“มงคลกิตติ์” ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ “ศักดิ์สยาม”

22 ม.ค.- เปิดคำพิพากษา “มงคลกิตติ์” ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ “ศักดิ์สยาม” ผ่านหน้าเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว และ TikTok เป็นเวลา 15 วัน คงข้อความเอา 10 ปี กรณีกล่าวหา 4 เรื่อง ล้วนไม่เป็นความจริง ทำให้เสียชื่อเสียง

ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ตัดสินให้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ คดีหมายเลขดำที่ อ1885/2567 วันที่ 22 มกราคม 2568 ความอาญาเกี่ยวเนื่องแพ่ง ระหว่างโจทก์ คือ พนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ โจทก์ร่วม คือ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ โดยมีนายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ เป็นจำเลย เรื่องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

โดยคู่กรณี ขอทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาล มีข้อความตามที่จะกล่าวต่อไปนี้ จำเลยตกลงจะทำการโพสต์ข้อความขอโทษโจทก์ร่วมในเฟซบุ๊กของจำเลยชื่อ “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” และโพสต์บันทึกภาพและเสียง(วิดิโอ)ในแอปพลิเคชั่น Tik Tok เป็นเวลาติดต่อกันทุกวัน ตามข้อความตามบันทึกท้ายรายงานกระบวนพิจารณา ฉบับลงวันที่ 21 มกราคม 2568 ทั้งนี้ จำเลยได้เริ่มดำเนินแล้วในวันที่ 21 มกราคม 2568 คงเหลือระยะเวลาที่ต้องดำเนินการ อีก 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2568

ข้อ 2. เมื่อจำเลยดำเนินการตามข้อ 1. แล้ว จะคงไว้ซึ่งข้อความในเฟซบุ๊ก และบันทึกภาพและเสียง (วิดิโอ) ของจำเลยไว้ในแอปพลิเคชั่น Tik Tok ของจำเลยไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี ยกเว้นมีเหตุปัจจัยอื่นที่ทำให้ข้อความในเฟซบุ๊ก และบันทึกภาพและเสียง (วิดิโอ) ของจำเลยในแอปพลิเคชั่น TIK Tok ของจำเลยตามข้อ 1. สูญหายไปโดยมิใช่ความผิดของจำเลย


ข้อ 3. หากจำเลยไม่ดำเนินการตามข้อ 1. และข้อ 2. หรือดำเนินการไม่ครบถ้วนตามข้อ 1.และข้อ 2. ถือว่าจำเลยผิดนัด ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วมเป็นเงินจำนวน 5,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันผิดนัด

ข้อ 4. โจทก์ร่วมและจำเลยตกลงยินยอมตามข้อ 1. ถึงข้อ 3 และไม่ติดใจเรียกร้องสิ่งใดต่อกันอีก


ด้านนายศักดิ์สยาม กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมาเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และชี้แจงในสภาผู้แทนราษฎร และมีการลงมติแล้ว ซึ่งขณะนั้นนายมงคลกิตติ์ เป็นฝ่ายค้าน รอให้นายมงคลกิตติ์ เมื่อไหร่จะดำเนินการให้เป็นความจริง ซึ่งเมื่อวานนี้ศาลมีการสอบพยาน และนายมงคลกิตติ์ มาทักทาย และขึ้นศาลว่าจะไกล่เกลี่ยกัน ตนไม่ขัดข้อง แต่ต้องทำเรื่องจริงให้ปรากฎ ว่าเรื่องที่กล่าวหากันความจริงเป็นอย่างไร ซึ่งนายมงคลกิตติ์ ยอมรับว่าทุกเรื่องเป็นเรื่องไม่จริง ซึ่งตนเห็นว่านายมงคลกิตติ์ ยอมรับในสิ่งเหล่านี้แล้ว ยินดีจะให้อภัย แต่ว่าประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่คลาดเคลื่อนไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว จึงเรียนต่อศาลว่าให้นายมงคลกิตติ์ ช่วยแก้เรื่องนี้ให้ด้วย ทำสัก 15 วัน จริง ๆ มีคนบอกว่าทำไมไม่ทำสัก 10 ปี แต่ตนเห็นว่า 15 วัน เพียงพอแล้ว ให้ทำเพื่อแสดงให้เห็นว่านายมงคลกิตติ์ มีความจริงใจที่จะขอโทษเรื่องนี้ และแก้ไขให้ถูกต้อง

