ชัวร์ก่อนแชร์ : เครื่องครัวพลาสติกสีดำ มีสารเสี่ยงมะเร็ง จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์ข่าวเตือนว่า “เครื่องครัวพลาสติกสีดำ มีสารเสี่ยงเกิดมะเร็งปริมาณสูง บ้านไหนมีควรทิ้ง ยิ่งใช้ยิ่งอันตราย” จริงหรือ ?


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.ดร.บุศรินทร์ จงเจริญยานนท์ อาจารย์ประจำภาควิชาเทคโนโลยีการบรรจุและวัสดุ และ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ข่าวนี้มาจากงานวิจัยและงานวิจัยมีอยู่จริง มีข้อมูลบางส่วนจากงานวิจัยที่ข่าวนี้ใช้อ้างอิงมีความผิดพลาด โดยเจ้าของงานวิจัยนี้ได้ทำหนังสือขอโทษและแก้ไขข้อมูลแล้ว แต่ข่าวที่เผยแพร่ในประเทศไทยยังไม่ได้มีการอัปเดตข้อมูลการแก้ไขนี้ จึงยังไม่ควรแชร์ต่อ เพราะอาจทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้


ประเด็นที่ผิดพลาดคือ เจ้าของงานวิจัยรายงานว่าสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐ (United States Environmental Protection Agency : US EPA) กำหนดขีดจำกัดที่ปลอดภัยของ Decabromodiphenyl Ether, BDE-209 ไว้ที่ 42,000 นาโนกรัมต่อวัน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผิดพลาด โดยไม่ได้ใส่เลข 0 หนึ่งตัว

การคำนวณนี้มาจากปริมาณการรับสัมผัสที่ยังอยู่ในระดับปลอดภัยของ BDE-209 คือ 7,000 นาโนกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวัน และใช้ค่าน้ำหนักผู้ใหญ่ 60 กิโลกรัม ดังนั้น ค่าที่ถูกต้องคือ 7,000 x 60 = 420,000 นาโนกรัมต่อวัน (limit)

งานวิจัยนี้อ้างอิงข้อมูลการใช้เครื่องครัวสีดำ จำลองสภาวะการใช้งานในน้ำมันและอุณหภูมิสูง เช่น ในการปรุงอาหารและเสิร์ฟอาหารร้อน พบว่าเกิดการ “ไมเกรชัน” (Migration) ที่มีการเคลื่อนย้ายหรือการแพร่กระจายของสารจากภาชนะบรรจุ หรือวัสดุสัมผัสอาหารลงสู่อาหารโดยตรง หรือการปล่อย “สารหน่วงไฟ” (Flame Retardants) BDE-209 อยู่ที่ 34,700 นาโนกรัมต่อวัน


จากการคำนวณที่ผิดพลาดข้างต้น ทำให้ดูเหมือนว่าเครื่องครัวสีดำปล่อยสารหน่วงไฟสูงเกือบเท่ากับค่าจำกัดที่ปลอดภัย (limit) ทั้งที่ในความเป็นจริง ค่าที่ถูกต้องคือ 420,000 นาโนกรัมต่อวัน ปริมาณสารที่ปลดปล่อยออกมา ต่ำกว่าเกณฑ์อันตรายถึง 12 เท่า

งานวิจัยนี้นำวัสดุอุปกรณ์ครัวเรือนที่ทำจากพลาสติกสีดำมาจากห้างร้านต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกา เก็บตัวอย่างทั้งหมด 203 ตัวอย่าง และใช้เครื่องสแกนหาสารหน่วงการติดไฟ (Flame Retardants – FRs) ว่ามีธาตุโบรมีน (Bromine) หรือไม่

“โบรมีน” เป็นส่วนประกอบของสารที่ใช้ในการหน่วงไฟ ถ้าตัวอย่างไหนมีโบรมีนมากเขาก็วิเคราะห์ต่อด้วยการนำภาชนะพลาสติกตัวอย่างมาละลายหาสารหน่วงไฟ

ปรากฏว่าใน 20 ตัวอย่าง มี 17 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 85 จาก 20 ตัวอย่างพบสารหน่วงไฟ ซึ่งสะท้อนว่าในท้องตลาดมีวัสดุอุปกรณ์ รวมถึงเครื่องใช้ในครัวเรือนที่มีสารหน่วงไฟผสมอยู่อันเนื่องมาจากกระบวนการรีไซเคิล

ที่สำคัญ ตัวเลขร้อยละ 85 อาจทำให้เข้าใจว่าเป็น 85 เปอร์เซ็นต์ของ 203 ตัวอย่าง แต่ในความเป็นจริง ตัวเลข 85 เปอร์เซ็นต์ คือตัวแทนของ 17 ตัวอย่างเท่านั้นเอง

สารหน่วงไฟที่พูดถึงคืออะไร อันตราย และการเข้าสู่ร่างกาย เป็นอย่างไร ?

