fbpx

กยศ.ขยายเวลามาตรการลดหย่อนหนี้ จนถึง 31 ธ.ค.65  

กรุงเทพฯ 29 มิ.ย. – กยศ. ขยายระยะเวลามาตรการลดหย่อนหนี้ช่วยเหลือผู้กู้ยืมต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 โดยลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเหลือ 0.01% ต่อปี ลดเงินต้น 5% ลดเบี้ยปรับ 80-100% ลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% ต่อปี เงื่อนไขเป็นไปตามที่กองทุนกำหนด  


นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า “ในช่วงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ผ่านมา กองทุนได้มีมาตรการลดหย่อนหนี้เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยขณะนี้คณะกรรมการกองทุนฯ ได้เห็นชอบขยายระยะเวลามาตรการลดหย่อนหนี้ดังกล่าว เพื่อเป็นการจูงใจให้ผู้กู้ยืมมาชำระเงินคืน จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 รวมระยะเวลา 6 เดือน โดยมีเงื่อนไขมาตรการ ดังนี้

1.ลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากเดิม 1% ต่อปี เป็น 0.01% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้


2.ลดเงินต้น 5% กรณีชำระหนี้ปิดบัญชี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้  

3.ลดเบี้ยปรับ 100% สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ชำระหนี้ปิดบัญชี ดังนี้ 

3.1 ผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี สามารถชำระได้ที่ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา 


3.2 ผู้กู้ยืมเงินที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิและนัดหมายวันที่ประสงค์จะชำระหนี้ปิดบัญชีได้ที่ www.studentloan.or.th โดยผู้กู้ยืมเงินต้องชำระค่าทนายความและค่าฤชาธรรมเนียมศาลให้เสร็จสิ้นก่อนปิดบัญชี 

4.ลดเบี้ยปรับ 80% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี เมื่อชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ (ไม่ค้างชำระ)

5.ลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด

สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมา มีผู้ที่ได้รับสิทธิลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 0.01% จำนวน 6.4 แสนราย มีผู้ที่ใช้สิทธิมาตรการลดเงินต้น 5% จำนวน 26,001 ราย คิดเป็นส่วนลดเงินต้นกว่า 67 ล้านบาท มีผู้ที่ใช้สิทธิมาตรการลดเบี้ยปรับ 100% จำนวน 75,022 ราย คิดเป็นส่วนลดเงินเพิ่มกว่า 1,324 ล้านบาท มีผู้ที่ใช้สิทธิมาตรการลดเบี้ยปรับ 80% จำนวน 404,095 ราย คิดเป็นส่วนลดเงินเพิ่มกว่า 16 ล้านบาท และมีผู้ที่ได้รับสิทธิลดอัตราเบี้ยปรับเหลือ 0.5% จำนวน 1.2 ล้านราย (ข้อมูลระหว่างเดือนมกราคม 2564-พฤษภาคม 2565) เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด