“มงคลกิตติ์” ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ “ศักดิ์สยาม”

22 ม.ค.- เปิดคำพิพากษา “มงคลกิตติ์” ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ “ศักดิ์สยาม” ผ่านหน้าเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว และ TikTok เป็นเวลา 15 วัน คงข้อความเอา 10 ปี กรณีกล่าวหา 4 เรื่อง ล้วนไม่เป็นความจริง ทำให้เสียชื่อเสียง

ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ตัดสินให้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ คดีหมายเลขดำที่ อ1885/2567 วันที่ 22 มกราคม 2568 ความอาญาเกี่ยวเนื่องแพ่ง ระหว่างโจทก์ คือ พนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ โจทก์ร่วม คือ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ โดยมีนายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ เป็นจำเลย เรื่องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

โดยคู่กรณี ขอทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาล มีข้อความตามที่จะกล่าวต่อไปนี้ จำเลยตกลงจะทำการโพสต์ข้อความขอโทษโจทก์ร่วมในเฟซบุ๊กของจำเลยชื่อ “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” และโพสต์บันทึกภาพและเสียง(วิดิโอ)ในแอปพลิเคชั่น Tik Tok เป็นเวลาติดต่อกันทุกวัน ตามข้อความตามบันทึกท้ายรายงานกระบวนพิจารณา ฉบับลงวันที่ 21 มกราคม 2568 ทั้งนี้ จำเลยได้เริ่มดำเนินแล้วในวันที่ 21 มกราคม 2568 คงเหลือระยะเวลาที่ต้องดำเนินการ อีก 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2568

ข้อ 2. เมื่อจำเลยดำเนินการตามข้อ 1. แล้ว จะคงไว้ซึ่งข้อความในเฟซบุ๊ก และบันทึกภาพและเสียง (วิดิโอ) ของจำเลยไว้ในแอปพลิเคชั่น Tik Tok ของจำเลยไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี ยกเว้นมีเหตุปัจจัยอื่นที่ทำให้ข้อความในเฟซบุ๊ก และบันทึกภาพและเสียง (วิดิโอ) ของจำเลยในแอปพลิเคชั่น TIK Tok ของจำเลยตามข้อ 1. สูญหายไปโดยมิใช่ความผิดของจำเลย


ข้อ 3. หากจำเลยไม่ดำเนินการตามข้อ 1. และข้อ 2. หรือดำเนินการไม่ครบถ้วนตามข้อ 1.และข้อ 2. ถือว่าจำเลยผิดนัด ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วมเป็นเงินจำนวน 5,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันผิดนัด

ข้อ 4. โจทก์ร่วมและจำเลยตกลงยินยอมตามข้อ 1. ถึงข้อ 3 และไม่ติดใจเรียกร้องสิ่งใดต่อกันอีก


ด้านนายศักดิ์สยาม กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมาเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และชี้แจงในสภาผู้แทนราษฎร และมีการลงมติแล้ว ซึ่งขณะนั้นนายมงคลกิตติ์ เป็นฝ่ายค้าน รอให้นายมงคลกิตติ์ เมื่อไหร่จะดำเนินการให้เป็นความจริง ซึ่งเมื่อวานนี้ศาลมีการสอบพยาน และนายมงคลกิตติ์ มาทักทาย และขึ้นศาลว่าจะไกล่เกลี่ยกัน ตนไม่ขัดข้อง แต่ต้องทำเรื่องจริงให้ปรากฎ ว่าเรื่องที่กล่าวหากันความจริงเป็นอย่างไร ซึ่งนายมงคลกิตติ์ ยอมรับว่าทุกเรื่องเป็นเรื่องไม่จริง ซึ่งตนเห็นว่านายมงคลกิตติ์ ยอมรับในสิ่งเหล่านี้แล้ว ยินดีจะให้อภัย แต่ว่าประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่คลาดเคลื่อนไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว จึงเรียนต่อศาลว่าให้นายมงคลกิตติ์ ช่วยแก้เรื่องนี้ให้ด้วย ทำสัก 15 วัน จริง ๆ มีคนบอกว่าทำไมไม่ทำสัก 10 ปี แต่ตนเห็นว่า 15 วัน เพียงพอแล้ว ให้ทำเพื่อแสดงให้เห็นว่านายมงคลกิตติ์ มีความจริงใจที่จะขอโทษเรื่องนี้ และแก้ไขให้ถูกต้อง

