ทช. แจ้งด่วนทุกจังหวัด เตือนกินหมึกบลูริงพิษถึงตาย

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งสั่งหน่วยงานภูมิภาคทุกจังหวัด ประชาสัมพันธ์ประชาชน ห้ามบริโภคหมึกบลูกริง เลี่ยงสัมผัส และแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทันที พร้อมขยายผลเฝ้าระวังปลาปักเป้า แมงกะพรุนกล่อง และเหรา

เร่งแก้ปัญหากัดเซาะชายฝั่งสงขลา

สงขลา 29 พ.ย. 63 – กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ วาง 3 มาตรการช่วยแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลสงขลาหวังเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายและเกิดผลกระทบน้อยที่สุด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ที่ติดตามสถานการณ์ และแนวทางในการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง บริเวณแหลมสมิหลา และหาดชลาทัศน์ จังหวัดสงขลา เพื่อรักษาระบบนิเวศชายฝั่ง และลดผลกระทบประชาชนพื้นที่ในอนาคต ทั้งนี้นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายจตุพร​ บุรุษพัฒน์​ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​​ ,อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง​ ,อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี​ ,อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ​ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมหารือบูรณาการทำงานแก้ปัญหาร่วมกัน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวด้ลอม กล่าวว่า สิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหา​การกัดเซาะชายฝั่ง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจธรรมชาติ​ให้มากที่สุด แล้วนำมาปรับใช้แก้ปัญหาอย่างเหมาะสม โดยทุกหน่วยงานจะต้องบูรณาการร่วมกันเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างยั่งยืน ทั้งการแก้ไขเฉพาะหน้า​ และในระยะยาว ​ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญและห่วงใยผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชน​ โดยการแก้ไขปัญหา​จุดหนึ่งจะต้องไม่กระทบอีกจุดหนึ่ง​ ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ให้ความสำคัญและเข้าใจในเรื่องนี้​  โดยแนวทางในการแก้ไขปัญหาในแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน​ ​มอบหมายกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง​ แบ่งกลุ่มหาดในประเทศไทยออกเป็น​ 8​ กลุ่มหาด  และกำหนด 3 มาตรการในการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งจากคลื่น ประกอบด้วย​ 1.มาตรการสีขาว​ เช่น​ การกำหนดพื้นที่ถอยร่นให้พื้นที่ชุมชนที่อยู่ใกล้ชายฝั่ง 2.มาตรการสีเขียว เป็นการใช้โครงสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม​ เช่น​ การปลูกป่าช่วยชายฝั่งทะเลถูกคลื่นกัดเซาะ การปักเสาไม้ไผ่ดักตะกอนป่าชายเลน​ และ 3.มาตรการสีเทา​ เป็นการใช้โครงสร้างแข็งช่วยในการป้องกันคลื่น​ เช่น​ การสร้างเขื่อนเพื่อป้องกันคลื่นชายฝั่ง เป็นต้น​  อย่างไรก็ตามกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ จะเป็นหน่วยงานหลักประสานกับทุกหน่วยงาน​ ร่วมกันแก้ไขปัญหาการกัดเซาะให้มีประสิทธิภาพ และไม่เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศชายฝั่ง ระบบนิเวศทางทะเล ที่อยู่อาศัยและวิถีชีวิตของประชาชน​อย่างยั่งยืน .-สำนักข่าวไทย

เร่งแก้ปัญหากลุ่มชาติพันธุ์เกาะหลีเป๊ะ​

สตูล 28 พ.ย.63 – เปิดโครงการส่งเสริมและคุ้มครองวิถีชีวิตวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์เกาะหลีเป๊ะ​ จ.สตูล​  ชูการอนุรักษ์วิถีชีวิตท้องถิ่น กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน นายวราวุธ​ ศิลปอาชา​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​  (รมว.ทส.)​  พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง​ฯ​ ลงพื้นที่​ชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล​ เพื่อติดตามการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเลในพื้นที่ผืนสุดท้ายที่ชนะคดีความ​ โดยเยี่ยมชมชุมชนกลุ่มบ้านปาดัก​ และรับฟังปัญหาข้อคิดเห็น​ ข้อเสนอแนะ​ ของชาวเลกรณีที่ดิน​ สค1 เลขที่​ 11​ ออกเอกสารสิทธิเกินพื้นที่มากกว่า​ 30​ ไร่​ ทับซ้อนพื้นที่ชุมชนชาวเล​ 125​ ครอบครัว​  ซึ่งปัจจุบันไม่มีสิทธิในการซ่อมแซมและปรับปรุงบ้าน​ จากนั้นได้รับฟังข้อเสนอแนวทางการใช้พื้นที่สุสานเป็นพื้นที่สาธารณะ​ และร่วมพิธี​ “ปูญาลาโว้ย” สู่เขตคุ้มครองทางวัฒนธรรม​  โดยขบวนเรือได้แห่เรือเข้าฝั่ง​ ซึ่งนายวราวุธ ได้ทำการผูกผ้าหัวเรือ เป็นประธานเปิดงานรวมญาติชาติพันธุ์ชาวเล​ ครั้งที่​ 11​ และเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือ​ “ส่งเสริมและคุ้มครองวิถีชีวิตวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์ ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ สถาบันวิจัยสังคม​ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย​ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน​ (องค์การมหาชน)​ ศูนย์มานุษยาสิรินธร​ (องค์การมหาขน)​ มูลนิธิชุมชนไท​ มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ​ เครือข่ายชาวเล​ และเครือข่ายกะเหรี่ยง​ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กล่าวว่า ขอบคุณและขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลเกาะหลีเป๊ะทุกกลุ่ม​ โดยรัฐบาลได้ให้ความสำคัญและมีความห่วงใยในการแก้ไขปัญหา​ เนื่องจากปัญหามีความสลับซับซ้อน​  มีความเกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน​ สะสมมานาน​ ดังนั้นในการแก้ไขปัญหาจะทำทีเดียวไม่ได้​อาจต้องใช้เวลา แต่พร้อมนำข้อเสนอหารือกับภาคส่วนต่างๆ ให้เกิดการแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุด ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ จะเป็นกลไกลสำคัญที่จะผลักดันในการแก้ไขปัญหา​ทั้งในเรื่องที่ดินทำกิน​ ซึ่งหน้าที่ของกระทรวงฯ​ จะทำอย่างไรที่จะดูแล​ รักษา​ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของแผ่นดินไทยให้คงอยู่ควบคู่ไปกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง​ๆ​ และประชาชนอย่างยั่งยืน อีกทั้งจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง​ เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาให้พี่น้องชาวเลและกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ​ ให้สามารถดำรงชีวิตและอาศัยในแผ่นดินเกิดอันเป็นที่รักของตนได้​ รวมทั้งส่วนสำคัญในการอนุรักษ์และรักษาวิถีชีวิตชาวเลในดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ จิตวิญญานรักและหวงแหนในแผ่นดินแห่งนี้​ สามารถเริ่มต้นที่ตัวเรา​ จาก​ 1 ตารางเมตร​ที่เรายืน​ เห็นขยะที่ไหน​ เก็บที่นั่น​ เห็นความไม่สวยงาม​ ความไม่ถูกต้อง​ ​ให้ช่วยกัน​คนละไม้คนละมือ .-สำนักข่าวไทย

พิสูจน์หาดคึกคักแม่เต่ามะเฟืองวางไข่

พังงา 27 พ.ย.- ข่าวดีจากพังงา! เจ้าหน้าที่ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 พิสูจน์ชายหาดคึกคัก อ.ตะกั่วป่า เต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่ ห่วงน้ำทะเลท่วมถึงหลุมรัง เตรียมแผนขุดย้ายไปเพาะฟักในจุดปลอดภัย นายจำรัส หลีเจี้ย กำนันตำบลคึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ประสานศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟือง เพื่อลงพื้นที่ตรวจพิสูจน์บริเวณชายหาดคึกคัก หลังได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้านที่กำลังจะออกหากุ้งเคยว่าพบรอยอาจเป็นเต่าทะเลตัวใหญ่ขึ้นมาวางไข่ นายจักรพันธ์ ม่วงยิ้ม ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมและประสานงานเครือข่าย สำนักบริหารทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (สทช.6) กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นลักษณะรอยของพายหน้าจากซ้ายถึงขวากว้างประมาณ 192 เซนติเมตร ความกว้างหน้าอก 100 เซนติเมตร คาดเป็นแม่เต่ามะเฟือง นอกจากนี้ ยังพบร่องรอยที่คาดว่าจะเป็นหลุมไข่ของแม่เต่า บริเวณใกล้กับผักบุ้งทะเล และใกล้กับน้ำทะเลท่วมถึง โดยทั้ง 2 จุด ไม่เอื้อต่อการเพาะฟัก และพบว่าแม่เต่ารังนี้มีลักษณะการขึ้นมาวางไข่ที่แปลกไปจากตัวอื่น คือ คลานขึ้นมาวางไข่ และลงทะเลในทางเดียวกัน รวมทั้งมีไข่ลมบริเวณผิวทรายใกล้จุดน้ำทะเลท่วมถึง เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นที่จะต้องถ่ายภาพมุมสูง เพื่อเก็บพฤติกรรมของแม่เต่า ก่อนขุดย้ายไข่เต่าเพื่อทำการเพาะฟักต่อไป.-สำนักข่าวไทย

พบเสือลายเมฆในป่าพนมดงรักครั้งแรกรอบ 20 ปี

พนมดงรักเตรียมจัดชุดเจ้าหน้าที่ออกติดตามรอยเท้า “เสือลายเมฆ” ที่กล้องดักถ่ายถ่ายไว้ได้ เพื่อสำรวจพื้นที่หากิน จำนวนประชากร ใช้เป็นข้อมูลในการอนุรักษ์ต่อไป เนื่องจากเป็นใกล้สูญพันธุ์ โดยที่เทือกเขาพนมดงรักนี้พบครั้งแรกในรอบ 20 ปี

พบเสือลายเมฆครั้งแรก รอบ​ 20​ ปี

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก พบเสือลายเมฆครั้งแรก​ในรอบ​ 20​ ปี บริเวณแถบป่าเทือกเขาพนมดงรัก​ ถือเป็นความสำเร็จด้านการลาดตระเวนเพื่อคุ้มครองพื้นที่ป่า​และการจัดการพื้นที่ทุ่งกบาลกะไบ

