กรุงเทพฯ 21 ก.ค.- เซ็นทรัลพัฒนา รุกแผนธุรกิจ Residential ภายใน 5 ปี ขยายเพิ่มกว่า 50 โครงการ สร้างมาตรฐานโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพทั่วประเทศ ‘The Ecosystem of Quality Living’ ชูจุดแข็งโครงการติดศูนย์การค้าและอยู่ในมิกซ์ยูสชั้นนำ พร้อมบุกเมืองรองเปิดตัว 6 โครงการใหม่ทั้งแนวราบและแนวสูง
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ปีนี้เซ็นทรัลพัฒนาได้เน้นย้ำการเป็น Retail-Led Mixed-Use Developer ของเราด้วยแผนลงทุนต่อเนื่อง 120,000 ล้านบาท ใน 5 ปี สำหรับอีกหนึ่งธุรกิจหลักคือ Residential โครงการที่อยู่อาศัย เป็นส่วนหนึ่งในโครงการมิกซ์ยูสที่เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเซ็นทรัลพัฒนา โดยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลอด 4 ปีที่ผ่านมา สร้างรายได้รวมกว่า10,000 ล้านบาท และภายในปี 2569 ธุรกิจ Residential จะขยายเพิ่มกว่า 50 โครงการ และเติบโตอย่างยั่งยืนไม่น้อยกว่า 20% ต่อปี ทำให้ในอนาคต เราจะมีโครงการที่อยู่อาศัยครอบคลุม 27 จังหวัด มากกว่า 70 โครงการ และมีลูกบ้านเซ็นทรัลกว่า 20,000 ครอบครัว
ทั้งนี้ ในฐานะที่เซ็นทรัลพัฒนามีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากกว่า 40 ปี เราต้องการสร้างมาตรฐานโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพทั่วประเทศ พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตและไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่ดีที่สุด เป็น ‘The Ecosystem of Quality Living’ ทั่วประเทศ ด้วย Market Insight ที่เรามีทำให้เข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าในโลเคชั่นต่างๆ เป็นอย่างดี จึงสามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยของผู้คนได้หลากหลายและครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งเมืองหลัก และเมืองรอง ตามแนวทางการพัฒนาศูนย์การค้าที่เป็นของเซ็นทรัลพัฒนา หรือของเซ็นทรัลกรุ๊ปหรือโลเคชั่นอื่นๆ ที่มีศักยภาพ โดยเราสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีความแตกต่างจากโครงการอื่นๆ คือการตอบโจทย์ Affluent Urbanists ทั้งกลุ่ม ‘ซื้ออยู่เอง’ ด้วยความมั่นใจในแบรนด์, คุณภาพ และโลเคชั่นของบ้านเซ็นทรัล, กลุ่ม ‘ซื้อพักผ่อน’ ที่มองหาบ้านอีกหลังเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ Shop-cation และ Weekend House และกลุ่ม ‘ซื้อลงทุน’ มองหา asset ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเสมอ ด้วย yield ที่น่าดึงดูด 4%-5%
ร.อ. กรี เดชชัย President, Residential Business บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา เผยรายละเอียดเพิ่มเติมว่า การทำธุรกิจResidential ของเราสอดคล้องกับทิศทางการทำธุรกิจของเซ็นทรัลพัฒนาที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนสังคม และชุมชน ดังนั้น เราจึงให้ความสำคัญกับ ‘คุณภาพ’ ในทุกส่วนทั้งการพัฒนาโครงการบ้าน, คุณภาพชีวิตและไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย ทั้งนี้ ‘บ้านเซ็นทรัล’ โดยเซ็นทรัลพัฒนามีจุดแข็งที่โดดเด่นในการเชื่อมต่อ Retail & Residential Integration ด้วย 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1) Best in Town: แบรนด์แข็งแกร่ง เจาะทำเล New CBD & Downtown, 2) Beyond Quality: คุณภาพ-ไลฟ์สไตล์-ความปลอดภัยที่เหนือความคาดหมาย และ 3) Strong Synergy: ผนึกกำลังในเครือเซ็นทรัล เติมเต็ม Lifestyle Journey ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ Central Pattana Residential มุ่งมั่นที่จะส่งมอบโครงการคุณภาพภายใต้แบรนด์และฟอร์แมตที่หลากหลาย ทั้งแนวสูงและแนวราบ ได้แก่ ESCENT คอนโดมิเนียมและทาวน์โฮม ติดศูนย์การค้า ระดับราคา 2 ล้านบาทขึ้นไป เจาะกลุ่มลูกค้า ที่เน้นความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต ไลฟ์สไตล์คนเมือง, PHYLL คอนโดมิเนียม ระดับราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป เจาะกลุ่มลูกค้าคนเมืองที่ต้องการความสะดวกในการเดินทางไปยังจุดหมายต่างๆ, NIYHAM บ้านระดับ 25 ล้านบาทขึ้นไป เจาะกลุ่มลูกค้า Wealth ที่เป็นครอบครัวใหญ่, NINYA บ้านระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป เจาะกลุ่มลูกค้าYOUNG GENERATION ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และ NIRATI บ้านระดับ 5 ล้านบาทขึ้นไป เจาะกลุ่มลูกค้าครอบครัวเริ่มต้นที่ต้องการสร้างครอบครัวของตัวเอง
สำหรับการขยายโครงการใหม่ในปี 2565 นี้ Central Pattana Residential เปิดตัว 6 โครงการใหม่ ได้แก่คอนโดมิเนียม 4 โครงการภายใต้แบรนด์ ESCENT ได้แก่ ที่สุราษฎร์ธานีติดกับศูนย์การค้าเซ็นทรัล สุราษฎร์ธานีและมีโครงการที่ติดกับ Robinson Lifestyle อีก 3 จังหวัด คือ สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา และตรัง รวมถึงโครงการแนวราบ 2 โครงการคือ นินญา ราชพฤกษ์ และนิรติ เชียงใหม่ โดยล่าสุดยังได้จัดงาน Imagining Better Living โซนเซ็นทรัลคอร์ท ลิฟต์แก้ว ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 24 ก.ค. 2565 อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย