ธอส. จับมือ กยศ. หนุนผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ ขอกู้ซื้อบ้าน

กรุงเทพฯ 5 เม.ย.- ธอส. จับมือ กยศ. หนุนผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ ขอกู้ซื้อบ้าน ดอกเบี้ยต่ำปีแรกเพียง 2.60% ต่อปี พร้อมเงินฝากอัตราดอกเบี้ยพิเศษสูงถึง 1.85% ต่อปี


นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และนายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการสนับสนุนผู้กู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ให้มีที่อยู่อาศัย มุ่งเน้นส่งเสริมผู้กู้ยืมเงินจาก กยศ. ที่มีโอกาสรับสิทธิ์ตามโครงการในปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 2.9 ล้านราย ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ผ่านสินเชื่อบ้าน ธอส. – กยศ. ปี 2567 อัตราดอกเบี้ยปีแรกคงที่ 2.60% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปี เพียง 3.30% เท่านั้น!! และสนับสนุนให้ผู้กู้ยืมเงินจาก กยศ. ได้ออมเงินกับเงินฝากออมทรัพย์ ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 1.85% ต่อปี

ในปัจจุบันผู้กู้ยืมกว่า 2.9 ล้านราย ได้มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยและได้มีบ้านเป็นของตนเอง ผ่านสินเชื่อบ้าน ธอส. – กยศ. ปี 2567 กรอบวงเงินรวม 1,000 ล้านบาท ครอบคลุมทุกวัตถุประสงค์การกู้ อาทิ กู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม ซื้อที่ดินเปล่าทรัพย์ NPA ของ ธอส. ไถ่ถอนจากสถาบันการเงินอื่น (รีไฟแนนซ์) และชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 2.60% ต่อปี ปีที่ 2-3 เท่ากับ 3.65% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรกเพียง 3.30% ต่อปี ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี และชำระหนี้ เท่ากับ MRR (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. อยู่ที่ 6.90% ต่อปี) ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี


ยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2567 ขณะเดียวกัน ธอส. ยังพร้อมช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินจาก กยศ. ด้วยการให้ความรู้ทางการเงิน อาทิ แนวทางการออมเงินอย่างถูกต้อง และการจัดทำบัญชีครัวเรือน ผ่าน “โครงการ Financial Literacy” ซึ่งจะเพิ่มความสามารถในการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ในอนาคตอีกด้วย นับเป็นโครงการที่สามารถสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยให้กับคนวัยเริ่มต้นทำงาน หรือ First Jobber ได้เป็นอย่างดี สำหรับผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อดังกล่าว จะต้องแสดงเกียรติบัตรจาก กยศ. แสดงตัวการเป็นผู้กู้ดีเลิศ ที่เป็นผู้กู้ยืมที่ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้และปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว เพื่อประกอบการนำเสนอพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ

พร้อมกันนี้ ผู้กู้ยืมเงินที่ได้รับเกียรติบัตรจาก กยศ. ยังได้รับสิทธิพิเศษในการใช้ผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ GHB Welfare Savings เพียงแสดงเกียรติบัตรจาก กยศ. (เงื่อนไขตามที่ธนาคารกำหนด) เพื่อประกอบการเปิดบัญชีโดยได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 1.85% ต่อปี (สำหรับผู้ที่มีวงเงินฝากคงเหลือไม่เกิน 10 ล้านบาท) รับดอกเบี้ยเงินฝากทุก ๆ วันที่ 15 ของเดือน และไม่เสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก เพียงเปิดบัญชีเงินฝากที่สาขาธนาคารขั้นต่ำ 500 บาทขึ้นไป ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2567

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า ผู้กู้ยืมเงินที่มีประวัติการชำระเงินคืนดี 2.9 ล้านราย แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับดีเลิศ ระดับดีเยี่ยม และระดับดี เพื่อขอบคุณและเป็นกำลังใจให้แก่ผู้กู้ยืมเงินรุ่นพี่ที่มีความรับผิดชอบและมีวินัยทางการเงินที่ดีในการมอบโอกาสทางการศึกษาที่มีค่าให้แก่รุ่นน้อง และในวันนี้ กยศ. ได้ร่วมมือกับ ธอส. เพื่อสนับสนุนผู้กู้ยืมเงินของ กยศ. ได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น ถือเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้กู้ยืมเงินจาก กยศ.


โดยให้สิทธิพิเศษแก่ผู้กู้ยืมเงินที่มีการชำระเงินกู้ยืมคืน กยศ. ครบถ้วน และมีสถานะปิดบัญชีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หรือเป็นผู้กู้ยืมเงินที่ครบกำหนดชำระเงินคืน กยศ. ซึ่งอยู่ระหว่างการชำระเงินคืนอย่างต่อเนื่อง โดยต้องมีสถานะการชำระเงินกู้ยืมเป็นปกติ และไม่มียอดหนี้ค้างกับ กยศ. รวมถึงต้องได้รับเกียรติบัตรจาก กยศ. ด้วย ทั้งนี้ผู้กู้ยืมเงินกลุ่มดังกล่าว จะได้รับโอกาสในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อและบริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของ ธอส.โดยสามารถนำเกียรติบัตรเป็นเอกสารประกอบการยื่นขอสินเชื่อ ซึ่งเป็นการรับรองว่าเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบและมีวินัยทางการเงินที่ดี นอกจากนั้น กยศ. และ ธอส. ยังร่วมกันส่งเสริมวินัยการออม สร้างความรู้ความเข้าใจในการบริหารจัดการและการวางแผนทางการเงินให้แก่ผู้กู้ยืมเงิน กยศ. อีกด้วย โดย กยศ. พร้อมสนับสนุนการประชาสัมพันธ์โครงการนี้ไปยังผู้กู้ยืมเงินให้ได้รับทราบต่อไป ทั้งนี้ ผู้กู้ยืมเงินสามารถดาวน์โหลดเกียรติบัตรได้ที่ www.studentloan.or.th

สำหรับผู้กู้ยืมเงิน กยศ. ที่สนใจผลิตภัณฑ์สินเชื่อ และเงินฝากในโครงการสนับสนุนผู้กู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ให้มีที่อยู่อาศัย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กยศ. Call Center 0-2016-4888 และ www.studentloan.or.th.-515 .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