สำนักงานกกต. 26 เม.ย.-ปธ.กกต. ลงนามระเบียบแนะนำตัว สว. แจกเอกสารแนะนำประวัติ เผยแพร่ผ่านโซเชียลถึงผู้สมัครด้วยกันเท่านั้น ห้ามดึงสถาบันเกี่ยวข้อง ห้ามใช้ถ้อยคำปลุกระดมสร้างแตกแยก ห้ามออกสื่อ ไม่ยินยอมให้พรรคการเมืองนักการเมืองระดับชาติ-ท้องถิ่นสนับสนุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้ลงนามในระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาพ.ศ.2567 แล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลใช้บังคับ โดยสาระสำคัญของระเบียบดังกล่าว กำหนดให้ผู้ที่ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกสามารถแนะนำตัวได้ นับแต่วันที่ระเบียบฉบับนี้มีผลใช้บังคับ และผู้สมัครมีผู้ช่วยเหลือผู้สมัครในการแนะนำตัวได้
ทั้งนี้ กกต.กำหนดวิธีการแนะนำตัว กรณีใช้เอกสารแนะนำตัวผู้สมัคร เอกสารต้องมีขนาดไม่เกินเอ 4 หรือขนาด 210 มิลลิเมตร X 297 มิลลิเมตร ระบุข้อความเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัว ใส่รูปถ่ายของผู้สมัคร ประวัติการศึกษาและประวัติการทำงาน หรือประสบการณ์ในการทำงานในกลุ่มที่สมัครเท่านั้น ไม่เกิน 2 หน้า การแจกเอกสารแนะนำตัวตามจะกระทำในสถานที่เลือกไม่ได้
กกต.ยังกำหนดให้ผู้สมัครสามารถแนะนำตัว โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วยตนเอง โดยให้ใช้ข้อความตามเอกสารแนะนำตัวของผู้สมัครและเผยแพร่แก่ผู้สมัครอื่นในการเลือกเท่านั้น ส่วนการมีผู้ช่วยเหลือผู้สมัคร ให้ผู้สมัครแจ้งชื่อผู้ช่วยเหลือผู้สมัคร หรือแจ้งการเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ช่วยเหลือผู้สมัคร เป็นลายลักษณ์อักษรต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ก่อนวันดำเนินการ ยกเว้นสามี ภรรยาหรือบุตร
ระเบียบดังกล่าวกำหนดข้อห้ามการแนะนำตัวที่สำคัญไว้ อาทิ 1.ห้ามผู้สมัคร หรือผู้ช่วยเหลือผู้สมัครนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการแนะนำตัว 2.นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา มีผลใช้บังคับการแนะนำตัว ไปจนถึงวันที่ กกต.ประกาศผลการเลือก ห้ามผู้สมัครหรือผู้ช่วยเหลือผู้สมัครแนะนำตัวอันเป็นการกระทำการฝ่าฝืนข้อห้ามตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 3.ห้ามผู้ประกอบอาชีพทางวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ สื่อมวลชน หรือสื่อโฆษณา เช่น นักแสดง นักร้อง นักดนตรี พิธีกร ใช้ความสามารถ หรือวิชาชีพดังกล่าว เพื่อเอื้อประโยชน์ ในการแนะนำตัว
4.ห้ามแจกเอกสารเกี่ยวกับการแนะนำตัวโดยวิธีการวาง โปรยหรือติดประกาศในที่สาธารณะ 5.แนะนำตัวโดยใช้ถ้อยคำที่รุนแรง หรือปลุกระดมก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในพื้นที่ 6.ห้ามแนะนำตัวทางวิทยุโทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียง เคเบิลทีวี หรือสื่อสิ่งพิมพ์ รวมถึงการให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน นักข่าว หรือสื่อโฆษณาซึ่งเผยแพร่ผ่านบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล 7. จงใจไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบนี้ และ 8.ห้ามผู้สมัครยินยอมให้ผู้สมัครอื่น กรรมการบริหารพรรคการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นใด ในพรรคการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมือง เข้ามาช่วยเหลือผู้สมัครไม่ว่ากรณีใด ๆ.-314.-สำนักข่าวไทย