ฝรั่งเศส 16 พ.ค.-นายกฯ เผยภารกิจฝรั่งเศส แค่ 3 ชั่วโมงแต่ได้ประโยชน์มาก เตรียมพัฒนาความร่วมมือหลายด้าน ทั้งการค้าการลงทุน การทหาร รอเดือน ส.ค. คุยวีซ่าฟรีเชงเก้น ฝรั่งเศสพร้อมหนุน เตรียมตั้งกลุ่ม whatapp ผู้นำ ฝรั่งเศส-ไทย-กัมพูชา
วันนี้ 16 พ.ค.67 เวลา 15.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเดินทางถึงท่าอากาศยานออนลี เปิดเผย ภายหลัง หารือกับ นายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ว่า การเดินทางกลับมาฝรั่งเศส ครั้งนี้ เป็นเพราะผลจากการเยือน เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ที่สัญญาไว้ว่าจะพานักธุรกิจไทย มาหารือ เพื่อสานความสัมพันธ์ ซึ่งได้พูดคุยกันหลายเรื่อง ทั้งการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ การทำFTA ยอมรับว่ามีหลายเรื่องที่มีคงามซับซ้อน ซึ่งผู้แทนการค้าไทย มีแนวคิด ทำ FTA เป็นส่วนๆไป เช่น การทำรถยนต์อีวีแยกออกมา ที่จะส่งส่วนประกอบจากโรงงานในไทย เข้ามาฝรั่งเศษ ซึ่งประธานธิบดีฝรั่งเศส รับปาก และเห็นด้วยกับแนวคิดนี้
ขณะที่การเจรจา วีซาฟรีในกลุ่มเชงเก้น ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ยืนยันว่า จะให้การสนับสนุนประเทศไทย ซึ่ง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ขอให้ผ่านช่วงการเลือกตั้งสภายุโรป ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ ไปก่อน แล้วจะมีการหารือเรื่องนี้อีกครั้ง คาดว่าจะเป็นช่วงเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
สำหรับเรื่องการท่องเที่ยว ต้องยอมรับว่าจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างกันยังคงไม่เท่ากับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันผลักดันการเพิ่มเที่ยวบินระหว่างกัน
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่ามีการพูดคุย เรื่องพลังงานสะอาดด้วย ไทยจึงจะให้ฝรั่งเศสเป็นแม่แบบในการพัฒนาพลังงาน เนื่องจากฝรั่งเศส เป็นประเทศพลังงานสะอาดเกือบ100% ซึ่งการประชุม bussiness forum ครั้งต่อไป ช่วงเดือนกันยายน ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ โดยฝรั่งเศส จะนำบริษัทพลังงานที่มี ความรู้ ความสามารถ เข้าร่วมประชุม รวมทั้งบริษัทพลังงานนิวเคลียย์ ที่ปัจจุบันสามารถ ผลิตไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัย ราคาถูก และ สะอาด
ขณะเดียวกันการเดินทางเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศสครั้งนี้ มีพลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ร่วมคณะรับประทานอาหารกลางวันด้วย และยังได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงด้านกลาโหม โดยทางฝรั่งเศสมีข้อเสนอให้ไทยหลายเรื่องเช่น เครื่องบิน รถถัง โดรน และ ไซเบอร์ ที่ฝรั่งเศส ต้องการพัฒนาร่วมกับไทย
อีกทั้ง ยังมีการพูดคุยเรื่องการพัฒนากองทัพร่วมกันในอีก 10 ข้างหน้า ต้องรอดูว่าทางฝรั่งเศสจะมีข้อเสนออะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ รวมทั้งมีการหารือเรื่องการฝึกซ้อมรบด้วย
ก่อนหน้าที่จะเดินทางพบกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นกล่าวปาฐกถาในงาน Thailand – France Business Forum และในเวทีนี้ ยังมีการลงบันทึกข้อตกลงหลายด้าน เช่น เรื่องการผลิตเชื้อเพลิงพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน และยังมีการหารือกันหลายคณะ เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ด้านธุรกิจ ซึ่งนักธุรกิจรายใหญ่เข้าร่วมจำนวนมาก เช่นด้านพลัง ด้านกลาโหม ดังนั้นการเดินทางมาเพียงครั้งวัน ถือว่าได้ประโยชน์ อย่างมาก
ภายหลังจากรับประทานอาหารกลางวัน ร่วมกับคณะแล้ว นายกรัฐมนตรี เปิดเผย ด้วยว่า ยังมีโอกาส ได้หารือ กับประธานาธิบดีฝรั่งเศส เป็นการส่วนตัว 2 ต่อ2 เป็นการพูดคุยเชิงลึก โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ ช่วงเดือนกันยายนนี้ จะนำนักธุรกิจของฝรั่งเศส ไปร่วมประชุม การประชุมประเทศไทย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี เล่าถึงบรรยากาศ การพูดคุย ที่ทำให้รู้สึกแปลกใจ เพราะระหว่างการพูดคุย นายมาครง ได้เชิญสุภาพสตรีหมายเลข1 ของฝรั่งเศส เข้ามาแนะนำด้วย ซึ่งเป็นผู้หญิงที่สวยมาก เข้ามาด้วยชุดสีแดง เมื่อแนะนำตัวเสร็จ ก็กลับออกไป ตนจึงได้หารือกับนายมาครงต่อ ถึงเรื่องความสัมพันธ์ ระหว่าง 2 ประเทศ และ ได้มีการแลกเบอร์โทรศัพท์ไว้สื่อสารกัน และทักทายกันผ่าน Whatapp อีกด้วย
โดยประธานาธิบดีมาครง ยังเผยว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายกฯ จึงเสนอให้ผู้นำทั้ง 3 คนตั้งกลุ่มขึ้นมา เพื่อที่จะได้สามารถพูดคุยหารือกันได้สะดวกขึ้น.-316.-สำนักข่าวไทย