ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ อสมท ผนึกกำลัง บช.สอท.-สกมช. เทรนนิ่งเข้มสกัดภัยไซเบอร์

วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 บริษัท อสมท จํากัด (มหาชน) ร่วมกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดกิจกรรม “Exclusive Workshop อบรมเชิงปฏิบัติการ รู้เท่าทันกับดักไซเบอร์” ในหัวข้อ “กับดักไซเบอร์” ณ อาคารปฏิบัติการวิทยุโทรทัศน์ บริษัท อสมท จํากัด (มหาชน) โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมกว่า 40 คน ที่ได้รับความรู้สุดเข้มข้นจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริงด้านภัยไซเบอร์ วิทยากรผู้เชี่ยวชาญระดับท็อป การอบรมครั้งนี้มีเกียรติได้รับเกียรติจาก พลตำรวจตรี นิเวศน์ อาภาวศิน รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สํานักงานตำรวจแห่งชาติ (บช.สอท.) ซึ่งนำเสนอหัวข้อ “เจาะลึกเคสจริงภัยไซเบอร์” พร้อมด้วยกรณีศึกษาจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมี พันตำรวจเอก ณัทกฤช พรหมจันทร์ ผู้อำนวยการสํานักบริหารโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ สํานักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ที่มาบรรยายในหัวข้อ “รู้ทัน ป้องกันภัยไซเบอร์” เพื่อให้ความรู้ในการป้องกันตนเองจากภัยออนไลน์ หลักสูตรสุดเข้มข้นแบบ Onsite Workshop ครั้งนี้เป็นหนึ่งในหลักสูตร “TRAP BREAKER: Exclusive […]

ชัวร์ก่อนแชร์ CyberAlert!🚨: เห็นภาพตัวเองบนหน้าจอ อย่ารับสาย เสี่ยงโดนบันทึกหน้าและเสียง หลอกคนใกล้ชิด จริงหรือ ?

ตามที่มีการแชร์ข้อความ ระบุว่า ระวัง ! เห็นภาพตัวเองบนหน้าจอ อย่ารับสาย เสี่ยงโดนบันทึกหน้าและเสียง หลอกคนใกล้ชิด นั้น ❌ บทสรุป ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ ❌ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า ข้อความนี้แปลมาจากคำเตือนภาษาจีนที่เผยแพร่ในปี 2567 และถูกนำมาแปลและแชร์ต่อเป็นภาษาไทยในปีเดียวกัน เว็บไซต์ Taiwan Factcheck Center ได้ตรวจสอบและเผยแพร่ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2567 ยืนยันว่า ไม่จริง ระบบ Face ID เป็นเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าสำหรับระบบปฏิบัติการ iOS หากมีเบอร์ที่ไม่รู้จักวิดีโอคอลผ่าน Facetime หน้าจอโทรศัพท์จะแสดงภาพจากกล้องหน้า ทำให้ปรากฏภาพใบหน้าของผู้รับสายได้ อย่างไรก็ตาม มิจฉาชีพไม่สามารถขโมย Face ID ของอีกฝ่ายได้ เพียงแค่การวิดีโอคอล เนื่องจากระบบ Face ID ต้องการข้อมูลโครงสร้างใบหน้าทั้งเชิงลึกและแนวระนาบ ซึ่งการบันทึกข้อมูลภาพวิดีโอขณะวิดีโอคอล จะจับได้เพียงภาพ แนวระนาบเท่านั้น และหากไม่มีโทรศัพท์ของผู้ใช้ในมือ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าถึงโทรศัพท์ของผู้ใช้จากระยะไกล หรือขโมยข้อมูลจากโทรศัพท์ของอีกฝ่ายได้ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: อาการจากโรคความดันโลหิตสูงสังเกตได้ง่าย จริงหรือ?

27 พฤษภาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : อาการจากโรคความดันโลหิตสูงสังเกตได้ง่าย บทสรุป : FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ความดันโลหิตสูง ได้รับฉายาว่า ฆาตกรเงียบ หรือ Silent Killer เนื่องจากเป็นโรคที่สามารถพบได้โดยผู้ป่วยไม่แสดงอาการใด ๆ ปาร์วีน การ์ก แพทย์โรคหัวใจ สถาบันโรคหลอดเลือดหัวใจ โรงพยาบาล Keck Hospital of USC ชี้แจงว่า ส่วนใหญ่แล้ว จะมีแต่ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงระดับรุนแรงเท่านั้นที่แสดงอาการผิดปกติอย่างเด่นชัด แต่การมีความดันโลหิตสูงเป็นเวลานาน จะส่งผลเสียต่อหลอดเลือดอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่แสดงอาการใด ๆ ก่อนหน้านั้นเลยก็ตาม การที่มีความดันโลหิตสูงอยู่นาน ๆ หากไม่ได้รับการรักษา จะทำให้เกิดการเสื่อมของหลอดเลือดตามอวัยวะต่าง ๆ นำไปสู่โรคหัวใจจากหลอดเลือดหัวใจตีบ กล้ามเนื้อหัวใจตาย หัวใจวาย ตาบอด ไตพิการ เนื้อสมองตายเนื่องจากหลอดเลือดตีบหรือแตก […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ครีมกันแดดถูกเรียกคืนเพราะมีสารก่อมะเร็ง จริงหรือ?

23 พฤษภาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับความปลอดภัยของครีมกันแดดเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยอ้างว่าในครีมกันแดดมีสารก่อมะเร็งอย่าง เบนซีน เป็นส่วนประกอบ นำไปสู่การเรียกคืนครีมกันแดดที่มีเบนซีนเป็นส่วนประกอบอย่างแพร่หลาย บทสรุป : FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : เบนซีน (Benzene) คือสารประกอบอินทรีย์ ใช้เป็นตัวทำละลายในการผลิตสารเคมีสำหรับภาคอุตสาหกรรม และเป็นส่วนประกอบในน้ำมันเชื้อเพลิง องค์กรวิจัยมะเร็งนานาชาติ (IARC) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้เบนซีนเป็นสารก่อมะเร็งระดับที่ 1 การได้รับสารเบนซีนเป็นเวลานานทำให้เกิดผลกระทบต่อไขกระดูก อาจทำให้เกิดโรคโลหิตจางและมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้ พบการปนเปื้อนเบนซีนในครีมกันแดด เมื่อปี 2021 ทางการสหรัฐฯ ได้ส่งผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดและผลิตภัณฑ์ดูแลหลังออกแดดจำนวน 294 ชุดจาก 69 แบรนด์ ไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ โดยพบว่า 78 ชุดหรือประมาณ 1 ใน 4 มีการปนเปื้อนเบนซีน ซึ่งส่วนใหญ่พบในครีมกันแดด ครีมกันแดดครึ่งหนึ่งพบปริมาณเบนซีนต่ำกว่า […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : Cyber Resilience สู้ภัยไซเบอร์ ด้วยการพร้อม “เจอ”

ในยุคที่ภัยไซเบอร์สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา “การป้องกัน” เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ Cyber Resilience ซึ่งเน้นการพร้อมเผชิญ รับมือ และฟื้นตัว จึงเป็นแนวทางสำคัญในการรับมือ เพราะสิ่งที่สำคัญไม่ใช่เพียงการหลีกเลี่ยง แต่คือความพร้อมในการรับมือเมื่อต้องเผชิญหน้ากับภัยไซเบอร์ เหตุสัญญาณโทรศัพท์มือถือของผู้ให้บริการรายใหญ่ในประเทศไทยขัดข้อง เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่า ภัยคุกคามทางไซเบอร์ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป และไม่จำเป็นต้องเป็นการถูกโจมตีโดยตรงเท่านั้น แต่การที่เราไม่สามารถเข้าใช้งานได้ ก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบภัยไซเบอร์ได้เช่นกัน แนวคิดด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ จำแนกรูปแบบการดูแลความมั่นคงปลอดภัยไว้ 3 ด้าน รู้จักกันว่า “สามเหลี่ยม C-I-A” ซึ่งหมายถึง C-Confidentiality (การคงความลับ) I-Integrity (การคงความเที่ยงตรง) และ A-Availability (การคงความสามารถในการเข้าถึง) ดังนั้น การที่จู่ ๆ สัญญาณมือถือหายไป จึงนับเป็นอีกหนึ่งรูปแบบภัยทางไซเบอร์ที่เราต้องเตรียมตัว “เจอ” ไว้เช่นกัน แค่ Cyber Security อาจไม่พอ ต้องมี Cyber Resilience ร่วมด้วยแนวคิด Cyber Resilience จึงเกิดขึ้น เพราะแนวโน้มภัยในโลกยุคนี้มีความรุนแรงและไม่แน่นอน […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ครีมกันแดดเข้าสู่กระแสเลือด-ส่งผลต่อฮอร์โมน จริงหรือ?

23 พฤษภาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับความปลอดภัยของครีมกันแดดเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ตรวจพบตัวยาของครีมกันแดดในกระแสเลือดของผู้ใช้ นำไปสู่การอ้างว่าสารเคมีในครีมกันแดดที่เข้าสู่กระแสเลือดมีฤทธิ์รบกวนการทำงานของต่อมไร้ท่อ ส่งผลต่อความสมดุลของระดับฮอร์โมนในร่างกาย บทสรุป : FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ข้อกล่าวหาอ้างถึงผลวิจัยขนาดเล็กขององค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) เมื่อปี 2019 ที่พบตัวยาสำคัญ (Active Ingredients) ในกระแสเลือดของผู้ใช้ครีมกันแดดในปริมาณมากกว่าที่เคยคาดไว้ แต่ FDA ยืนยันว่า การพบว่าตัวยาสำคัญของครีมกันแดดดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ไม่ได้หมายความว่าการใช้ครีมกันแดดไม่มีความปลอดภัย ดร.อดัม ฟรีดแมน หัวหน้าภาควิชาโรคผิวหนัง มหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน ชี้แจงว่า การอ้างว่าครีมกันแดดไม่มีความปลอดภัยเพราะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดเป็นการกล่าวอ้างที่เกินจริง การพบสารบางอย่างในกระแสเลือดยังบอกไม่ได้ว่าสิ่งนั้นปลอดภัยหรืออันตราย จนกว่าจะมีการศึกษาผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เดสมอนด์ โทบิน ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคผิวหนัง มหาวิทยาลัยคอลเลจดับลิน อธิบายว่า ก่อนจะตัดสินความปลอดภัยหรือผลเสียจากการใช้ครีมกันแดด วงการวิทยาศาสตร์จำเป็นต้องตรวจสอบความปลอดภัยของส่วนผสมในครีมกันแดดอย่างรอบคอบ โดยคำนึงไปถึงผลจากการใช้ต่อเนื่องไปตลอดชีวิต ความกังวลต่อสาร Oxybenzone […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : อาบน้ำด้วยสบู่เหลว ตายเร็ว จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์เตือนว่า การอาบน้ำด้วยสบู่เหลวอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต และทำให้เสียชีวิตเร็วขึ้น เพราะในสบู่เหลวมีสารอันตราย จริงหรือ ? บทสรุป : ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ สารอันตรายที่มีการแชร์คือ SLS (Sodium Lauryl Sulfate) ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักในสบู่เหลว เพื่อให้เกิดฟอง มีการใช้ในปริมาณต่ำและสามารถดูดซึมผ่านผิวหนังได้เพียงเล็กน้อย จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อร่างกาย อย่างไรก็ตาม การใช้สบู่เหลวอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรืออาการแพ้ในบางราย ซึ่งอาจเกิดจาก SLS หรือน้ำหอมและสารเติมแต่งอื่น ๆ ที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่าข้อมูลเรื่อง “สบู่เหลวอันตราย มีสารเคมีซึมลงผิวหนัง ทำให้เสียชีวิตเร็วขึ้น” เป็นข้อมูลที่มักถูกส่งต่อและเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ในลักษณะการเตือนภัยเกี่ยวกับสารเคมีที่ใช้เป็นส่วนประกอบของสบู่เหลว จากการสืบค้นย้อนหลัง พบว่าข้อความลักษณะนี้เคยถูกแชร์บนออนไลน์ ตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2552 ผ่านทางอีเมลที่ส่งต่อกัน และต่อมามีการแชร์อย่างกว้างบนสื่อสังคมออนไลน์ และเป็นหนึ่งในประเด็นที่ทำให้หลายคนเกิดความกังวล จนมีการตั้งกระทู้สอบถามเพิ่มเติมในเว็บไซต์สนทนาอย่าง Pantip อีกด้วย ตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้ช่วยศาสตราจารย์ เภสัชกร ดร.กิติยศ ยศสมบัติ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้แจงว่า ความเข้าใจผิดนี้เกิดขึ้นจากการผลิตสบู่เหลวในอดีต […]

ชัวร์ก่อนแชร์ CyberAlert!🚨: ระวัง ! หลอกสแกนนิ้วมือ ดูดเงินหมดบัญชี จริงหรือ ?

ตามที่มีการแชร์ข้อความพร้อมรูป ระบุว่า ระวังมิจฉาชีพรูปแบบใหม่ หลอกสแกนลายนิ้วมือ เพราะจะดูดข้อมูลส่วนตัวและเงินในบัญชีจนหมด นั้น ❌บทสรุป ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ ❌ -ปัจจุบันการวางนิ้วบนจอมือถือเพื่อวัดน้ำตาลในเลือด ไม่สามารถทำได้-ภาพที่แชร์กัน ไม่ใช่การสแกนลายนิ้วมือ เป็นเพียงการวางนิ้วบนรูปภาพปกติและการสแกนแล้วเงินหาย มีความเป็นไปได้จริงน้อยมาก เพราะก่อนจะโอนเงินออกไปได้ จะต้องผ่านหลายขั้นตอน เช่น การติดตั้งแอป การกรอกข้อมูล ฯลฯ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า ภาพดังกล่าวเป็นโฆษณาบนเฟซบุ๊กให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน โดยอ้างว่า แอปพลิเคชันดังกล่าวสามารถวัดน้ำตาลในเลือดได้ ซึ่งในปัจจุบันการวางนิ้วบนจอโทรศัพท์มือถือเพื่อวัดน้ำตาลในเลือดนั้น ไม่สามารถทำได้ และการวางนิ้วบบนภาพลายนิ้วมือบนหน้าจอมือถือ ไม่ใช่การสแกน แต่เป็นเพียงการวางนิ้วบนรูปภาพปกติ ส่วนคำเตือนที่บอกว่า การวางนิ้วจะถูกดูดข้อมูลและเงินจนหมดนั้น มีความเป็นไปได้จริงน้อยมาก เพราะก่อนจะโอนเงินออกไปได้ จะต้องผ่านการสั่งงานและกดยืนยันหลายขั้นตอน ซึ่งคนร้ายมักจะใช้วิธีการ หลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน หลอกให้กรอกข้อมูล เพื่อนำไปใช้ในการโจรกรรมอีกต่อหนึ่ง ซึ่งมีขั้นตอนมากกว่าการสแกนในคราวเดียว อย่างไรก็ตาม การกดโฆษณาที่มีลักษณะที่หลอกให้เข้าใจผิด ก็มีความเสี่ยงที่อาจจะโดนหลอกให้ดาวน์โหลดแอป ที่ใช้งานไม่ได้ หรือมีอันตราย หรือโดนหลอกให้กรอกข้อมูลส่วนตัว  ❌ ดังนั้นข้อความและรูปภาพที่แชร์กันนี้ไม่เป็นความจริงงดส่งต่อข้อมูลที่สร้างความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง❌  23 พฤษภาคม 2568ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์สำนักข่าวไทย อสมทเขียน โดย เสาวภาคย์ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ครีมกันแดดทำให้ขาดวิตามินดี จริงหรือ?

