ชัวร์ก่อนแชร์ : เครื่องครัวพลาสติกสีดำ มีสารเสี่ยงมะเร็ง จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์ข่าวเตือนว่า “เครื่องครัวพลาสติกสีดำ มีสารเสี่ยงเกิดมะเร็งปริมาณสูง บ้านไหนมีควรทิ้ง ยิ่งใช้ยิ่งอันตราย” จริงหรือ ?


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.ดร.บุศรินทร์ จงเจริญยานนท์ อาจารย์ประจำภาควิชาเทคโนโลยีการบรรจุและวัสดุ และ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ข่าวนี้มาจากงานวิจัยและงานวิจัยมีอยู่จริง มีข้อมูลบางส่วนจากงานวิจัยที่ข่าวนี้ใช้อ้างอิงมีความผิดพลาด โดยเจ้าของงานวิจัยนี้ได้ทำหนังสือขอโทษและแก้ไขข้อมูลแล้ว แต่ข่าวที่เผยแพร่ในประเทศไทยยังไม่ได้มีการอัปเดตข้อมูลการแก้ไขนี้ จึงยังไม่ควรแชร์ต่อ เพราะอาจทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้


ประเด็นที่ผิดพลาดคือ เจ้าของงานวิจัยรายงานว่าสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐ (United States Environmental Protection Agency : US EPA) กำหนดขีดจำกัดที่ปลอดภัยของ Decabromodiphenyl Ether, BDE-209 ไว้ที่ 42,000 นาโนกรัมต่อวัน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผิดพลาด โดยไม่ได้ใส่เลข 0 หนึ่งตัว

การคำนวณนี้มาจากปริมาณการรับสัมผัสที่ยังอยู่ในระดับปลอดภัยของ BDE-209 คือ 7,000 นาโนกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวัน และใช้ค่าน้ำหนักผู้ใหญ่ 60 กิโลกรัม ดังนั้น ค่าที่ถูกต้องคือ 7,000 x 60 = 420,000 นาโนกรัมต่อวัน (limit)

งานวิจัยนี้อ้างอิงข้อมูลการใช้เครื่องครัวสีดำ จำลองสภาวะการใช้งานในน้ำมันและอุณหภูมิสูง เช่น ในการปรุงอาหารและเสิร์ฟอาหารร้อน พบว่าเกิดการ “ไมเกรชัน” (Migration) ที่มีการเคลื่อนย้ายหรือการแพร่กระจายของสารจากภาชนะบรรจุ หรือวัสดุสัมผัสอาหารลงสู่อาหารโดยตรง หรือการปล่อย “สารหน่วงไฟ” (Flame Retardants) BDE-209 อยู่ที่ 34,700 นาโนกรัมต่อวัน


จากการคำนวณที่ผิดพลาดข้างต้น ทำให้ดูเหมือนว่าเครื่องครัวสีดำปล่อยสารหน่วงไฟสูงเกือบเท่ากับค่าจำกัดที่ปลอดภัย (limit) ทั้งที่ในความเป็นจริง ค่าที่ถูกต้องคือ 420,000 นาโนกรัมต่อวัน ปริมาณสารที่ปลดปล่อยออกมา ต่ำกว่าเกณฑ์อันตรายถึง 12 เท่า

งานวิจัยนี้นำวัสดุอุปกรณ์ครัวเรือนที่ทำจากพลาสติกสีดำมาจากห้างร้านต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกา เก็บตัวอย่างทั้งหมด 203 ตัวอย่าง และใช้เครื่องสแกนหาสารหน่วงการติดไฟ (Flame Retardants – FRs) ว่ามีธาตุโบรมีน (Bromine) หรือไม่

“โบรมีน” เป็นส่วนประกอบของสารที่ใช้ในการหน่วงไฟ ถ้าตัวอย่างไหนมีโบรมีนมากเขาก็วิเคราะห์ต่อด้วยการนำภาชนะพลาสติกตัวอย่างมาละลายหาสารหน่วงไฟ

ปรากฏว่าใน 20 ตัวอย่าง มี 17 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 85 จาก 20 ตัวอย่างพบสารหน่วงไฟ ซึ่งสะท้อนว่าในท้องตลาดมีวัสดุอุปกรณ์ รวมถึงเครื่องใช้ในครัวเรือนที่มีสารหน่วงไฟผสมอยู่อันเนื่องมาจากกระบวนการรีไซเคิล

ที่สำคัญ ตัวเลขร้อยละ 85 อาจทำให้เข้าใจว่าเป็น 85 เปอร์เซ็นต์ของ 203 ตัวอย่าง แต่ในความเป็นจริง ตัวเลข 85 เปอร์เซ็นต์ คือตัวแทนของ 17 ตัวอย่างเท่านั้นเอง

สารหน่วงไฟที่พูดถึงคืออะไร อันตราย และการเข้าสู่ร่างกาย เป็นอย่างไร ?