“ที่จริงนายมงคลกิตติ์ เป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อสมัยที่ผ่านมา ทำหน้าที่ได้ดี มีคนตามรับฟัง ผมเคยพูดกับนายมงคลกิตติ์ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าให้ตรวจสอบข้อมูลให้ดี สิ่งเหล่านี้เป็นกรณีศึกษา คนที่ทำหน้าที่ต่อจากนี้ไป ใครก็ตามที่จะกล่าวหาใคร ก็โปรดตรวจสอบข้อมูล เพราะเสียเวลาทั้ง 2 ฝ่าย เสียขื่อเสียงทั้ง 2 ฝ่าย วันนี้ผมก็ดีใจที่นายมงคลกิตติ์ ได้ทำเรื่องนี้ให้คนเข้าใจ หวังว่า นายมงคลกิตติ์ คงไม่ทำอะไรกับผมแบบนี้อีก ในทางการเมือง ทุกคนก็เป็นพี่น้องกัน ผมไม่เคยจะรู้สึกโกรธหรืออะไร ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาถ้าพูดในเรื่องเนื้องาน ไม่เคยดำเนินคดีกับใครเลย แต่นายมงคลกิตติ์ เอาเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่เป็นความจริงมาใช้ จึงจำเป็นต้องดำเนินคดีเพื่อให้เกิดความจริง” นายศักดิ์สยาม กล่าว

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า นายมงคลกิตติ์ ต้องโพสต์ในเพจเฟซบุ๊ก และ ในแอปพลิเคชั่น TIK Tok เป็นเวลา 15 วัน และคงเนื้อหาเอาไว้เป็นเวลา 10 ปี โดยไม่ไปลบข้อความโดยนายมงคลกกิตติ์ เอง หากไปลบ จะต้องจ่ายค่าเสียหาย 5 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในเพจเฟซบุ๊ก มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ออกประกาศ #แถลงขอโทษ #นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีข้อความดังนี้

1.ตามที่ข้าพเจ้า live สดเมื่อ 17 เมษายน 2564 ใน facebook ของข้าพเจ้ากล่าวในทำนองทำให้บุคคลภายนอกเข้าใจว่าโจทก์ร่วม (นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ) ไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านทองหล่อในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2564 ถึงเมษายน 2564 ทำให้เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 และมีผู้ติดเชื้อประมาณ 11,000 คนนั้น ไม่เป็นความจริง

2.ต่อมาวันที่ 24 เมษายน 2564 ข้าพเจ้าได้โพสต์ภาพและข้อความใน facebook มีรูปภาพของโจทก์ร่วม (นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ) ขณะเล่นเจ็ตสกี ขณะทานอาหารและร้องเพลงอยู่ในคาราโอเกะ ในลักษณะทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่าโจทก์ร่วมไปเที่ยวและไปทานอาหาร พร้อมร้องเพลงในสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 และทางราชการห้ามรวมกลุ่ม ไม่เป็นความจริง

3.ตามที่ข้าพเจ้าโพสต์ facebook เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 ในลักษณะที่ทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และหญิงอื่น มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว และหญิงอื่นได้รับทรัพย์สินจากโจทก์ร่วม ไม่เป็นความจริง

4.เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 ตามที่ข้าพเจ้าได้ให้สัมภาษณ์ทีวี PPTV36 ให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดำเนินคดีกับโจทก์ร่วมเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดโควิด-19 ไม่เป็นความจริง

ตามไลฟ์สดและการโพสต์ภาพและข้อความดังกล่าวข้างต้น เป็นการนำข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อนและเข้าใจผิดของข้าพเจ้ามาเผยแพร่ทำให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เสียชื่อเสียงต่อตนเองและวงศ์ตระกูล

ต่อมาพนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ได้ฟ้องคดีข้าพเจ้าในความผิดฐานหมิ่นประมาทต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1885/2567 ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์วันนี้ และได้ทำการไกล่เกลี่ย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ โจทย์ร่วมและข้าพเจ้า เนื่องจากศาลเห็นว่าเป็นความผิดอันยอมความได้

ข้าพเจ้าได้ทำการขอโทษ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ว่าข้าพเจ้าได้กระทำการก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ตามคำฟ้องจริง และจะทำการเผยแพร่ข้อความ “ขอโทษ” นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ใน facebook และ TikTok ส่วนตัว ของข้าพเจ้าเป็นเวลา 15 วันนับแต่วันนี้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้กรุณาให้อภัยในสิ่งที่ข้าพเจ้าได้กระทำตามกล่าวข้างต้น หากข้าพเจ้าได้ดำเนินการโพสต์ใน facebook และ TikTok ตามกำหนดข้างต้น และจะแถลงถอนคำร้องทุกข์ต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์ในส่วนคดีอาญาและไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายจากในส่วนคดีแพ่งในวันนี้

ข้าพเจ้าในฐานะจำเลยและเป็นผู้มีอาวุโสน้อยกว่า ขอขอบคุณท่านศักดิ์สยาม ชิดชอบ ที่ให้ความกรุณาอภัยให้กับข้าพเจ้าในสิ่งที่ข้าพเจ้ากระทำละเมิดข้างต้น .319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย