ขยายผลจับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์หมื่นล้าน

กรุงเทพฯ 15 ม.ค. – ตำรวจกองปราบฯ ขยายผลเว็บพนันออนไลน์หมื่นล้าน เครือข่ายไฮโซอั้ม รวบผู้ต้องหาเพิ่ม 4 ราย พร้อมของกลางหลายรายการ


กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้ขยายผลกลุ่มผู้ต้องหาเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ ซึ่งจากกรณีเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหากลุ่มผู้รับประโยชน์ของเครือข่ายลักลอบเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ทายผลฟุตบอลโลก และเว็บไซต์เกี่ยวกับภาพยนตร์ ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลอันละเมิดลิขสิทธิ์ และภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาลามกอนาจาร จำนวน 3 ราย คือ นายภูมิพัฒน์ หรือ อั้ม (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี นายเชษฐ์ชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี และ น.ส.ธมลพรรณ์ หรือ แยม (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี และขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งเป็นบัญชีม้า โดยได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลขอออกหมายจับผู้เปิดบัญชีม้า จำนวน 5 ราย จับกุมได้แล้ว 4 ราย อยู่ระหว่างหลบหนี 1 ราย เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศ โฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” ได้แก่ 1. นายปกรณ์ อายุ 53 ปี 2. นายอาทิตย์ อายุ 31 ปี 3. นายนฤพล อายุ 24 ปี 4. นางสุดใจ อายุ 56 ปี ส่วนนายภูวดล อายุ 26 ปี อยู่ระหว่างหลบหนี

ต่อมาจากการสืบสวนขยายผลพบว่า ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งมีความเกี่ยวข้องเป็นหุ้นส่วนผู้รับผลประโยชน์ และโปรแกรมเมอร์ ซึ่งทำหน้าที่ดูแลจัดการระบบเว็บไซต์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 3 ราย คือ 1. นายวัชระ หรือ มิ้น (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี มีความเกี่ยวข้องเป็นหุ้นส่วนผู้รับผลประโยชน์ 2. นายเกริก หรือ เด (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี มีความเกี่ยวข้องเป็นหุ้นส่วนผู้รับผลประโยชน์ และนายธิติวัฒน์ หรือ แซ็ก (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ทำหน้าที่เป็นโปรแกรมเมอร์ ดูแลระบบเว็บไซต์ เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศ โฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”


ต่อมาในวันที่ 13 ม.ค.66 ได้ยื่นคำร้องขอหมายค้นต่อศาล เพื่อทำการตรวจค้นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเครือข่ายดังกล่าว จำนวน 4 จุด และจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 1 ราย จุดตรวจค้นที่ 1 ห้องพักในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ผลการตรวจค้นพบนายธิติวัฒน์ หรือ แซ็ก จึงได้ทำการจับกุมตัว และนายธิติวัฒน์ ให้การรับว่า ตนเองเป็นโปรแกรมเมอร์ ทำหน้าที่ดูแลระบบหน้าเว็บไซต์ จุดตรวจค้นที่ 2 บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 11 ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง ผลการตรวจค้นพบนายวรวุฒน์ แสดงตัวเป็นผู้ครอบครองดูแลสถานที่ ตรวจค้นพบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และบัญชีผู้ใช้งานที่ใช้ในการปรับปรุงดูแลเนื้อหาเว็บไซต์, เหมืองขุดเหรียญบิตคอยน์ จำนวน 56 ริก ของนายภูมิพัฒน์ ที่นำมาฝากไว้ จึงได้สอบปากคำไว้เป็นผู้ให้ถ้อยคำ โดยนายวรวุฒน์ ให้การว่า ตนเองเป็นโปรแกรมเมอร์ ทำหน้าที่แก้ไขระบบหน้าบ้านและหลังบ้านของเว็บไซต์ โดยมีนายภูมิพัฒน์ เป็นผู้ว่าจ้าง

จุดตรวจค้นที่ 3 บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 6 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ผลการตรวจค้นพบนายปิตุพงศ์ เป็นผู้ครอบครองดูแลสถานที่ ให้การว่า ตนเองทำหน้าที่ดูแลระบบ ฐานข้อมูลของเว็บไซต์ โดยมีนายภูมิพัฒน์ เป็นผู้ว่าจ้าง และได้ให้การอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ จึงได้สอบปากคำไว้เป็นพยานในคดี จุดตรวจค้นที่ 4 บ้านหลังหนึ่งในซอยรามอินทรา 58 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กทม. ซึ่งเกี่ยวข้องกับเครือข่ายดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบ น.ส.เจนจิรา (สงวนนามสกุล) แสดงตัวเป็นผู้ครอบครองดูแลสถานที่ และยังตรวจพบอาวุธปืน 4 กระบอก ได้แก่ อาวุธปืนพกสั้น จำนวน 3 กระบอก, ปืนลูกซองกึ่งอัตโนมัติ จำนวน 1 กระบอก, ปืนแบลงค์กัน 1 กระบอก และของกลางอีกจำนวนหลายรายการ อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว จากการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนอาวุธปืนที่ตรวจพบทั้ง 4 กระบอก เป็นของนายเกริก จึงได้ทำการจับกุม น.ส.เจนจิรา ในความผิดฐาน “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจค้นจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดของกลางที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มเครือข่ายเว็บไซต์ของนายภูมิพัฒน์ และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายดังกล่าวได้ให้การเป็นประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวน ทำให้คดีดังกล่าวมีพยานหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้น ส่วนผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างหลบหนีจะเร่งดำเนินการจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตรวจสอบบ้านลักลอบทำประทัดไล่นก บึ้มกลางชุมชน

