก รปภ.โรงเรียน​ดังล่อลวง ​แต่เด็กหนีออกมาได้ แจ้งความคดีไม่คืบแถมถูกบุคลากร​โรงเรียนต่อว่า จนเด็ก​เสียสภาพจิต ร้องสายไหมต้องรอดช่วยเหลือ


เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ครูโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งย่านบางเขน พานักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 วัย 14 ปี มาร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด เนื่องจากนักเรียนถูก รปภ. โรงเรียนล่อลวงไปล่วงละเมิด โชคดีนักเรียนหนีออกมาได้ แต่คดีไม่มีความคืบหน้าและถูกบุคลากรในโรงเรียนต่อว่า หาว่านักเรียนสมยอมเอง โดยไม่สนใจสภาพจิตใจของเด็ก จนเกิดความไม่สบายใจ จึงมาร้องเรียนเพื่อหวังว่าจะช่วยทำให้คดีเกิดความคืบหน้า

ครูเปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ช่วงประมาณ 17.00 น. นักเรียนกำลังนั่งชาร์จแบตโทรศัพท์หลังเลิกเรียนระหว่างรอกลับบ้านที่ป้อมยาม ซึ่งบริเวณตรงนี้ ตัวนักเรียนชอบมานั่งเป็นปกติอยู่แล้ว ปรากฏว่า รปภ. คนดังกล่าว ได้มาพูดชักชวนกับนักเรียนว่าเอา Power Bank ดีไหม ชาร์จเร็วกว่า เดี๋ยว รปภ. จะพานักเรียนไปเอาพาวเวอร์แบงค์ที่หอพักย่านการเคหะชุมชนออเงิน ด้วยความที่ตัวนักเรียนเองก็รู้จัก รปภ. มานาน และมีความไว้ใจในตัว รปภ. จึงตัดสินใจซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ตาม รปภ. ไป


เมื่อไปถึงที่หอพัก รปภ. ล็อกห้องแล้วหยิบ Power Bank ให้นักเรียน ก่อนจะพูดกับนักเรียนว่า ตนคิดถึงลูกสาว แล้วจากนั้นจับนักเรียนผู้เสียหายมาโอบกอด นั่งตัก แล้วใช้มือกระทำอนาจาร โดยการจับที่หน้าอกและอวัยวะเพศของนักเรียน จนนักเรียนขัดขืนและร้องขอว่าอย่า พอได้แล้ว ตัว รปภ. เองก็บอกให้นักเรียนเงียบ ๆ อย่าเสียงดัง ก่อนที่นักเรียนจะพูดโน้มน้าวว่า หนูต้องรีบกลับ เพราะตาที่บ้านเป็นห่วง มันเย็นมากแล้ว ทางรปภ. ก็พานักเรียนกลับไปส่งที่บ้าน

เมื่อกลับมาถึงบ้าน นักเรียนก็เล่าเรื่องนี้ให้แม่ฟัง ทางแม่จึงเกิดความไม่สบายใจ จึงพานักเรียนไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.สายไหม แล้วแจ้งมายังตนในฐานะเป็นครูที่ปรึกษา ทางครูเองจึงได้ประสานขอความช่วยเหลือไปทางโรงเรียน ช่วยวิ่งเรื่องคดี และพาน้องไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 เดือนผลถึงจะออก

ส่วนทางโรงเรียนเอง เบื้องต้นได้มาพูดคุยกับทางนักเรียนเพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาและแจ้งกับทางครูว่า ตอนนี้ไม่ให้ รปภ. คนดังกล่าวทำงานที่โรงเรียนแล้ว แต่ไม่สามารถที่จะไปจับกุมหรือนำตัวมาส่งตำรวจ ได้ อ้างว่า รปภ. คนดังกล่าว ไม่ใช่ลูกจ้างของโรงเรียนโดยตรง แต่เป็น รปภ. จากบริษัท outsource ซึ่งตอนนี้ทางบริษัท outsource ก็เอา รปภ. คนนี้ออกจากโรงเรียนแล้ว


