กรุงเทพฯ 16 มี.ค.-“ศักดิ์สยาม” ถกเวียดนาม หารือความร่วมมือด้านการคมนาคมขนส่ง สร้างโอกาสการค้าการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังให้นายฟาน จี๊ ทัญ (Mr. Phan Chi Thanh) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทยเข้าพบว่า จากการหารือร่วมกันทั้ง2ประเทศพร้อมที่ร่วมกันพัฒนาการคมนาคมขนส่ง ทางบก ,ทางอากาศ และทางน้ำร่วมกัน โดยการพัฒนาการคมนาคมขนส่งทางบก ทางกระทรวงคมนาคมพร้อมที่จะดำเนินการทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางถนนเพื่อเชื่อมโยงการขนส่งทั้งผู้โดยสารและสินค้าระหว่างไทย สปป.ลาว และเวียดนาม ทั้งการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 6 (อุบลราชธานี-สาละวัน) และโครงการศูนย์การขนส่งชายแดนนครพนม
นอกจากนั้นจะเร่งดำเนินการพัฒนาปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อให้สอดคล้องกับกรอบความตกลงด้านการคมนาคมของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง GMS และภูมิภาค ASEAN ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีความเห็นว่าการผลักดันพัฒนาพิธีการศุลกากรให้เป็นมาตรฐานเดียวเพื่ออำนวยความสะดวกการขนส่งทางบกของรัฐบาลทั้ง 3 ฝ่าย จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยพัฒนาการขนส่งทางบกให้มีความสะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ส่วนการพัฒนาทางน้ำ จะเน้นการส่งเสริมการเดินเรือชายฝั่ง (Coastal Shipping) ระหว่างไทย – กัมพูชา – เวียดนาม
โดยฝ่ายเวียดนามขอให้มีการขยายเส้นทางการเดินเรือจากเกาะฟูก๊วก (เวียดนาม) มาถึงกรุงเทพมหานคร ซึ่งการส่งเสริมการเดินเรือชายฝั่งดังกล่าว เป็นความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรีไทยและเวียดนาม ตั้งแต่ปี 2557 ต่อมาไทย กัมพูชา และเวียดนาม ได้จัดตั้งคณะทำงานร่วมสามฝ่าย เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และความเหมาะสมของการเดินเรือชายฝั่ง โดยระยะแรกการเดินเรือขนส่งชายฝั่งจะเข้าเทียบท่าเฉพาะท่าเรือขนาดกลางและขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ระหว่างภาคตะวันออกของไทย ภาคใต้ของกัมพูชา และภาคใต้ของเวียดนาม เพื่อเปิดโอกาสให้เรือขนาดเล็กสามารถขยายเส้นทางการค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยพัฒนามิติการการลงทุนของทั้ง 3 ประเทศ ไทย กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งทางฝ่ายไทยพร้อมที่จะร่วมผลักดันให้เกิดการพัฒนาเส้นทางการเดินเรืออย่างเป็นรูปธรรม
นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า ส่วนความร่วมมือด้านการบิน ไทยและเวียดนาม ทางสายการบินเวียตเจ็ท แอร์ ได้เสนอขอเพิ่มจำนวนเครื่องบินที่จะทำการบินมายังประเทศไทย เพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่ขยายตัวสูงขึ้น ขณะนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) อยู่ระหว่างการนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการออกใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนและเมื่อเรื่องดังกล่าวได้รับการอนุมัติจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนของภาคธุรกิจเวียดนามในประเทศไทย
นอกจากนี้ทางกระทรวงคมนาคมยังได้นำเสนอโครงการศึกษาพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองกับระบบราง (MR – Map) ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านทั้งเมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย นอกจากจะเป็นโครงข่ายคมนาคมสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยและเชื่อมโยงโครงข่ายกับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ยังเป็นการบูรณาการแก้ไขปัญหาการจราจรควบคู่การเติบโตของภูมิภาคอย่างเป็นระบบ รวมถึงโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทยหรือแลนด์บริดจ์ (Land Bridge) ซึ่งเป็นโครงการที่สอดคล้องกับแผนขับเคลื่อนพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ครอบคลุม 4 จังหวัดภาคใต้ตอนบน (ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช) ซึ่งจะนำไปสู่การเชื่อมโยงการขนส่งและการคมนาคมระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านและระหว่างภูมิภาค สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างภูมิภาคอย่างยั่งยืนต่อไป.-สำนักข่าวไทย