รวบอดีตตำรวจ ก่อเหตุฉ้อโกงร้านทองและแลกเปลี่ยนเงิน

กทม. 17 ก.ย.- ตำรวจกองปราบปรามจับอดีตตำรวจใช้วิธีโจร ฉ้อโกงร้านรับแลกเงินและร้านทองในหลายจังหวัด พบเข้าออกเรือนจำเป็นว่าเล่น และเคยถูกดำเนินคดีการหายตัวไปของเสี่ยติงนัง เมื่อปี 2542 แต่ไม่หลาบจำก่อเหตุเรื่อยมาเหตุเพราะติดการพนันอย่างหนัก


พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลการจับกุม 2 อดีตนายตำรวจ คือนายธารา หรือนายครรชิต อดีตรองผู้กำกับการ จราจร สน.บางรัก และนายผ่านศึก อดีตข้าราชการตำรวจ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงร้านรับแลกเงินสกุลต่างประเทศ และร้านขายทองโดยใช้วิธีการเคลียริ่งเช็คธนาคาร หรือซื้อและแลกเปลี่ยนเงินตราและสินค้าด้วยเช็คเด้ง

โดยผู้จัดการของคนร้ายโดยเฉพาะนายธารา มีประวัติการก่อเหตุมาอย่างโชกโชน เริ่มจากการถูกดำเนินคดีร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์และร่วมกันปลอมตั๋วเงินด้วยการปลอมลายมือชื่อของนายชัยรัตน์ หรือเสี่ยติงนัง พนักงานต้อนรับบนสายการบินชื่อดัง เมื่อปี 2542 ครั้งนั้นเจ้าตัวถูกตำรวจ สน.บางรัก ดำเนินคดีและถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 15 ปี 6 เดือน แต่เจ้าตัวถูกจำคุกจริงเพียง 5 ปี เนื่องจากปฏิบัติตัวดีและได้รับการลดโทษ หลังพ้นโทษออกมาในปี 2555 ยังไม่สำนึกก็ไปร่วมกับพวกก่อเหตุฉ้อโกงร้านทองในหลายจังหวัดโดยใช้วิธีการ clearing เช็คของธนาคาร หรือการใช้เช็คเด้งซื้อขายสินค้าจนได้ทองคำหนักหลายร้อยบาทมูลค่านับ 10 ล้านบาท รวม 8 คดีและไปถูกจับกุมตัวได้เมื่อเดือนมิถุนายน 2558 โดยศาลพิพากษาให้จำคุก 8 ปี แต่ติดคุกจริงเพียง 3 ปี


หลังพ้นโทษออกมาในปี 2565 ได้ออกมาตระเวนก่อเหตุตามร้านทองอีกในจังหวัดหนองคายและมุกดาหาร ก่อนที่จะหลบหนีการประกันตัว กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ได้ใช้วิธีการเดียวกันนี้กับร้านรับแลกเงินย่านถนนสุรวงศ์พื้นที่ สน.บางรัก โดยอาศัยช่องว่างของธนาคารในลักษณะเดิมได้เงินสกุลดอลลาร์ไปรวม 22,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 800,000 บาท ก่อนจะนำเงินสดสกุลไทยที่ได้ไปแลกเป็นเงินสกุลดอลลาร์อีกทีที่ร้านรับแลกเงินที่อยู่ใกล้เคียง

ชุดสืบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม จึงทำการสืบสวนจนทราบว่าเจ้าตัวไปหลบหนีอยู่ที่บ้านพักในซอยวิภาวดีรังสิต 40/2 แขวงลาดยาวเขตจตุจักร และจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา จากการสอบปากคำทราบว่าผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุทั้งหมดจริงโดยใช้วิธีของคนร้ายที่ตนเคยพบเห็นในขณะรับราชการเป็นตำรวจ ส่วนวิธีการหลบหนีจะใช้ความรู้ที่ได้ในขณะรับราชการตำรวจ มาหลบหนีการจับกุมด้วยทั้งการเปลี่ยนซิมการ์ดเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ การเปลี่ยนชื่อนามสกุลหลายครั้ง การใช้บัตรประชาชนหลายใบ และเมื่อถูกจับกุมก็จะใช้ความรู้จากอาชีพตำรวจหลบเลี่ยงการสอบสวนของตำรวจ จนสามารถรอดการถูกดำเนินคดีมาได้หลายครั้ง

หลังจากพ้นโทษในคดีแรกก็เปลี่ยนชื่อและนามสกุลหลายครั้งเพื่อใช้ในการก่อเหตุ ทั้งนี้สาเหตุที่ตัดสินใจก่อคดีเนื่องจากตนเองเป็นคนติดการพนันอย่างมาก โดยการก่อคดีหลายครั้งเมื่อได้ทรัพย์สินมามูลค่าหลายล้านบาทและการก่อเหตุครั้งล่าสุดก็นำเงินทั้งหมด 800,000 บาท ไปเสียที่บ่อนการพนันในประเทศเพื่อนบ้านภายในวันเดียว ตนเองรู้ว่าการกระทำของตนไม่เหมาะสมและทำให้เสื่อมเสียต่อเพื่อนร่วมสถาบันและรุ่น นรต.36 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่กำลังจะพ้นตำแหน่ง


ทั้งนี้ ในการทำสำนวนคดีล่าสุดจะมีการระบุท้ายคำร้องเพื่อให้อัยการและศาลพิจารณาถึงพฤติกรรมการก่อเหตุซ้ำๆ โดยไม่มีสำนึกของผู้ต้องหาเพื่อให้พิจารณาลงโทษสูงสุด และจะประสานให้กรมราชทัณฑ์รับทราบในพฤติกรรมดังกล่าว เพื่อไม่ให้ผู้ต้องหาได้รับการลดโทษและออกมาก่อเหตุอีก

ส่วนนายผ่านศึก ผู้ต้องหาอีก 1 คน ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับ แต่จากการตรวจสอบประวัติในเบื้องต้นพบว่าเคยเป็นอดีตข้าราชการตำรวจและผูกให้ออกจากราชการเนื่องจากไปมีส่วนในการทุจริตโกงเงินประกันตัวผู้ต้องหาในระหว่างที่เคยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายธุรการของสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัดบางพื้นที่-กทม.ฟ้าคะนอง 30%

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 30% กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

เพลิงไหม้หม้อแปลงใหญ่สถานีย่อยแสนแสบ ทำไฟดับทั้งพระราม 9

ระทึก! เพลิงไหม้หม้อแปลงขนาดใหญ่ สถานีไฟฟ้าย่อยแสนแสบ ย่านดินแดง ทำไฟดับทั้งพระราม 9 ผู้คนโกลาหล ล่าสุด จนท.คุมเพลิงได้แล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบ แนะหลีกเลี่ยงเส้นทาง

วันที่ 12 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง.ถล่ม

วันที่ 12 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้าเคลียร์พื้นที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณปล่องบันไดหนีไฟ ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

“เจ้าคุณธงชัย” มอบผ้ายันต์ “สำเร็จทุกสิ่ง” ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย

“เจ้าคุณธงชัย” มอบผ้ายันต์ “สำเร็จทุกสิ่ง” ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม ด้านผู้ว่าฯ กทม. เตรียมทำบุญใหญ่ให้ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้