23 พฤษภาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับความปลอดภัยของครีมกันแดดเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยอ้างว่าการใช้ครีมกันแดดคือสาเหตุของภาวะขาดวิตามินดี (Vitamin D Deficiency) เนื่องจากครีมกันแดดจะป้องกันกระบวนการสังเคราะห์วิตามินดีบนผิวหนัง ส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม และเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง บทสรุป : FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : บทบาทการสังเคราะห์วิตามินดีจากผิวหนัง วิตามินดี เป็นทั้งวิตามินและฮอร์โมนที่สำคัญต่อร่างกาย มีหน้าที่ดูดซึมแคลเซียม เสริมความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟัน ปรับสมดุลของระดับแคลเซียมและฟอสฟอรัสในกระแสเลือด ทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อ ระบบประสาท และระบบภูมิคุ้มกันเป็นไปอย่างปกติ แหล่งวิตามินดีสำคัญของมนุษย์คือการสังเคราะห์รังสียูวีบีจากแสงแดดบริเวณผิวหนัง การไม่ได้รับแสงแดดเป็นเวลานานอาจส่งผลให้ระดับวิตามินดีในร่างกายขาดแคลน ทำให้กระดูกและกล้ามเนื้อเสื่อมสภาพ รวมถึงสาเหตุการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม การศึกษาทั้งจากการสังเกตการณ์และทางระบาดวิทยา ไม่พบว่าการใช้ครีมกันแดดมีความสัมพันธ์กับภาวะขาดวิตามินดีแต่อย่างใด แม้ตามทฤษฎีแล้ว การทาครีมกันแดดจะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินดีลดลง แต่ในความเป็นจริงแล้ว การทาครีมกันแดดไม่สามารถป้องกันผิวจากรังสียูวีบีได้ทั้งหมด และรังสียูวีบีเพียงเล็กน้อย ก็เพียงพอสำหรับใช้สังเคราะห์วิตามินดีในปริมาณที่จำเป็นต่อร่างกายได้ ระยะเวลาตากแดดเพื่อสร้างวิตามินดี องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ในช่วงฤดูร้อน การรับแดดที่บริเวณใบหน้า […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : วุ้นในตาเสื่อม สาเหตุ อาการ และการรักษา

วุ้นในตาเสื่อมเกิดจากสาเหตุใด อาการเป็นอย่างไร มีวิธีการรักษาอย่างไร ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ในลูกตาของคนเรามีกระจกตาดำอยู่ด้านหน้า ด้านในถูกเติมเต็มด้วยน้ำวุ้นลูกตา หรือที่คนทั่วไปคุ้นเคยกับคำว่า วุ้นตา  (Vitreous) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของลูกตา มีลักษณะเหลวคล้ายไข่ขาวที่ยึดติดกับผิวของจอตา วุ้นตามีมาตั้งแต่เกิด เมื่อใช้งานไปสักระยะหนึ่ง หรือเข้าสู่วัยกลางคนวุ้นตาจะเสื่อม มีลักษณะเหลวเป็นน้ำ หดตัวและลอกตัวจากจอตา อาจเกิดตะกอนวุ้นตา (Floaters) ลอยขึ้นมาในวุ้นตาได้ ที่เรียกกันว่าวุ้นตาเสื่อม (Vitreous Degeneration) วุ้นตาเสื่อม เกิดขึ้นกับคนกลุ่มไหน ? วุ้นตาเสื่อมไม่ได้เกิดเฉพาะกับผู้สูงอายุเท่านั้น วัยรุ่นและวัยทำงานตอนต้น อายุ 20 กว่าก็มีวุ้นตาเสื่อม หรือตะกอนในวุ้นลูกตาได้ “วุ้นตาเสื่อม” เป็นภาวะที่เกิดได้กับทุกคน แต่มีโอกาสพบได้มากคือคนที่มีภาวะสายตาสั้นมาก ๆ และลูกตาเคยถูกกระแทกอย่างรุนแรง รวมถึงคนที่เคยผ่าตัดต้อกระจก ในคนที่มีโรคประจำตัวบางอย่างที่อาจกระทบถึงดวงตาได้ เช่น เบาหวานขึ้นตาก็ทำให้เกิดตะกอนได้ หรือมีวุ้นตาเสื่อมได้เร็วกว่าคนปกติทั่วไป สาเหตุ และอาการ “วุ้นตาเสื่อม” เป็นอย่างไร ? โดยทั่วไป อาการวุ้นตาเสื่อมหรือมีตะกอนในวุ้นลูกตา ผู้ป่วยมาพบจักษุแพทย์เพราะมองเห็นจุดดำ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: มะเร็งผิวหนังค้นพบหลังการผลิตครีมกันแดด จริงหรือ?

