ชัวร์ก่อนแชร์ : ดื่ม “ชาไทย” อย่างไร ปลอดภัยSunset yellow FCF

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์เตือนว่า “เครื่องดื่มชาไทย มีการใส่สีสังเคราะห์ หากดื่มมาก อาจเสี่ยงอันตราย” จริงหรือ ?


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.ดร.กฤษกมล ณ จอม อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

การตรวจสอบ “ชาไทย” ด้วยตนเอง จากเครื่องมือชั้นสูงของภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร พบว่า ชาไทยทุกยี่ห้อใส่สี Sunset yellow FCF หรือ “สีเหลืองพระอาทิตย์ตก”


การใส่สี Sunset Yellow FCF ในอาหารและเครื่องดื่มไม่เกินเกณฑ์มาตรฐาน ร่างกายสามารถขับออกได้

ในประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข อนุญาตให้ใช้ Sunset Yellow FCF ในอาหารและเครื่องดื่มได้ โดยระบุว่าชาที่ใส่สีจะถูกนับเป็นประเภทชาปรุงสำเร็จที่ปรุงแต่งสีกลิ่นรส กฎหมายอนุญาตให้ใส่สีผสมอาหาร Sunset Yellow FCF ได้ไม่เกิน 100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

องค์การอนามัยโลก (WHO) ถือว่าสี Sunset Yellow FCF ยังปลอดภัยสำหรับการใช้ในอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งต้องควบคุมการใช้และการบริโภคอย่างเหมาะสม นั่นคือกำหนดให้ใช้ในปริมาณ 0-4 มิลลิกรัม/กิโลกรัม (น้ำหนักตัว) ต่อวัน


“ใบชา” โดยทั่วไป ใส่สีได้หรือไม่ ?

ถ้าเป็น “ใบชาแห้ง” หรือ “ผงชาสำเร็จ” ที่บดแล้วจากใบชาแห้ง ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จะไม่อนุญาตให้ใส่สี แต่ถ้าเปลี่ยนเป็น “ชาผงปรุงสำเร็จ” สามารถ “ปรุงแต่ง กลิ่น สี” ได้ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่นำมาชงชาไทย

เอกลักษณ์ของ “ชาไทย” คือ สีส้ม มาจากอะไร ?

ถ้าพูดถึงชาไทย ผู้บริโภคจะรับรู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นชาสีส้ม นั่นคือ มีการใส่สีผสมอาหาร Sunset Yellow FCF ตามที่ อย. อนุญาตให้ใส่ได้สูงสุด 100 มก./กก.

สูตร “ชาไทย” แต่ละยี่ห้อมีการผสมของชาอัสสัม ชาซีลอน และอื่น ๆ ซึ่งจากการทดลองชงใบชาปกติโดยไม่ได้ใส่สี Sunset Yellow FCF จะได้สีน้ำชาออกเหลืองตุ่น ๆ และบางยี่ห้อให้น้ำชาสีเหลืองอำพัน แต่เมื่อเติมนมลงไปจะได้สีน้ำชาคล้ายกับชานมไต้หวัน และมีบางยี่ห้อให้สีคล้ายชาภาคใต้ หรือชาผสมโกโก้ ในบรรดาชาที่ได้เหล่านี้ ผู้บริโภคจะไม่เรียกว่า “ชาไทย”

คนไทยจะคุ้นเคยกับชาที่มี “สีส้ม” ว่า “ชาไทย” ซึ่งเป็นไปได้ว่าถ้าชาที่ชงออกมาแล้วมีสีส้มมาก ๆ หมายความว่า ใส่สี Sunset Yellow FCF ปริมาณมาก และถ้าสีส้มน้อยก็แสดงว่าใส่สี Sunset Yellow FCF ปริมาณน้อย ตรงนี้จะเกี่ยวข้องกับสูตรของชาที่ใช้ และสูตรของสีผสมอาหารที่ใส่ด้วย

ผลการตรวจปริมาณ “สี” ในชาไทยหลายยี่ห้อ

จากการนำชาแต่ละยี่ห้อในท้องตลาดมาละลายน้ำชง จากนั้นกรองกากชาออก บรรจุขวดแยกแต่ละยี่ห้อ จากนั้นนำไปตรวจด้วยเครื่อง LC-MS (Liquid Chromatography-Mass Spectrometer) ซึ่งเป็นเครื่องตรวจวิเคราะห์ชั้นสูง

การใช้เครื่อง “LC-MS” เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่ตรวจพบคือสี Sunset Yellow FCF จริง ๆ และมีปริมาณเท่าไหร่จริง ๆ และโปรแกรมจากเครื่องจะคำนวณออกมาว่าแต่ละตัวอย่างที่ใส่เข้าไปมีความเข้มข้นในตัวอย่างเท่าไหร่

ผลจากการตรวจด้วยเครื่อง “LC-MS” ปรากฏว่ามี 2 ตัวอย่างที่มีสี Sunset Yellow FCF เกิน ซึ่งเป็นชาปรุงสำเร็จรูป 2 ตัวอย่างที่บนฉลากไม่มีเครื่องหมาย “อย.”

จากการตรวจวิเคราะห์ชาปรุงสำเร็จ 12 ตัวอย่าง พบว่าทุกยี่ห้อใส่สี Sunset Yellow FCF แต่บรรดาผู้ผลิตหลายยี่ห้อก็ไม่ได้ใช้สี Sunset Yellow FCF เพียงอย่างเดียว บางยี่ห้อใส่สี 2 ชนิด บางยี่ห้อก็ใส่สี 3 ชนิด แล้วแต่สูตร ได้แก่

มี 80 เปอร์เซ็นต์ ใส่ ทาร์ทราซีน (Tartrazine) หรือ “สีเหลืองมะนาว”

มี 60 เปอร์เซ็นต์ ใส่ ปองโซ โฟร์อาร์ (Ponceau 4R) หรือ “สีแดงสตรอว์เบอร์รี”

มี 40-50 เปอร์เซ็นต์ ใส่ คาร์โมอีซีน (Carmoisine) หรือ “สีแดง-เข้ม) และ เอโซ (Azo dyes) ลงไปด้วย

ชาปรุงสำเร็จทุกยี่ห้อที่มีเครื่องหมาย “อย.” ใส่สีไม่เกินเกณฑ์มาตรฐาน แต่มี 2 ยี่ห้อที่ไม่มีเครื่องหมาย “อย.” ปรากฏว่าใส่สีเกินมาตรฐาน 1 เท่า คือใส่ 200 มก./กก. (อย. อนุญาตให้ใส่ได้สูงสุด 100 มก./กก.)

สีผสมอาหารเหล่านี้สามารถกินได้ในปริมาณตามมาตรฐาน สิ่งที่อันตรายมากกว่าถ้าสีส้มนั้นเป็นสีปลอม หรือสีอุตสาหกรรมที่เป็นสารเคมีที่ผลิตเพื่อใช้ในพลาสติก สิ่งทอ หรือหมึก ที่ไม่ได้ออกแบบมาให้ใส่ในของกิน

ดื่มชาไทยใส่สี Sunset yellow FCF ปลอดภัยหรือไม่ ?

บรรดา “ชาปรุงสำเร็จ” ถ้าใส่สีไม่เกินปริมาณที่ อย. กำหนด ร่างกายคนเราสามารถขับออกมาได้ ยกเว้นกลุ่มคนที่แพ้หรือ Sensitive ต่อสีผสมอาหาร ก็จะแสดงอาการแพ้ออกมาให้เห็นได้

ตามข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลก ปริมาณที่คนเราได้รับสี Sunset yellow FCF ต่อวัน คือ 4 มิลลิกรัม/กิโลกรัม (น้ำหนักตัว) ต่อวัน

ตัวอย่างเช่น ถ้าร่างกายหนัก 50-60 กิโลกรัม สามารถรับปริมาณสี Sunset yellow FCF สูงสุด 200-240 มิลลิกรัมต่อวัน ร่างกายจะขับออกได้โดยไม่มีอันตราย

กรณีได้รับสี Sunset yellow FCF มากกว่า 200 มก./วัน หรือมากกว่า 250 มก./วัน ร่างกายจะสะสมสี Sunset yellow FCF ไว้

นอกจากนี้ ถ้าดื่มชาไทยที่ใส่สี Sunset yellow FCF 200 มก./วัน แต่ดื่มทุกวันและร่างกายขับออกไม่ทัน ก็จะมีสี Sunset yellow FCF สะสมอยู่ในร่างกายได้เช่นกัน

ปัจจุบัน ยังไม่มีงานวิจัยเกี่ยวกับสี Sunset yellow FCF ในมนุษย์ มีแต่งานวิจัยสี Sunset yellow FCF ในหนูทดลอง โดยให้หนูได้รับสี Sunset yellow FCF เกิน 4 มก./วัน จะแสดงพฤติกรรม “สมาธิสั้น” คือวิ่งไม่หยุด และมีการสะสมอยู่ที่ตับอ่อน

นอกจากนี้ ปริมาณชาไทยที่ควรดื่มแต่ละวัน ควรดูว่าเป็นชาที่มีเครื่องหมาย “อย.” หรือไม่ และ/หรือ ปริมาณผงชาที่ใส่ลงไปด้วย เช่น บางคนใส่ผงชามากกว่า 3 ช้อนโต๊ะ หรือบางคนใส่ผงชามากกว่า 5 ช้อนโต๊ะ