สารหน่วงการติดไฟที่พูดถึงในงานวิจัยนี้คือ กลุ่มของสารหน่วงไฟที่มีโบรมีน (Brominated Flame Retardants – BFRs) และสารหน่วงไฟชนิดออร์กาโนฟอสเฟต (Organophosphate Flame Retardants – OPFRs) และสารทดแทน มักถูกเติมลงในพลาสติกที่เป็นส่วนประกอบของเครื่องใช้ไฟฟ้าในปริมาณสูงเพื่อป้องกันหรือชะลอการเกิดไฟ

ในเครื่องครัวสีดำไม่ได้ตั้งใจเติมสารหน่วงไฟลงไป แต่มาจากการรีไซเคิลพลาสติกจากเครื่องใช้ไฟฟ้ามาเป็นเครื่องครัวสีดำ นอกจากนี้ก็ยังพบในของเล่น หวี ลูกปัดที่มีสีดำ ทำให้ของใช้เหล่านี้มีสารหน่วงไฟผสมอยู่ด้วย

อันตรายจากสารหน่วงไฟ ถ้าร่างกายได้รับสารหน่วงไฟเกินกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ร่างกายไม่สามารถกำจัดออกได้ มีผลต่อระบบสืบพันธุ์ ต่อมไร้ท่อ เป็นมะเร็ง และมีผลต่อการเจริญเติบโต

การเข้าสู่ร่างกายของสารหน่วงไฟทางใหญ่ ๆ ก็คือกินเข้าไป จากการใช้เครื่องครัวซึ่งอาจมีสารหน่วงไฟผสมอยู่ และใช้ในสภาวะที่ผู้ผลิตอาจะไม่ได้กำหนดไว้ นั่นคือใช้ระยะเวลานานเกินไป ด้วยอุณหภูมิความร้อนที่สูงมากเกินไป ทำให้สารหน่วงไฟถูกแพร่ หรือเกิดการไมเกรชั่น (Migration) จากการเคลื่อนที่ของสารหน่วงไฟสู่อาหารและเราก็กินอาหารเหล่านี้เข้าไป

อีกทางหนึ่งที่งานวิจัยมีการพูดถึง คือ ของเล่นเด็กทำจากพลาสติกสีดำ เช่น เด็กอม กัดเล่น สารหน่วงไฟก็มีโอกาสแพร่จากพลาสติกสีดำสู่น้ำลายเด็กเข้าสู่ร่างกาย

ใครมีเครื่องครัวสีดำ จะต้องทิ้งทันที หรือไม่ ?

จากข่าวที่แชร์กันบอกว่า “ควรจะทิ้งเครื่องครัวสีดำ” เพราะเขามองเห็นว่าความเสี่ยงค่อนข้างสูงมาก

แต่ “ความเสี่ยง” ที่ปรากฏในข่าว เกิดจากการคำนวณที่ผิดพลาด รู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่สบายใจ ก็สามารถปรับเปลี่ยนไปใช้วัสดุชนิดอื่นแทนได้

เครื่องครัวสีดำ ยังใช้ได้  ถ้าเป็นวัสดุสัมผัสอาหาร ซื้อจากผู้ผลิตที่มีมาตรฐาน ก็ใช้ต่อได้ 

สิ่งสำคัญก็คือต้องใช้ตามสภาวะที่ผู้ผลิตแนะนำ เช่น อุณหภูมิ ระยะเวลาการใช้งาน

ถ้าใช้เครื่องครัวสีดำภายใต้ข้อกำหนดเหล่านี้ มั่นใจได้ว่าไม่มีอันตรายที่สารต่าง ๆ จะออกมามากกว่าที่ร่างกายจะรับได้

พลาสติกสีดำทุกชิ้นไม่ได้มีสารอันตราย และงานวิจัยชิ้นนี้ทำให้สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันข้อมูลในประเทศไทย ก็ไม่ได้มีการทำวิจัยเทียบเคียงกันระดับนี้ ให้คำตอบไม่ได้ว่าถ้าของไทยอาจจะมากกว่า หรืออาจจะน้อยกว่า

ในเมืองไทย การนำพลาสติมาเป็นวัสดุสัมผัสอาหาร มีแต่ขวดน้ำพลาสติก หรือพวกเพชรเท่นั้น อย่างเดียวที่สามารถทำมาจากพลาสติกรีไซเคิลได้ และพลาสติกที่จะนำมารีไซเคิลได้ ต้องเป็นพลาสติกที่สัมผัสอาหารมาอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ได้เป็นพลาสติกชนิดอื่น ๆ มาก่อน เพราะฉะนั้นพลาสติกชนิดอื่น ๆ ที่นำมาใช้สัมผัสอาหาร เป็นพลาสติกบริสุทธิ์ไม่ได้ผ่านการใช้งานมาก่อน

ทุกข่าวสารที่น่าสนใจ ควรตรวจให้แน่ใจก่อนตื่นตระหนก

สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์

เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ  ชัวร์ก่อนแชร์ : เครื่องครัวพลาสติกสีดำ มีสารเสี่ยงมะเร็ง จริงหรือ ?

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]