ชัวร์ก่อนแชร์: ไม่ปรุงเกลือ/น้ำปลาเพิ่ม ป้องกันโรคความดัน 100% จริงหรือ?

01 มิถุนายน 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : ไม่ปรุงเกลือ/น้ำปลาเพิ่ม ป้องกันโรคความดัน 100% บทสรุป : 1.โซเดียมไม่ได้มีแต่ในเกลือหรือของเค็มเท่านั้น2.ในอาหารปรุงสำเร็จต่าง ๆ รวมถึงขนมที่ใช้ผงฟูล้วนอุดมไปด้วยโซเดียมปริมาณสูง3.การคุมอาหารแบบ DASH ช่วยลดความดันโลหิตอย่างมีประสิทธิภาพ FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : เกลือ หรือ โซเดียมคลอไรด์ ส่งผลต่อความดันโลหิต เมื่อร่างกายต้องเพิ่มปริมาณน้ำในหลอดเลือดมากกว่าปกติเพื่อเจือจางโซเดียมในกระแสเลือด นอกจากนี้ เกลือยังทำให้หลอดเลือดหดตัวในระยะยาวอีกด้วย อันเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดความดันโลหิตสูงอย่างชัดเจน สมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกา (AHA) แนะนำให้บริโภคโซเดียมต่อวันไม่เกิน 2,300 มิลลิกรัม เทียบเท่ากับปริมาณเกลือ 1 ช้อนชา หรือน้ำปลา 4 ช้อนชา และแนะนำให้ผู้สูงอายุบริโภคโซเดียมต่อวันไม่เกิน 1,500 มิลลิกรัม ขณะที่ผลสำรวจพบว่าชาวอเมริกันบริโภคโซเดียมเฉลี่ยวันละ 3,400 มิลลิกรัม ส่วนคนไทยบริโภคโซเดียมเฉลี่ยวันละ 4,300 มิลลิกรัม โซเดียมไม่ได้มีแต่ในเกลือหรือของเค็ม […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : ดื่ม “ชาไทย” อย่างไร ปลอดภัยSunset yellow FCF

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์เตือนว่า “เครื่องดื่มชาไทย มีการใส่สีสังเคราะห์ หากดื่มมาก อาจเสี่ยงอันตราย” จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.ดร.กฤษกมล ณ จอม อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ การตรวจสอบ “ชาไทย” ด้วยตนเอง จากเครื่องมือชั้นสูงของภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร พบว่า ชาไทยทุกยี่ห้อใส่สี Sunset yellow FCF หรือ “สีเหลืองพระอาทิตย์ตก” การใส่สี Sunset Yellow FCF ในอาหารและเครื่องดื่มไม่เกินเกณฑ์มาตรฐาน ร่างกายสามารถขับออกได้ ในประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข อนุญาตให้ใช้ Sunset Yellow FCF ในอาหารและเครื่องดื่มได้ โดยระบุว่าชาที่ใส่สีจะถูกนับเป็นประเภทชาปรุงสำเร็จที่ปรุงแต่งสีกลิ่นรส กฎหมายอนุญาตให้ใส่สีผสมอาหาร Sunset Yellow FCF ได้ไม่เกิน 100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม องค์การอนามัยโลก (WHO) ถือว่าสี Sunset Yellow FCF […]

ชัวร์ก่อนแชร์: โรคความดันจากกรรมพันธุ์ป้องกันไม่ได้ จริงหรือ?

31 พฤษภาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : โรคความดันจากกรรมพันธุ์ป้องกันไม่ได้ บทสรุป : การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ช่วยชะลอหรือบรรเทาความรุนแรงของการเกิดโรคความดันโลหิตสูงได้ FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : เอกสาร Family History and High Blood Pressure ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ระบุว่า ผู้ที่มีสมาชิกในครอบครัวอย่างน้อย 1 รายที่มีประวัติป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงก่อนอายุ 60 ปี จะมีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงมากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า แต่กระนั้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ช่วยชะลอหรือบรรเทาความรุนแรงของการเกิดโรคความดันโลหิตสูงได้ ลุค ลัฟฟิน ผู้อำนวยการร่วมศูนย์โรคความดันโลหิต สถาบันการแพทย์ Cleveland Clinic อธิบายว่า การควบคุมน้ำหนักตัว ออกกำลังกายบ่อย ๆ ไม่สูบบุหรี่ กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ นอกจากจะช่วยให้การเกิดโรคความดันโลหิตสูงช้าลงแล้ว […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ผู้ชายเสี่ยงโรคความดันมากกว่าผู้หญิง จริงหรือ?

30 พฤษภาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : ผู้ชายเสี่ยงโรคความดันมากกว่าผู้หญิง บทสรุป : 1.ในช่วงวัยกลางคนจะพบผู้ป่วยความดันโลหิตสูงในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง2.แต่ยิ่งอายุมากขึ้น ความเสี่ยงความดันโลหิตสูงในผู้หญิงจะเริ่มมากกว่าผู้ชาย FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : แม้ปกติแล้ว ในช่วงวัยกลางคนจะพบผู้ป่วยความดันโลหิตสูงในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แต่ยิ่งอายุมากขึ้น ความเสี่ยงความดันโลหิตสูงในผู้หญิงจะเริ่มมากกว่าผู้ชาย ศาสตราจารย์ แอนเจลา มาส์ ผู้อำนวยการกิตติคุณโครงการสุขภาพหัวใจสตรี ศูนย์การแพทย์ Radboud University Medical Center ประเทศเนเธอร์แลนด์ อธิบายว่า ความเข้าใจผิดมาจากในช่วงอายุก่อน 50 ปี จะพบผู้ป่วยความดันโลหิตสูงเพศชายมากกว่าเพศหญิง แต่ผู้หญิงจะเริ่มมีปัญหาความดันโลหิตสูงหลังหมดประจำเดือน ดังนั้นจึงเริ่มพบผู้หญิงป่วยเป็นความดันโลหิตสูงมากกว่าผู้ชายหลังอายุ 65 ปีขึ้นไป บ่อยครั้งที่ความเชื่อว่าความดันโลหิตสูงเกิดกับผู้ชายมากกว่า ทำให้ผู้หญิงหลายคนมองข้ามว่า อาการผิดปกติของร่างกายเกิดจากภาวะหมดประจำเดือน ความกังวล หรือความเครียด เช่น อาการใจสั่น เจ็บหน้าอก ปวดศีรษะ หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : เครื่องครัวพลาสติกสีดำ มีสารเสี่ยงมะเร็ง จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์ข่าวเตือนว่า “เครื่องครัวพลาสติกสีดำ มีสารเสี่ยงเกิดมะเร็งปริมาณสูง บ้านไหนมีควรทิ้ง ยิ่งใช้ยิ่งอันตราย” จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.ดร.บุศรินทร์ จงเจริญยานนท์ อาจารย์ประจำภาควิชาเทคโนโลยีการบรรจุและวัสดุ และ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ข่าวนี้มาจากงานวิจัยและงานวิจัยมีอยู่จริง มีข้อมูลบางส่วนจากงานวิจัยที่ข่าวนี้ใช้อ้างอิงมีความผิดพลาด โดยเจ้าของงานวิจัยนี้ได้ทำหนังสือขอโทษและแก้ไขข้อมูลแล้ว แต่ข่าวที่เผยแพร่ในประเทศไทยยังไม่ได้มีการอัปเดตข้อมูลการแก้ไขนี้ จึงยังไม่ควรแชร์ต่อ เพราะอาจทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ ประเด็นที่ผิดพลาดคือ เจ้าของงานวิจัยรายงานว่าสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐ (United States Environmental Protection Agency : US EPA) กำหนดขีดจำกัดที่ปลอดภัยของ Decabromodiphenyl Ether, BDE-209 ไว้ที่ 42,000 นาโนกรัมต่อวัน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผิดพลาด โดยไม่ได้ใส่เลข 0 หนึ่งตัว การคำนวณนี้มาจากปริมาณการรับสัมผัสที่ยังอยู่ในระดับปลอดภัยของ BDE-209 คือ 7,000 นาโนกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวัน และใช้ค่าน้ำหนักผู้ใหญ่ 60 กิโลกรัม ดังนั้น ค่าที่ถูกต้องคือ 7,000 x […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : 5 ภัยไซเบอร์ ที่มักเจอบน App Store

เมื่อภัยคุกคามทางไซเบอร์อาจแฝงตัวในรูปแบบแอปพลิเคชัน ที่หลอกขโมยข้อมูลสำคัญ และล่อให้ทำธุรกรรมทางการเงิน ปัจจุบัน เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน แอปพลิเคชันก็กลายเป็นประตูสู่โลกดิจิทัลที่ทั้งสะดวกและรวดเร็ว แต่ภายใต้ความสะดวกนั้นอาจมี “ภัยไซเบอร์” ที่แฝงตัวอย่างแนบเนียนในรูปแบบต่าง ๆ  จากรายงานการป้องกันธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกงประจำปีบน App Store ที่เผยแพร่โดย Apple เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 พบว่า บน App Store มีปัญหากลโกงไซเบอร์ที่ส่งผลกระทบทั้งด้านการละเมิดลิขสิทธิ์ การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล และความเสียหายทางการเงิน อย่างน้อย 5 กลโกง ได้แก่ 1. แอปพลิเคชันปลอม เลียนแบบผู้ไม่หวังดีเผยแพร่แหล่งดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่ลอกเลียนแบบแอปพลิเคชันต่าง ๆ ใน App Store ซึ่งเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์นักพัฒนา Apple ด้วยการดัดแปลงแก้ไข โดยแอปพลิเคชันเหล่านี้อาจมีความเสี่ยงในการละเมิดข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ หรือนำไปใช้เป็นอาวุธในการเผยแพร่ซอฟต์แวร์ที่มุ่งร้ายได้อีกด้วย  ในเดือนที่ผ่านมา Apple ได้หยุดความพยายามในการติดตั้งหรือเปิดแอปพลิเคชันที่แจกจ่ายอย่างผิดกฎหมายนอก App Store หรือมาร์เกตเพลสของบริษัทอื่นที่ได้รับการอนุมัติไปเกือบ 4.6 ล้านครั้ง 2. แอปพลิเคชันผิดกฎหมายนอก App Storeผู้ไม่หวังดีมักหลอกลวงให้ผู้ใช้งานติดตั้งแอปพลิเคชันผิดกฎหมาย […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ความดันสูงกว่า 140/90 มม.ปรอท ถึงอันตราย จริงหรือ?

29 พฤษภาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : ความดันสูงกว่า 140/90 มม.ปรอท ถึงอันตราย บทสรุป : FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าระดับของความดันโลหิตที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 140/90 มม.ปรอท แต่กระนั้น สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด ควรมีความดันโลหิตไม่เกิน 130/80 มม.ปรอท ได้แก่ ข้อมูลจาก สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย จำแนกระดับความดันโลหิต (มิลลิเมตรปรอท) ตามความรุนแรงในผู้ใหญ่ อายุ 18 ปีขึ้นไป ได้ดังนี้ ความดันซิสโทลิก SBP (มิลลิเมตรปรอท) / ความดันไดแอสโทลิก DBP (มิลลิเมตรปรอท) 1.ความดันโลหิต ระดับ เหมาะสม (optimal) < 120 […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : แป้งทนย่อย

แป้งทนย่อยคืออะไร มีประโยชน์จริงหรือไม่ และจะพบในอาหารใดได้บ้าง ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.ดร.พิณทิพย์ รัมภกาภรณ์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการและนวัตกรรมความรู้ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สตาร์ช (Starch) องค์ประกอบของคาร์โบไฮเดรต “แป้ง” อาจจะมีโปรตีน ไขมัน เช่น กินข้าวหุงสุกแล้ว ส่วนของสตาร์ชที่อยู่ในข้าว เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้ว เอนไซม์ในร่างกายก็จะย่อยโครงสร้างของสตาร์ชออกมาเป็นน้ำตาลกลูโคส (Glucose) ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด น้ำตาลในกระแสเลือดก็จะเพิ่มสูงขึ้น  แป้งทนย่อย หรือ Resistant Starch มีกลไกที่ต่างออกไป ? Resistant Starch คือแป้งทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ มีคุณสมบัติเทียบเท่าเส้นใยอาหารที่ไม่ถูกดูดซึมในลำไส้เล็กของคนเรา สามารถผ่านเข้าไปถึงลำไส้ใหญ่และเป็นแหล่งพลังงานของแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ที่ผลิตกรดไขมันสายสั้น ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ อาทิ ช่วยสร้างความแข็งแรงให้แก่เซลล์ผนังลำไส้ใหญ่ Resistant Starch หมายความว่า แป้งทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ในร่างกายของเรา เอนไซม์ไม่สามารถย่อย Starch แบบนี้แล้วทำให้เกิดกลูโคสในกระแสเลือดได้ เมื่อไม่ถูกย่อยหลังจากที่ผ่านทางเดินอาหารของเราแล้ว ก็จะถูกส่งไปที่ลำไส้ใหญ่ เมื่อไปถึงลำไส้ใหญ่ประโยชน์จะเหมือนกับใยอาหาร (fiber) ไปเป็นอาหารแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ ทำให้จุลินทรีย์สามารถเจริญเติบโตได้ ถ้าแบคทีเรียดี ๆ เช่น […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : ไข่ลวก พริกไทย ซีอิ๊วขาว รักษาสมองเสื่อม จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์แนะนำว่า หลง ๆ ลืม ๆ สมองเสื่อม สมองฝ่อ อัลไซเมอร์ ให้กินไข่ลวก ไข่แดง ไข่ขาวไม่สุก วันละ 2 ฟอง ใส่พริกไทยมาก ๆ ใส่ซีอิ๊วขาวดับคาว ช่วยให้ความจำดี รักษาอาการหลงลืมได้ จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.พญ.สิรินทร ฉันศิริกาญจน และ ดร.วนะพร ทองโฉม 1. ผศ.พญ.สิรินทร ฉันศิริกาญจน สาขาวิชาเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เรื่องที่แชร์ว่า “ไม่น่าจะได้” แต่ไม่ใช้คำว่า “ไม่จริง” เพราะมีสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกายดีขึ้น แต่ไม่ใช่คำตอบเรื่องสมองเสื่อม ในข้อความที่แชร์บอกว่าผู้ป่วยอายุ 87 ปี ความดันต่ำ หลงลืม ล้มแขนหัก เมื่อไปตรวจ MRI (Magnetic Resonance Imaging) แพทย์บอกว่าสมองฝ่อ รักษาไม่ได้ ในทางการแพทย์มีการเอกซเรย์ศีรษะคนอายุ […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : ฉีดวัคซีนมาเลือดจะหนืดข้น จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์ว่า อาการของผู้ที่ไปฉีดวัคซีนมาเลือดจะหนืดข้นจนสุดท้ายเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ได้ และวูบจนถึงขั้นเสียชีวิต จากนั้นแพทย์จะแจ้งว่าหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน จริงหรือ​ ? บทสรุป : ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ วัคซีนดังกล่าว คาดว่าหมายถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าวัคซีนโควิด-19 ทำให้เลือดจะหนืดข้นจนสุดท้ายเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ได้ และวูบจนถึงขั้นเสียชีวิต ทั้งนี้ การดำเนินการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้จัดตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และองค์การอนามัยโลกได้รับรองว่าวัคซีนดังกล่าวสามารถใช้ได้กับทุกประเทศ  FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริงศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า ข้อมูลเรื่อง “อาการของผู้ที่ไปฉีดวัคซีนมาเลือดจะหนืดข้นจนสุดท้ายเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ได้ และวูบจนถึงขั้นเสียชีวิต” เป็นข้อมูลที่มักถูกส่งต่อและเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2566 และเป็นหนึ่งในประเด็นที่ทำให้หลายคนเกิดความกังวล ตรวจสอบข้อเท็จจริงข้อมูลจาก พ.อ.นพ.วิริสสร วงศ์ศรีชนาลัย อายุรแพทย์ โรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤต โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พบว่า  ความเป็นไปได้ที่วัคซีนจะทำให้เกิดลิ่มเลือด เป็นไปได้ว่าวัคซีนโควิด-19 บางชนิดอาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดลิ่มเลือดได้บ้าง แต่ต้องย้ำว่า ความรุนแรงและอัตราการเกิดลิ่มเลือดจากวัคซีนนั้นน้อยกว่าการติดเชื้อโควิด-19 มาก นอกจากนี้ วัคซีนแต่ละชนิดยังมีผลกระทบที่แตกต่าง โดย วัคซีนเชื้อตาย […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : ชาไทย ใส่สีสังเคราะห์ จริงหรือ ?

