“จอนนี่ มือปราบ” แจ้งความกลับ 3 จนท. ปมรีสอร์ตรุกที่ดินนิคมฯ

อุบลราชธานี 7 ก.ค. – “จอนนี่ มือปราบ” แจ้งความกลับ 3 เจ้าหน้าที่ ปมถูกร้องสร้างรีสอร์ตรุกที่ดินนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย จ.อุบลราชธานี ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านให้ข้อมูลที่รีสอร์ต “จอนนี่ มือปราบ” มีการทำสัญญาซื้อขาย


นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ดาบตำรวจ ยุทธพล ศรีสมพงษ์ หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ตรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี

นายวัชระ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวกรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมฯ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมฯ กันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ตเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา ทางกรมฯ ได้ลงบันทึกประจำวัน และมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ตมาตั้งแต่ปี 65 แต่เจ้าของรีสอร์ตไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ต


สำหรับนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ 24,675 ไร่ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนมีเคหสถาน และประกอบอาชีพที่มั่นคง การที่จะเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมฯ ต้องได้รับอนุญาตก่อน หรือแม้แต่จะนำที่ดินไปออกเอกสารสิทธิในที่ดินใดๆ ต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการก่อนเช่นกัน จึงจะนำหนังสืออนุญาตไปขอออกเอกสารสิทธิได้ แต่เบื้องต้นจากการตรวจสอบ ทางกรมฯ ไม่เคยให้อนุญาตใดๆ กับบุคคลดังกล่าว จึงไม่สามารถออกเอกสารสิทธิหรือโฉนดที่ดินใดๆ ได้ และเมื่อไม่มีเอกสารสิทธิหรือโฉนด ก็ไม่สามารถซื้อขายได้ จึงไม่ทราบว่าเจ้าของรีสอร์ตดังกล่าวซื้อที่ดินมาได้อย่างไร เพราะตนเองก็ยังไม่เห็นหนังสือซื้อขาย

ตร.ปทส.เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบรีสอร์ต “จอนนี่ มือปราบ”
ผู้บังคับการ บก.ปทส. เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนรับเรื่องร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ “จอนนี่ มือปราบ” ในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าที่ถูกกันไว้ 20% ของนิคมฯ ลำโดมน้อย ตาม พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ ตามมาตรา 15 จากนี้จะเร่งตรวจสอบว่าเคยมีการร้องทุกข์เป็นคดีไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ หากมีตำรวจ บก.ปทส. จะดึงสำนวนมาสอบสวนเอง แต่ถ้ายังไม่เคยมีการร้องทุกข์กล่าวโทษมาก่อน บก.ปทส. จะรับดำเนินการสอบสวนทันที และจะร่วมกับกรมพัฒนาสังคมฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบว่าเป็นพื้นที่บุกรุกจำนวนเท่าใด ก่อสร้างอะไรไปบ้าง หรือกระทำผิดกฎหมายใดบ้าง ซึ่งจะต้องสืบสวนไปตั้งแต่ต้นว่าพื้นที่ตรงนี้เริ่มต้นจากอะไร มีการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศ ที่จะทำให้ทราบว่าเริ่มมีการรุกล้ำที่ตั้งแต่เมื่อไร รวมถึงอาจสอบกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ส่วน จอนนี่ มือปราบ ก็ต้องเรียกสอบปากคำด้วย หาก จอนนี่ มือปราบ อยากจะชี้แจง เจ้าหน้าที่พร้อมจะรับฟัง แต่หากไม่ให้ความร่วมมือจะต้องใช้หมายค้นเข้าตรวจสอบรีสอร์ต พร้อมยืนยันว่าตำรวจจะให้ความยุติธรรมและรับฟังทั้ง 2 ฝ่าย

“จอนนี่ มือปราบ” แจ้งความกลับ 3 เจ้าหน้าที่ ปมรีสอร์ตรุกที่ดินนิคมสร้างตนเองฯ
ด้าน จอนนี่ มือปราบ ออกมาเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีการโพสต์คลิปหลังไปแจ้งความที่ สภ.พิบูลมังสาหาร ดำเนินคดีกับนายกันตพงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ, นายวัชระ นักวิชาการกรม ที่ไปแจ้งความตนเองเมื่อเช้า และนางจันที ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย อ.สิรินธร ในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียง และข้อหา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เลือกปฏิบัติ และจะให้ทีมทนายฟ้องส่วนตัวร้องไปยัง ป.ป.ช. และ ปปท.