จับมือชาวตรังลดขยะพลาสติก ฟื้นความสมบูรณ์ทะเล

ตรัง 26 พ.ย.63 – กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ รณรงค์ชาวจังหวัดตรง ลดการใช้พลาสติก กำจัดขยะพลาสติกให้เป็นศูนย์ หวังเป็นส่สนช่วยฟื้นฟูทะเลตรัง แหล่งขยายพันธุ์พะยูนไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานนำหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ระหว่าง กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมควบคุมมลพิษ จังหวัดตรัง องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะลิบง สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง มูลนิธิอันดามัน และชมรมชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดตรังลงนามบันทึกข้อตกลง “ขับเคลื่อนตรังสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ว่าด้วยการแก้ไขปัญหาขยะทะเลและอนุรักษ์พะยูน” เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของทุกภาคส่วนที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาขยะทะเลและอนุรักษ์พะยูน รวมทั้งเดินหน้าจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง พร้อมอนุรักษ์พะยูนและแหล่งหญ้าทะเล ปลุกคนไทยอย่าลืมบทเรียน “น้องมาเรียม” ตายจากขยะพลาสติก อีกทั้งยังส่งผลให้ปัจจุบันยังมีสัตว์ต้องตายจากขยะพลาสติกอีกมาก โดยยังได้เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนทะเลตรังสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ที่บริเวณหาดยาว บ้านเจ้าไหม ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง  นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปัญหาขยะเป็นปัญหาสำคัญที่กระทบต่อชีวิตของประชาชนและระบบนิเวศ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งซึ่งมีขยะจำนวนมากถูกพัดพาลงไปสู่ทะเลจนเกิดผลกระทบและความสูญเสียตามมาอย่างมากมาย เช่นกรณี น้องมาเรียม ลูกพะยูนขวัญใจคนไทยที่ต้องมาเสียชีวิตจากการกินเศษขยะพลาสติกในทะเล ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่คนไทยจะต้องตื่นรู้และให้ความสนใจกับการจัดการขยะให้มากยิ่งขึ้น  โดยที่ผ่านมาแม้จะมีสัญญาณดีหลายอย่างเกี่ยวกับการจัดการปัญหาขยะในประเทศไทย เช่น ผลจากมาตรการงดใช้ถุงพลาสติกในห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาเก็ต และร้านสะดวกซื้อ ที่ทำให้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 สามารถลดปริมาณการใช้ถุงหูหิ้วพลาสติกได้ถึง 11,958 ล้านใบ หรือคิดเป็น 108,220 ตัน และเมื่อรวมกับการดำเนินโครงการอื่น ๆ สามารถลดอันดับของประเทศไทยจากประเทศที่มีขยะสูงสุดเป็นอันดับ 6 ของโลก ให้มาอยู่ที่อันดับ 10 แต่ถือเป็นเพียงก้าวแรกของการทำงานเท่านั้น เพราะข้อเท็จจริงแล้วปัญหาจากขยะและขยะทะเลยังไม่จบ วันนี้เรายังคงได้ยินข่าวการสูญเสียสัตว์จากการกินขยะพลาสติกเข้าไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นทุกฝ่ายจึงต้องร่วมมือกันสู้ต่อไป เชื่อมั่นว่าความร่วมมือที่เกิดขึ้น จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีในอนาคต เพราะหากเราไม่ร่วมมือกันวันนี้ก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะต้องมีเพื่อนของน้องมาเรียม หรือสัตว์อื่น ๆ ที่ต้องตายจากไปจากปัญหาขยะ  ซึ่งหลังจากนี้ผู้เกี่ยวข้องจะต้องไปคิดกันต่อว่าจะขยายผลความร่วมมือในลักษณะนี้ไปยังพื้นที่อื่น ๆ ต่อไปได้อย่างไร ที่สำคัญขอความร่วมมือจากคนไทยทุกคนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองเพื่อลดขยะที่ไม่จำเป็นและขยะพลาสติกลงให้มากที่สุด เช่น การนำหลัก 3R Reduce, Reuse, Recycle มาใช้ในชีวิตประจำวัน อยู่ที่ตัวเราว่าจะยอมปล่อยให้พลาสติกเป็นปัญหาที่จะทำให้สภาพแวดล้อมโลกเลวร้ายลงต่อไปหรือไม่ ด้านนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า หัวใจสำคัญของความร่วมมือทุกภาคส่วนครั้งนี้ จะทำให้เกิดความร่วมมือดำเนินการแก้ไขปัญหาขยะทะเลจากต้นทาง ทั้งกิจกรรมการท่องเที่ยวปลอดขยะพลาสติกและโฟม ขับเคลื่อนครัวเรือนต้นแบบการจัดการขยะ การนำขยะจากกิจกรรมในทะเลกลับคืนสู่ฝั่ง  มีการพัฒนาระบบการคัดแยกขยะ จัดเก็บ และการขนส่งขยะ ให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล รวมทั้งสนับสนุนธุรกิจซื้อขายขยะรีไซเคิล รวมทั้งการพัฒนามาตรการด้านการเงินการคลัง เช่น ระบบการจัดเก็บค่าธรรมเนียม หรือภาษีท้องถิ่นหรือภาษีสิ่งแวดล้อม โดยยึดหลักผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย  ขณะที่จะต้องพัฒนาการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำบรรจุภัณฑ์กลับสู่กระบวนการรีไซเคิล โดยประสานความร่วมมืออนุรักษ์พะยูน คุ้มครองแหล่งที่อยู่อาศัย หญ้าทะเล และระบบนิเวศทะเล  รวมทั้งพัฒนาและสนับสนุนกลไกความร่วมมือ อาสาสมัคร เครื่องมือ หรือกระบวนการในการจัดการ การติดตามและเฝ้าระวัง เพื่อแก้ไขปัญหาขยะทะเลและอนุรักษ์พะยูน ขับเคลื่อนตรังสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะจากประชาชนในจังหวัดตรัง มีกลไกการทำงานที่สำคัญ คือคณะทำงานขับเคลื่อนตรังยั่งยืนฯ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังมาเป็นประธานด้วยตัวเอง และมีตัวแทนจากภาคีความร่วมมือต่าง ๆ เข้าร่วมเป็นคณะทำงาน เพื่อแก้ไขปัญหาขยะโดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่ง 5 อำเภอประกอบด้วย อ.สิเกา อ.กันตัง อ.ปะเหลียน อ.หาดสำราญ และ อ.ย่านตาขาว ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเกิดการอนุรักษ์พะยูนและแหล่งหญ้าทะเลให้เกิดความยั่งยืนต่อไป .-สำนักข่าวไทย

หนุนผลิตกระป๋องรีไซเคิล ต้นแบบรีไซเคิลครบวงจร

กทม. 25 พ.ย.63 – กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ จับมือ อุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย หนุนผลิตกระป๋องรีไซเคิล หวังเป็นต้นแบบรีไซเคิลครบวงจร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จับมือภาคีเครือข่าย 6 องค์กร ได้แก่ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ ,มูลนิธิการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน (3R) ,สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย ,มหาวิทยาลัยมหิดล ,บริษัทไทยเบเวอร์เรจแคน จำกัด และหน่วยงานพันธมิตร ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ส่งเสริมการผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มที่สามารถรีไซเคิล เพื่อสนับสนุนการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำร่องบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่ม ประเภทกระป๋องอลูมิเนียม ด้วยการหมุนเวียนนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างครบวงจร เพื่อการจัดการขยะอย่างยั่งยืน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน  โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธี โดยจะร่วมกันจัดทำ Roadmap ให้แล้วเสร็จ ภายใน 60 วัน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า  กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จะทำหน้าที่สื่อสาร รณรงค์ สร้างความรู้ความเข้าใจ สนับสนุนการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งส่งเสริม พัฒนา และสนับสนุนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนองค์ความรู้ สารสนเทศ และนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้แก่ภาคเอกชนและภาคประชาชนในการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน […]

ทส.เร่งตรวจสอบกระดูกวาฬโบราณบ้านแพ้ว

รมว.ทส.ติดตามการสำรวจขุดค้นโครงกระดูกวาฬ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เผยคืบหน้าร้อยละ 80 คาดรู้อายุและซากสิ่งมีชีวิตในอีก 1 เดือน

“พล.อ.ประวิตร” ขับเคลื่อนแผนบริหารจัดการน้ำ

สำนักข่าวไทย 24 พ.ย.- “พล.อ.ประวิตร” ย้ำหน่วยงานรัฐบริหารจัดการน้ำให้ประชาชนมีน้ำอุปโภค บริโภค เกษตร พอเพียง ต่อเนื่อง ระยะยาว เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 พ.ย.2563 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางตรวจเยี่ยมผลการปฏิบัติตามนโยบายและแผนงานบูรณาการหน่วยงานของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พร้อมเป็นประธานการประชุมกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการคาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศ เร่งรัดมาตรการเตรียมการรองรับภัยแล้งปี 2563/64 รวมถึงการติดตามความก้าวหน้างบกลางปี 2563 พร้อมทั้งปัญหาและอุปสรรค ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้ กนอช. พร้อมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์กับผู้ว่าราชการจังหวัดเสี่ยงได้รับผลกระทบปัญหาขาดแคลนน้ำ ณ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ อาคารจุฑามาศ ถนนวิภาวดีรังสิต พลเอกประวิตร กล่าวว่า นโยบายการขับเคลื่อนการพัฒนาทรัพยากรน้ำของประเทศในปีงบประมาณ 2564 รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องน้ำอย่างต่อเนื่อง ทั้งแผนระยะเร่งด่วนตามที่รัฐบาลได้อนุมัติงบกลางในปี 2563 เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้งและเก็บกักน้ำในฤดูฝนที่ผ่านมา โดยได้เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผน รวมถึงการวางโครงสร้างการบริหารจัดการน้ำของประเทศในระยะยาวควบคู่กัน ซึ่งจากการรายงานผลการดำเนินงานด้านน้ำปีที่ผ่านมา ทุกหน่วยงานได้ร่วมมือกันขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นผลสำเร็จที่น่าพอใจ ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงาน เป็นไปตามเป้าหมาย สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเตรียมการรับมือในช่วงฤดูแล้ง ได้มอบหมายทุกหน่วยติดตามประเมินสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งกำหนดพื้นที่เป้าหมายเฝ้าระวังเสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภค […]

1 108 109 110 111 112 118
...