26 พฤษภาคม 2568 – บนโซเชียลแชร์เตือนว่า เครื่องดื่ม ชาไทย มีการใส่สีสังเคราะห์ หากดื่มมาก อาจเสี่ยงอันตรายนั้น บทสรุป : แชร์ได้ อธิบายเพิ่ม ชาไทยมีส่วนผสมของสีสังเคราะห์ Sunset Yellow ซึ่งเป็นสีผสมอาหารที่ได้รับอนุญาตและปลอดภัยภายใต้การควบคุมของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือการบริโภคอย่างมีสติและไม่มากจนเกินไป ปัจจัยด้านสุขภาพอื่น ๆ เช่น ปริมาณน้ำตาล ไขมัน และกาเฟอีนในชาไทย อาจเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากกว่า ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ รศ.ดร.กฤษกมล ณ จอม อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (สัมภาษณ์เมื่อ 1 พฤษภาคม 2568) สีส้มชาไทยมาจากไหน ? ผู้เชี่ยวชาญจากคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่า สีส้มของชาไทยส่วนใหญ่มาจาก สีผสมอาหารสังเคราะห์ที่เรียกว่า Sunset Yellow (ซันเซ็ต เยลโลว์) แต่แม้จะเป็นสีสังเคราะห์ Sunset Yellow ไม่ได้เป็นสารอันตรายอย่างที่หลายคนกังวล […]

ผู้ป่วย COVID-19 สิทธิบัตรทอง “โทร จ่าย จบ” จริงหรือ ?

ตามสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์ข้อความว่า “การดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยแนวทาง โทร จ่าย จบ คือ โทร.มาที่สายด่วน สปสช. 1330 จะได้รับรายชื่อร้านยาที่เข้าร่วมให้ผู้ป่วยติดต่อไปเพื่อรอรับยาที่บ้าน” นั้น บทสรุป : ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ ข้อความดังกล่าวให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง โดยเป็นการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ชั่วคราวในช่วงที่มีการระบาดใหญ่เมื่อปี 2565 ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขคือ “เจอ แจก จบ” ไม่ใช่ “โทร จ่าย จบ” ตามที่มีการเผยแพร่ข้อความดังกล่าว และแนวทางนี้ได้ยุติการให้บริการตั้งแต่ปลายปี 2565 แล้ว FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. กล่าวว่า ข้อความดังกล่าวให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง โดยเป็นการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ชั่วคราวในช่วงที่มีการระบาดใหญ่เมื่อปี 2565 ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขคือ “เจอ แจก จบ” ไม่ใช่ “โทร […]

1 10 11 12 13 14 162
...