ทั้งนี้ จอนนี่ ได้อธิบายว่าในปี 2511 มีการสร้างเขื่อนสิรินธรขึ้น เสร็จในปี 2514 จากนั้นมีหน่วยงานกรมพัฒนาสังคม โดยมีผู้ปกครองดูแลหน่วยนี้ชื่อนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี มาเขียนประกาศระวางที่ดิน เพื่อครอบคลุมที่ดิน ที่นาส่วนของชาวบ้าน ซึ่งก่อนหน้านั้นชาวบ้านเขาไม่ได้เดินทางมาออกเอกสารสิทธิ และการคมนาคมสัญจรไปมาลำบาก และยังย้ำว่าที่ดินที่ตนจัดตั้งรีสอร์ตนั้น ก่อนซื้อมีการตรวจสอบแล้ว มีชาวบ้านเป็นพยาน มีผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อบต. รับรอง และเป็นการซื้อขายตกทอด และก่อนที่ตนเองจะไปอยู่นั้นก็มีรีสอร์ตเกิดขึ้นมาก่อนเป็นเกือบ 100 รีสอร์ต ซึ่งอยู่ในเอกสารสิทธิเดียวกัน ยืนยันว่ายินดีให้ตรวจสอบ หากผิดจริงให้รื้อรีสอร์ตตนได้เลย แต่ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสิ่งปลูกสร้าง เช่น วัด หมู่บ้าน โรงเรียน ในพื้นที่บริเวณดังกล่าวด้วย โดยไม่เลือกปฏิบัติ และจะต่อสู้เพื่อชาวบ้าน เพื่อศักดิ์ศรีของตนเอง

ผญบ.ให้ข้อมูลที่รีสอร์ต “จอนนี่ มือปราบ” มีการทำสัญญาซื้อขาย
ทีมข่าวลงพื้นที่พูดคุยกับผู้ใหญ่บ้านห้วยไฮ ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ให้ข้อมูลว่า ที่ดินบริเวณรีสอร์ตของจอนนี่ มือปราบ รู้กันทั่วไปว่าอยู่ในความดูแลของพัฒนาสังคมฯ จ.อุบลราชธานี พื้นที่ดังกล่าว 100% แบ่งออกเป็น 2 ส่วน เป็นพื้นที่ที่สามารถเอกสารครอบครองได้ 80% ส่วนอีก 20% ถูกกันออกให้เป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามกฎหมาย ซึ่งใน 20% มีชาวบ้านมาจับจองเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยมานานกว่า 40 ปี มีประชากรมากกว่า 500 หลังคาเรือน

สำหรับกรณีที่เป็นประเด็น หากมองว่า จอนนี่ มือปราบ สร้างรีสอร์ตบุกรุกที่สาธารณะตามที่มีการแจ้งความ หากจะต้องดำเนินการตามกฎหมายก็ต้องขับไล่ชาวบ้านทั้งหมดที่อยู่ในเขตพื้นที่กว่า 500 หลังคาเรือนออกไปด้วย เพราะไม่เช่นนั้นจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และชาวบ้านก็ไม่ยอมที่จะออกจากพื้นที่ เพราะมีการตั้งหลักฐานครอบครัวมานานแล้ว โดยที่ดินรีสอร์ตของจอนนี่ ถูกเปลี่ยนมือมาแล้ว 2 คน จอนนี่ มือปราบ เป็นคนที่ 3 มีการร่วมทำสัญญาซื้อขาย ไม่ได้เป็นผู้ที่มาแผ้วถางแต่อย่างใด ส่วนประเด็นที่ทำให้มีข้อพิพาทคาดน่าจะเป็นเรื่องของการที่จอนนี่วิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี จนทำให้ชาวบ้านมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ เพราะถ้าจะขับไล่ดำเนินคดีควรจะกระทำตั้งแต่เริ่มแรก ไม่ได้ปล่อยให้มายาวนานถึงขนาดนี้ และการที่มีรีสอร์ตของจอนนี่ไม่ได้สร้างความเสื่อมเสียหรือผลกระทบต่อธรรมชาติ มีแต่การสร้างประโยชน์และรายได้ให้กับชุมชน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]