22 พฤษภาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับความปลอดภัยของครีมกันแดดเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยอ้างว่ามนุษย์ใช้ชีวิตกลางแสงแดดมาตั้งแต่โบราณ กระทั่งมีการผลิตครีมกันแดด ผู้คนก็เริ่มป่วยเป็นมะเร็งผิวหนัง โดยเฉพาะมะเร็งผิวหนังชนิดใหม่อย่างเมลาโนมา (Melanoma) ที่เพิ่งจะพบผู้ป่วยเมื่อ 60 ปีที่แล้ว ช่วงเดียวกับที่ครีมกันแดดเริ่มเป็นที่นิยม บทสรุป : FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : อย่างไรก็ดี โรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาถูกตรวจพบก่อนการผลิตครีมกันแดดนานนับพันปี ครั้งแรกที่มีการจดบันทึกเกี่ยวกับโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาจากบันทึกของฮิปโปเครตีส บิดาการแพทย์ชาวกรีกโบราณซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วง 460-375 ปีก่อนคริสตกาล เรเน เลนเนค แพทย์ชาวฝรั่งเศสผู้คิดค้นหูฟังทางการแพทย์ เป็นผู้บัญญัติชื่อโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาและบรรยายเกี่ยวกับมะเร็งเมลาโนมาเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1804 ส่วนครีมกันแดดเริ่มพัฒนาเมื่อปี 1890 โดยครีมกันแดดสมัยใหม่จะถูกคิดค้นโดย ฟรานซ์ ไกรเทอร์ นักเคมีชาวสวิสช่วงปลายทศวรรษ 1940s ความเสี่ยงมะเร็งผิวหนังจากรังสียูวี เมื่อปี 2009 องค์กรวิจัยมะเร็งนานาชาติ (IARC) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้รังสียูวีทั้งจากแสงอาทิตย์และรังสียูวีสังเคราะห์เป็นสารก่อมะเร็งระดับที่ 1 […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : เส้นขาวรอบตาดำ

เส้นขาวเป็นวงรอบรอบกระจกตาดำเกิดจากสาเหตุใด เป็นสัญญาณบอกอันตรายหรือไม่ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ภาวะที่มี “วงสีขาวรอบกระจกตาดำ” เกิดขึ้นได้ตามปกติ ทางการแพทย์เรียกว่า Arcus senilis ในคนอายุมากกว่า 40 ปี เริ่มมี Arcus senilis ถือเป็นเรื่องปกติที่มีไขมันมาสะสมบริเวณขอบตาดำบริเวณรอยต่อกับตาขาว ซึ่งมีทั้งคอเลสเตอรอล (Cholesterol) และไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) สามารถมองเห็น “วงสีขาวรอบกระจกตาดำ” ได้ด้วยตาเปล่าโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์อะไรเลย ถ้าสังเกตคนอายุ 40-50 ปีไปแล้ว จะเริ่มเห็นมีการสะสมของไขมันบริเวณขอบตาดำ เฉพาะด้านบนและด้านล่างที่มีเปลือกตาบังอยู่ก็อาจจะไม่ทันสังเกต ต่อมาวง Arcus senilis จะกระจายรอบดวงตา (ทั้งด้านนอกและด้านใน) ในคนอายุ 60-70-80 ปี จะมองเห็นวงสีขาวเข้ม คนอายุน้อย มีเส้นขาวรอบกระจกตาดำ ด้วยหรือไม่ ? โดยทั่วไป ถ้าพบ Arcus senilis ในคนอายุน้อยกว่า 40 ปี และในคนอายุเกิน […]

1 11 12 13 14 15 162
...