“ที่จริงนายมงคลกิตติ์ เป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อสมัยที่ผ่านมา ทำหน้าที่ได้ดี มีคนตามรับฟัง ผมเคยพูดกับนายมงคลกิตติ์ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าให้ตรวจสอบข้อมูลให้ดี สิ่งเหล่านี้เป็นกรณีศึกษา คนที่ทำหน้าที่ต่อจากนี้ไป ใครก็ตามที่จะกล่าวหาใคร ก็โปรดตรวจสอบข้อมูล เพราะเสียเวลาทั้ง 2 ฝ่าย เสียขื่อเสียงทั้ง 2 ฝ่าย วันนี้ผมก็ดีใจที่นายมงคลกิตติ์ ได้ทำเรื่องนี้ให้คนเข้าใจ หวังว่า นายมงคลกิตติ์ คงไม่ทำอะไรกับผมแบบนี้อีก ในทางการเมือง ทุกคนก็เป็นพี่น้องกัน ผมไม่เคยจะรู้สึกโกรธหรืออะไร ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาถ้าพูดในเรื่องเนื้องาน ไม่เคยดำเนินคดีกับใครเลย แต่นายมงคลกิตติ์ เอาเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่เป็นความจริงมาใช้ จึงจำเป็นต้องดำเนินคดีเพื่อให้เกิดความจริง” นายศักดิ์สยาม กล่าว

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า นายมงคลกิตติ์ ต้องโพสต์ในเพจเฟซบุ๊ก และ ในแอปพลิเคชั่น TIK Tok เป็นเวลา 15 วัน และคงเนื้อหาเอาไว้เป็นเวลา 10 ปี โดยไม่ไปลบข้อความโดยนายมงคลกกิตติ์ เอง หากไปลบ จะต้องจ่ายค่าเสียหาย 5 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในเพจเฟซบุ๊ก มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ออกประกาศ #แถลงขอโทษ #นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีข้อความดังนี้

1.ตามที่ข้าพเจ้า live สดเมื่อ 17 เมษายน 2564 ใน facebook ของข้าพเจ้ากล่าวในทำนองทำให้บุคคลภายนอกเข้าใจว่าโจทก์ร่วม (นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ) ไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านทองหล่อในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2564 ถึงเมษายน 2564 ทำให้เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 และมีผู้ติดเชื้อประมาณ 11,000 คนนั้น ไม่เป็นความจริง

2.ต่อมาวันที่ 24 เมษายน 2564 ข้าพเจ้าได้โพสต์ภาพและข้อความใน facebook มีรูปภาพของโจทก์ร่วม (นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ) ขณะเล่นเจ็ตสกี ขณะทานอาหารและร้องเพลงอยู่ในคาราโอเกะ ในลักษณะทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่าโจทก์ร่วมไปเที่ยวและไปทานอาหาร พร้อมร้องเพลงในสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 และทางราชการห้ามรวมกลุ่ม ไม่เป็นความจริง

3.ตามที่ข้าพเจ้าโพสต์ facebook เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 ในลักษณะที่ทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และหญิงอื่น มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว และหญิงอื่นได้รับทรัพย์สินจากโจทก์ร่วม ไม่เป็นความจริง

4.เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 ตามที่ข้าพเจ้าได้ให้สัมภาษณ์ทีวี PPTV36 ให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดำเนินคดีกับโจทก์ร่วมเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดโควิด-19 ไม่เป็นความจริง

ตามไลฟ์สดและการโพสต์ภาพและข้อความดังกล่าวข้างต้น เป็นการนำข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อนและเข้าใจผิดของข้าพเจ้ามาเผยแพร่ทำให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เสียชื่อเสียงต่อตนเองและวงศ์ตระกูล

ต่อมาพนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ได้ฟ้องคดีข้าพเจ้าในความผิดฐานหมิ่นประมาทต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1885/2567 ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์วันนี้ และได้ทำการไกล่เกลี่ย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ โจทย์ร่วมและข้าพเจ้า เนื่องจากศาลเห็นว่าเป็นความผิดอันยอมความได้

ข้าพเจ้าได้ทำการขอโทษ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ว่าข้าพเจ้าได้กระทำการก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ตามคำฟ้องจริง และจะทำการเผยแพร่ข้อความ “ขอโทษ” นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ใน facebook และ TikTok ส่วนตัว ของข้าพเจ้าเป็นเวลา 15 วันนับแต่วันนี้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้กรุณาให้อภัยในสิ่งที่ข้าพเจ้าได้กระทำตามกล่าวข้างต้น หากข้าพเจ้าได้ดำเนินการโพสต์ใน facebook และ TikTok ตามกำหนดข้างต้น และจะแถลงถอนคำร้องทุกข์ต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์ในส่วนคดีอาญาและไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายจากในส่วนคดีแพ่งในวันนี้

ข้าพเจ้าในฐานะจำเลยและเป็นผู้มีอาวุโสน้อยกว่า ขอขอบคุณท่านศักดิ์สยาม ชิดชอบ ที่ให้ความกรุณาอภัยให้กับข้าพเจ้าในสิ่งที่ข้าพเจ้ากระทำละเมิดข้างต้น .319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]