ทางครูระบุอีกว่า นักเรียนหญิงคนนี้ ที่บ้านมีฐานะยากจนมาก พ่อแม่แทบไม่มีเวลาในการดูแลลูก เนื่องจากต้องทำงานรับจ้าง ตนจึงต้องมาช่วยดูแลนักเรียนเอง ส่วนตัวนักเรียน ปกติแล้วก็รู้จักกับ รปภ. คนนี้ดี เพราะชอบมานั่งที่ป้อมยามบ่อยครั้ง บางที รปภ. เองก็ให้เงินนักเรียน เพราะนักเรียนยากจนและไม่ค่อยมีเงิน ซึ่งตัวนักเรียนก็มีวุฒิภาวะที่ยังไม่โตพอที่จะแยกแยะว่า รปภ. คนนี้สมควรที่จะไว้วางใจหรือไม่ พอ รปภ. ชักชวน ก็เลยตามไป ส่วนตัว รปภ. คนดังกล่าว ทราบว่าทำงานที่โรงเรียนนี้มานานเกิน 3 ปีแล้ว และเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปของนักเรียนหลายคน บางทีก็ชอบให้เงินนักเรียนคนอื่น ๆ ด้วย แต่ไม่ทราบประวัติมาก่อนว่าเคยก่อเหตุในลักษณะนี้กับนักเรียนคนอื่นหรือไม่

อย่างไรก็ตามทางครูระบุด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออีกว่าไม่มีใครมาถามถึงสภาพจิตใจของนักเรียนคนนี้เลย หลังเกิดเหตุน้องนักเรียนคนนี้นอนไม่หลับ กินข้าวไม่ได้ และหวาดกลัวไม่กล้าที่จะมาเรียน ยังถูกบุคลากรในโรงเรียนตำหนิต่อว่า หาว่าสมยอมไปกับ รปภ. เอง โดยไม่มาสอบถามสภาพจิตใจของน้องว่ารู้สึกอย่างไร มีแต่เพียงตนในฐานะที่ปรึกษาที่คอยห่วงใยความรู้สึกและรับฟังน้อง อีกทั้งครูเองยังมีความกังวลในเรื่องของทางคดี เพราะผ่านมาแล้วหลายวัน ทางตำรวจเองก็ยังไม่ทำหนังสือขอภาพวงจรปิดจากในโรงเรียนและยังไม่เชิญตัวน้องและครอบครัว มาสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพ จึงเกรงว่า คนร้ายจะไหวตัวแล้วหลบหนีไปหรืออาจจะกลับมาทำอันตรายกับน้องได้ เพราะ รปภ. ก็รู้แหล่งที่อยู่ของน้อง

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์ตัวอย่าง ที่เป็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน แม้กระทั่งบุคลากรในโรงเรียนเองก็ยังไม่สามารถไว้วางใจได้ ยังกล้าที่จะล่วงละเมิดหรือกระทำอนาจารนักเรียน เบื้องต้น ได้ประสานไปยังทาง ผกก.สน.สายไหม แล้วว่า ให้เร่งรัดพนักงานสอบสวน รีบดำเนินการนัดหมายสหวิชาชีพมา มาร่วมสอบปากคำนักเรียนผู้เสียหายและครอบครัว กับเร่งให้ออกหนังสือไปยังโรงเรียน เพื่อดำเนินการขอภาพวงจรปิดและพยานหลักฐาน รวมทั้งได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐานและข้อมูลของ รปภ. ผู้ก่อเหตุแล้ว ส่วนเรื่องของคดีที่ล่าช้านั้น ยอมรับว่า ต้องใช้เวลาที่จะสามารถนัดสหวิชาชีพ มาร่วมสอบปากคำ กับนักเรียนผู้เสียหายได้ คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า จะสามารถดำเนินการนัดหมายสหวิชาชีพมาสอบปากคำร่วมกับน้องและออกหมายจับ รปภ. คนดังกล่าวได้ เบื้องต้นดูจากพฤติการณ์แล้ว เข้าข่ายความผิด 3 ข้อหา ได้แก่ พรากผู้เยาว์บุคคลอายุต่ำกว่า 15 ปี กระทำอนาจารบุคคลอายุต่ำกว่า 15 ปี และกักขังหน่วงเหนี่ยว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]