สุพรรณบุรี 31 ก.ค. – จากเหตุบ้านที่ลักลอบทำประทัดไล่นก เกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต วันนี้ตำรวจเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ยืนยันว่าที่เกิดเหตุไม่ใช่โรงงาน แต่เป็นที่ลักลอบทำ ที่น่าตกใจคือหลังเกิดเหตุชาวบ้านโดยรอบบอกว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าบ้านดังกล่าวลักลอบทำประทัดไล่นก จี้หน่วยงานตรวจสอบ กลัวว่าอาจจะมีบ้านที่ลักลอบทำอีก.-สำนักข่าวไทย

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์

ศรีสะเกษ 31 ก.ค. – ที่จังหวัดศรีสะเกษ มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จากการโจมตีของกัมพูชา ที่วัดมหาพุทธาราม หรือวัดพระโต พระอารามหลวง จ.ศรีษะเกษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และวางพวงมาลาพระราชทาน แก่ประชาชน รวม 7 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความความไม่สงบ ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยผู้เสียชีวิต 6 คน เป็นประชาชนเสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีษะเกษ และอีก 1 คนเสียชีวิตจากระเบิดลงบ้าน ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธี พร้อมครอบครัวผู้เสียชีวิต และมีพิธีการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมทุกคืน ถึงวันที่ 2 ส.ค.นี้ ก่อนจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ 3 สิงหาคมนี้ ด้านนายคมสันต์ […]

พบโดรนปริศนาหลายพื้นที่ คาดเป็นโดรนจารกรรม

บุรีรัมย์ 31 ก.ค. – แม้จะมีประกาศห้ามบินโดรนทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ในหลายพื้นที่ยังตรวจพบโดรนปริศนาขึ้นบิน เบื้องต้นคาดเป็นโดรนสอดแนม ขณะที่วิทยุการบินฯ วอนประชาชนร่วมมือ หากฝ่าฝืนจะใช้มาตรการทางทหารจัดการทันที เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. คืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยา จุด อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ใช้โทรศัพท์บันทึกภาพโดรนที่บินเหนือ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ไว้ได้ และยังพบว่ามีโดรนบินเหนือบ้านตะโก, บ้านยายคำ, ตลาดตาเป๊กและบ้านเจริญสุข รวมทั้งหมด 4 แห่ง บินวนเวียนประมาณ 5 นาที จึงพยายามตรวจสอบโดยรอบพื้นที่ ก่อนจะพบรถตู้ยี่ห้อฮุนไดสีดำจอดอยู่ เชื่อว่าน่าจะเป็นเจ้าของโดรน เมื่อเข้าไปสอบถามคนในรถตู้ ที่เปิดกระจกลงมาพูดคุย เห็นภายในรถตู้มีคนประมาณ 3-4 คน มีอุปกรณ์คล้ายเครื่องควบคุมอะไรบางอย่างอยู่ในรถ จึงสอบถามว่าจะไปที่ไหน ได้รับคำตอบว่าจะไปสระแก้ว หลังจากนั้นรถตู้ได้ขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว แม้จะพยายามขับรถไล่ตามแต่ตามไม่ทัน เชื่อว่าเป็นโดรนของกัมพูชามาบินสอดแนมอย่างแน่นอน ส่วนที่ อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตรวจพบโดรนปริศนาหลายสิบลำ บินว่อนเหนือพื้นที่อำเภอบ้านกรวด ครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบล คือ ตำบลสายตะกู ตำบลจันทบเพชร […]

ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนรับฟังข้อเท็จจริงชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 31 ก.ค.- ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนร่วมหารือและรับฟังการชี้แจงข้อเท็จจริง อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังตั้งทีมเฝ้าติดตามหยุดยิงชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ (31 ก.ค.68) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกโดยกรมข่าวทหารบก ร่วมหารือกับผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนประจำประเทศไทย นำโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ณ อาคารศรีสิทธิสงคราม ภายในกองบัญชาการกองทัพบก โดยมี พล.ท.กำชัย วงศ์ศรี เจ้ากรมข่าวทหารบก เป็นประธานในการหารือ การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการจัดตั้ง Interim ASEAN Defence Attaches Monitoring Team (Interim ASEAN DAs Monitoring Team) ในการปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์สถานการณ์หยุดยิง (Ceasefire) ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งการหารือในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงหยุดยิง ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเห็นพ้องร่วมกันในการจัดตั้งทีมเฝ้าติดตามชั่วคราวของฝ่ายทูตทหารจากชาติสมาชิกอาเซียนโดยเร่งด่วน เพื่อเป็นกลไกเบื้องต้นในการติดตามสถานการณ์และสร้างความไว้วางใจระหว่างทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ในที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกลไก ASEAN Monitoring Team (AMIT) ในอนาคต […]