สารหน่วงการติดไฟที่พูดถึงในงานวิจัยนี้คือ กลุ่มของสารหน่วงไฟที่มีโบรมีน (Brominated Flame Retardants – BFRs) และสารหน่วงไฟชนิดออร์กาโนฟอสเฟต (Organophosphate Flame Retardants – OPFRs) และสารทดแทน มักถูกเติมลงในพลาสติกที่เป็นส่วนประกอบของเครื่องใช้ไฟฟ้าในปริมาณสูงเพื่อป้องกันหรือชะลอการเกิดไฟ

ในเครื่องครัวสีดำไม่ได้ตั้งใจเติมสารหน่วงไฟลงไป แต่มาจากการรีไซเคิลพลาสติกจากเครื่องใช้ไฟฟ้ามาเป็นเครื่องครัวสีดำ นอกจากนี้ก็ยังพบในของเล่น หวี ลูกปัดที่มีสีดำ ทำให้ของใช้เหล่านี้มีสารหน่วงไฟผสมอยู่ด้วย

อันตรายจากสารหน่วงไฟ ถ้าร่างกายได้รับสารหน่วงไฟเกินกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ร่างกายไม่สามารถกำจัดออกได้ มีผลต่อระบบสืบพันธุ์ ต่อมไร้ท่อ เป็นมะเร็ง และมีผลต่อการเจริญเติบโต

การเข้าสู่ร่างกายของสารหน่วงไฟทางใหญ่ ๆ ก็คือกินเข้าไป จากการใช้เครื่องครัวซึ่งอาจมีสารหน่วงไฟผสมอยู่ และใช้ในสภาวะที่ผู้ผลิตอาจะไม่ได้กำหนดไว้ นั่นคือใช้ระยะเวลานานเกินไป ด้วยอุณหภูมิความร้อนที่สูงมากเกินไป ทำให้สารหน่วงไฟถูกแพร่ หรือเกิดการไมเกรชั่น (Migration) จากการเคลื่อนที่ของสารหน่วงไฟสู่อาหารและเราก็กินอาหารเหล่านี้เข้าไป

อีกทางหนึ่งที่งานวิจัยมีการพูดถึง คือ ของเล่นเด็กทำจากพลาสติกสีดำ เช่น เด็กอม กัดเล่น สารหน่วงไฟก็มีโอกาสแพร่จากพลาสติกสีดำสู่น้ำลายเด็กเข้าสู่ร่างกาย

ใครมีเครื่องครัวสีดำ จะต้องทิ้งทันที หรือไม่ ?

จากข่าวที่แชร์กันบอกว่า “ควรจะทิ้งเครื่องครัวสีดำ” เพราะเขามองเห็นว่าความเสี่ยงค่อนข้างสูงมาก

แต่ “ความเสี่ยง” ที่ปรากฏในข่าว เกิดจากการคำนวณที่ผิดพลาด รู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่สบายใจ ก็สามารถปรับเปลี่ยนไปใช้วัสดุชนิดอื่นแทนได้

เครื่องครัวสีดำ ยังใช้ได้  ถ้าเป็นวัสดุสัมผัสอาหาร ซื้อจากผู้ผลิตที่มีมาตรฐาน ก็ใช้ต่อได้ 

สิ่งสำคัญก็คือต้องใช้ตามสภาวะที่ผู้ผลิตแนะนำ เช่น อุณหภูมิ ระยะเวลาการใช้งาน

ถ้าใช้เครื่องครัวสีดำภายใต้ข้อกำหนดเหล่านี้ มั่นใจได้ว่าไม่มีอันตรายที่สารต่าง ๆ จะออกมามากกว่าที่ร่างกายจะรับได้

พลาสติกสีดำทุกชิ้นไม่ได้มีสารอันตราย และงานวิจัยชิ้นนี้ทำให้สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันข้อมูลในประเทศไทย ก็ไม่ได้มีการทำวิจัยเทียบเคียงกันระดับนี้ ให้คำตอบไม่ได้ว่าถ้าของไทยอาจจะมากกว่า หรืออาจจะน้อยกว่า

ในเมืองไทย การนำพลาสติมาเป็นวัสดุสัมผัสอาหาร มีแต่ขวดน้ำพลาสติก หรือพวกเพชรเท่นั้น อย่างเดียวที่สามารถทำมาจากพลาสติกรีไซเคิลได้ และพลาสติกที่จะนำมารีไซเคิลได้ ต้องเป็นพลาสติกที่สัมผัสอาหารมาอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ได้เป็นพลาสติกชนิดอื่น ๆ มาก่อน เพราะฉะนั้นพลาสติกชนิดอื่น ๆ ที่นำมาใช้สัมผัสอาหาร เป็นพลาสติกบริสุทธิ์ไม่ได้ผ่านการใช้งานมาก่อน

ทุกข่าวสารที่น่าสนใจ ควรตรวจให้แน่ใจก่อนตื่นตระหนก

สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์

เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ  ชัวร์ก่อนแชร์ : เครื่องครัวพลาสติกสีดำ มีสารเสี่ยงมะเร็ง จริงหรือ ?

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตร.แจ้ง 2 ข้อหามือมีดทำร้าย “เป๊ก” คาดปมเข้าใจผิด

3 ส.ค.- ตำรวจ สน.หัวหมาก แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มวัย 21 ใช้มีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” นักร้องชื่อดัง บาดเจ็บที่คางเป็นแผลฉกรรจ์ อ้างถูกหาเรื่องก่อน เบื้องต้นคาดปมเข้าใจผิด จ่อสอบปากคำเพิ่มเติม เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 3 ส.ค.68 ร.ต.อ.ชัยนรินทร์ กวีพราหมณ์ รอง.สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีด มีผู้บาดเจ็บ ภายในปั๊มน้ำมัน ซอยรามคำแหง 76 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมกำลังสายตรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.หัวหมาก และอาสามูลนิธิสยามร่วมใจปู่อินทร์ ที่เกิดเหตุอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน พบร่างนายผลิตโชค หรือ เป๊ก อายุ 40 ปี ดารานักร้องชื่อดัง มีบาดแผลฉกรรจ์ถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่บริเวณใต้คาง 1 แผล ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงเร่งทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเร่งนำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมิติเวช ส่วนผู้ก่อเหตุไม่หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ […]

เฝ้าระวังตลอดคืน พบโดรนปริศนาบินล้ำเขตแดนอรัญฯ

สระแก้ว 3 ส.ค.- พบโดรนปริศนาไม่ทราบฝ่ายบินล้ำแดนจากกัมพูชาเข้ามาในไทย ชาวบ้าน-ชรบ.ในพื้นที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เฝ้าระวังตลอดทั้งคืน คืนที่ผ่านมา เวลา 21.00 น. ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยจุดที่ทีมข่าวเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ห่างจากแนวชายแดนเพียง 2 กิโลเมตร บรรยากาศในพื้นที่ขณะนั้นมีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ออกมาคอยเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง หลังได้รับแจ้งว่าอาจมีโดรนปริศนาเข้ามาในพื้นที่ ระหว่างที่ทีมข่าวกำลังสัมภาษณ์พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ พบโดรนลำหนึ่งบินเข้ามาจากเขตชายแดนฝั่งกัมพูชา ล้ำเข้ามาในอาณาเขตประเทศไทยลึกประมาณ 2 กิโลเมตร ขณะที่โดรนลำนั้นลอยอยู่เหนือพื้นที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ใช้ไฟสปอร์ตไลต์กำลังแรงสูงร่วมกับแสงเลเซอร์จากอุปกรณ์ของทหาร ส่องไปยังโดรนปริศนาอย่างชัดเจน ทำให้เห็นลำตัวของโดรนแม้อยู่ในความมืด สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่มีการเปิดเผยว่าโดรนลำนั้นมีเป้าหมายใดหรือเป็นของฝ่ายใด ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงยังคงเพิ่มมาตรการตรวจตราและเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดคิดหรือภัยคุกคามความมั่นคงในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารไทยบึ้มบันไดช่องคานม้า สกัดเส้นทางขึ้นภูมะเขือ

3 ส.ค. – เปิดภาพทหารไทยบึ้มบันไดช่องคานม้า จ.ศรีสะเกษ สกัดเส้นทางขึ้นภูมะเขือ ห้วงปะทะวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา วันนี้ (3 ส.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา ทหารได้ทำลายบันไดช่องคานม้า จ.ศรีสะเกษ ซึ่งสามารถขึ้นมาถึงภูมะเขือได้ หลังทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ภูมะเขือ ผลักดันทหารกัมพูชาอยู่บนจะงอยหน้าผาออกไปทั้งหมด พร้อมทำลายกระเช้า และฐานทหารกัมพูชาด้านล่างภูมะเขือ โดยการใช้โดรนติดระเบิด ล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพทหารทำลายบันไดช่องคานม้า ในระหว่างยึดพื้นที่ได้จากการเหตุปะทะช่วง 5 วันที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

ชาวเชียงใหม่ร่วมจุดเทียนสดุดี 15 วีรบุรุษชายแดน

3 ส.ค.- ชาวเชียงใหม่ ร่วมกันจุดเทียน แสดงความไว้อาลัย สดุดี 15 วีรบุรุษทหารที่พลีชีพปกป้องแผ่นดินไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บริเวณ หน้าลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ตัวเมืองเชียงใหม่ ประชาชนได้รวมตัวทำกิจกรรมร้องเพลง เขียนข้อความ พร้อมโบกธงชาติไทย เพื่อส่งกำลังใจให้กับทหารที่อยู่แนวหน้า ชายแดนไทย-กัมพูชา และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย เพื่อเป็นการสดุดีทหาร 15 นายที่พลีชีพในการสู้รบปกป้องอธิปไตย อีกทั้งอ่านรายชื่อทหาร วางพวงหรีดและจุดเทียน แสดงความไว้อาลัยพร้อมทั้งยืนสงบนิ่ง อธิฐานขอให้เจ้าหน้าที่ที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ปลอดภัยทุกนาย นอกจากนี้ บริเวณย่านถนนท่าแพ หน้าอาคารพุทธสถานเชียงใหม่ มีการนำภาพทหารที่เสียชีวิตทั้ง 15 นายติดไว้ริมถนนและมีการตั้งโต๊ะเพื่อให้ประชาชน มาวางดอกไม้ แสดงความอาลัย -สำนักข่าวไทย