ดื่มชาไทย ไม่ใช่มีเฉพาะเรื่องสี Sunset yellow FCF เท่านั้น ยังมีเรื่อง “กาเฟอีน, น้ำตาล” และ “ออกซาเลต” ด้วย

ใครก็ตามที่ดื่มชาไทยช่วงบ่ายหรือเย็น จะทำให้กลางคืนนอนไม่หลับ นอนไม่เต็มที่ วันรุ่งขึ้นไม่มีสมาธิทำงาน

บางคนสั่งชาไทย “หวานปกติ” และ “หวานเกิน 100” สิ่งที่จะตามมาก็คือโรคเบาหวาน

ผลกระทบจากการดื่มชาไทยที่มาก่อนเรื่องสี Sunset yellow FCF ก็คือ จากกาเฟอีน และน้ำตาล

เรื่อง “ออกซาเลต” ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะในชาสำเร็จรูปมีปริมาณออกซาเลตโดยประมาณ 50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

สำหรับปริมาณออกซาเลตสูงสุดที่สามารถมีอยู่ได้ในร่างกาย โดยไม่ก่อให้เกิดโรคนิ่วในถุงน้ำดี ก็คือ 200 มิลลิกรัมต่อวัน

ดังนั้น ใครก็ตามที่ดื่มชามากกว่า 4 แก้วต่อวัน และดื่มน้ำเปล่าน้อยมาก ไม่ได้กินอาหารที่มีแคลเซียมหรือได้รับแคลเซียมไม่พอ หรือมีปัญหาเรื่องนิ่วและเรื่องไตแล้ว จะมีความเสี่ยงเป็นโรคนิ่วสูง มากกว่าเรื่องสี Sunset yellow FCF แต่ก็ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ไม่ใช่ดื่มชาไทยวันละ 4 แก้วติดต่อกันนาน 1 สัปดาห์ และสัปดาห์ถัดไปจะเกิดโรคนิ่วทันที หรือได้รับผลกระทบจากสี Sunset yellow FCF ทันที ขึ้นกับระยะเวลาและปริมาณที่ได้รับด้วย

คำแนะนำเรื่อง “การดื่มชาไทย” อย่างปลอดภัยจากสี Sunset yellow FCF

เพื่อความปลอดภัยจากการดื่ม “ชาไทย” ของทุกคน แนะนำให้ดื่มวันละ 1 แก้วเท่านั้น

กรณี “เสพติด” ชาไทย และ/หรือ “น้ำชงรสหวาน” ไม่ว่าจะเป็นสีส้ม สีเขียว สีอื่น ๆ ที่ดื่มเพื่อความสดชื่นก็ตาม ควรดื่มสลับกันเพื่อความหลากหลายของรสชาติที่ได้รับ เช่น

วันจันทร์ : ชาไทย 1 แก้ว

วันอังคาร : นมชมพู 1 แก้ว

วันพุธ : ชาเขียว 1 แก้ว

วันพฤหัสบดี : ชาไทย 1 แก้ว

วันศุกร์ : โกโก้ 1 แก้ว

วันเสาร์ : น้ำส้มคั้น 1 แก้ว (น้ำส้มคั้นจากส้มสด)

วันอาทิตย์ : กาแฟส้ม 1 แก้ว (น้ำส้มคั้นจากส้มสด)

การสลับดื่มเครื่องดื่มที่หลากหลาย จะทำให้ได้ทั้งรสชาติ และ/หรือ สารอาหารบางอย่างที่เข้าสู่ร่างกายด้วย แต่เพื่อสุขภาพของผู้ดื่ม ขอให้เน้น “หวานน้อย” ปลอดภัยทั้งระยะสั้นและระยะยาว

เรื่องนี้สามารถแชร์ต่อได้ แต่ไม่ควรตื่นตกใจ เพราะสี Sunset yellow FCF ถูกกฎหมาย และใช้ได้ในอาหาร ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใส่ และระยะเวลาที่กินด้วย

สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์

เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ : ชาไทย ใส่สีสังเคราะห์ จริงหรือ ?

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตร.แจ้ง 2 ข้อหามือมีดทำร้าย “เป๊ก” คาดปมเข้าใจผิด

3 ส.ค.- ตำรวจ สน.หัวหมาก แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มวัย 21 ใช้มีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” นักร้องชื่อดัง บาดเจ็บที่คางเป็นแผลฉกรรจ์ อ้างถูกหาเรื่องก่อน เบื้องต้นคาดปมเข้าใจผิด จ่อสอบปากคำเพิ่มเติม เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 3 ส.ค.68 ร.ต.อ.ชัยนรินทร์ กวีพราหมณ์ รอง.สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีด มีผู้บาดเจ็บ ภายในปั๊มน้ำมัน ซอยรามคำแหง 76 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมกำลังสายตรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.หัวหมาก และอาสามูลนิธิสยามร่วมใจปู่อินทร์ ที่เกิดเหตุอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน พบร่างนายผลิตโชค หรือ เป๊ก อายุ 40 ปี ดารานักร้องชื่อดัง มีบาดแผลฉกรรจ์ถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่บริเวณใต้คาง 1 แผล ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงเร่งทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเร่งนำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมิติเวช ส่วนผู้ก่อเหตุไม่หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ […]

เฝ้าระวังตลอดคืน พบโดรนปริศนาบินล้ำเขตแดนอรัญฯ

สระแก้ว 3 ส.ค.- พบโดรนปริศนาไม่ทราบฝ่ายบินล้ำแดนจากกัมพูชาเข้ามาในไทย ชาวบ้าน-ชรบ.ในพื้นที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เฝ้าระวังตลอดทั้งคืน คืนที่ผ่านมา เวลา 21.00 น. ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยจุดที่ทีมข่าวเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ห่างจากแนวชายแดนเพียง 2 กิโลเมตร บรรยากาศในพื้นที่ขณะนั้นมีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ออกมาคอยเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง หลังได้รับแจ้งว่าอาจมีโดรนปริศนาเข้ามาในพื้นที่ ระหว่างที่ทีมข่าวกำลังสัมภาษณ์พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ พบโดรนลำหนึ่งบินเข้ามาจากเขตชายแดนฝั่งกัมพูชา ล้ำเข้ามาในอาณาเขตประเทศไทยลึกประมาณ 2 กิโลเมตร ขณะที่โดรนลำนั้นลอยอยู่เหนือพื้นที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ใช้ไฟสปอร์ตไลต์กำลังแรงสูงร่วมกับแสงเลเซอร์จากอุปกรณ์ของทหาร ส่องไปยังโดรนปริศนาอย่างชัดเจน ทำให้เห็นลำตัวของโดรนแม้อยู่ในความมืด สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่มีการเปิดเผยว่าโดรนลำนั้นมีเป้าหมายใดหรือเป็นของฝ่ายใด ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงยังคงเพิ่มมาตรการตรวจตราและเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดคิดหรือภัยคุกคามความมั่นคงในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารไทยบึ้มบันไดช่องคานม้า สกัดเส้นทางขึ้นภูมะเขือ

3 ส.ค. – เปิดภาพทหารไทยบึ้มบันไดช่องคานม้า จ.ศรีสะเกษ สกัดเส้นทางขึ้นภูมะเขือ ห้วงปะทะวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา วันนี้ (3 ส.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา ทหารได้ทำลายบันไดช่องคานม้า จ.ศรีสะเกษ ซึ่งสามารถขึ้นมาถึงภูมะเขือได้ หลังทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ภูมะเขือ ผลักดันทหารกัมพูชาอยู่บนจะงอยหน้าผาออกไปทั้งหมด พร้อมทำลายกระเช้า และฐานทหารกัมพูชาด้านล่างภูมะเขือ โดยการใช้โดรนติดระเบิด ล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพทหารทำลายบันไดช่องคานม้า ในระหว่างยึดพื้นที่ได้จากการเหตุปะทะช่วง 5 วันที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

ชาวเชียงใหม่ร่วมจุดเทียนสดุดี 15 วีรบุรุษชายแดน

3 ส.ค.- ชาวเชียงใหม่ ร่วมกันจุดเทียน แสดงความไว้อาลัย สดุดี 15 วีรบุรุษทหารที่พลีชีพปกป้องแผ่นดินไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บริเวณ หน้าลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ตัวเมืองเชียงใหม่ ประชาชนได้รวมตัวทำกิจกรรมร้องเพลง เขียนข้อความ พร้อมโบกธงชาติไทย เพื่อส่งกำลังใจให้กับทหารที่อยู่แนวหน้า ชายแดนไทย-กัมพูชา และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย เพื่อเป็นการสดุดีทหาร 15 นายที่พลีชีพในการสู้รบปกป้องอธิปไตย อีกทั้งอ่านรายชื่อทหาร วางพวงหรีดและจุดเทียน แสดงความไว้อาลัยพร้อมทั้งยืนสงบนิ่ง อธิฐานขอให้เจ้าหน้าที่ที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ปลอดภัยทุกนาย นอกจากนี้ บริเวณย่านถนนท่าแพ หน้าอาคารพุทธสถานเชียงใหม่ มีการนำภาพทหารที่เสียชีวิตทั้ง 15 นายติดไว้ริมถนนและมีการตั้งโต๊ะเพื่อให้ประชาชน มาวางดอกไม้ แสดงความอาลัย -สำนักข่าวไทย