กมธ.ทหาร เรียกกองทัพบกแจงปมน้ำมันหาย

รัฐสภา 27 ส.ค.- กมธ.ทหาร เรียกกองทัพบกแจงกรณีน้ำมันหายที่สระบุรี-นนทบุรี ด้าน “เชตวัน” งง น้ำมันหาย แต่ซื้อคืน ไม่เท่ากับทุจริต มองคืบหน้าล่าช้า อาจรอปรับเลื่อนตำแหน่ง


นายเชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน ในฐานะคณะกรรมาธิการการทหารสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง กรณีน้ำมันดีเซลที่หายไป จากมณฑลทหารบกที่ 18 จังหวัดสระบุรี ซึ่งจากการติดตามความคืบหน้าที่หายไป 215,000 ลิตร เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2565 ได้มีการรายงานให้ผู้บัญชาการทหารบกทราบในอีกหนึ่งปีต่อมา ซึ่งกองทัพบกได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งน้ำมันหายออกไปหนึ่งปีเต็ม แต่จากการตรวจสอบตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 จนถึง 12 ตุลาคม 2566 ก็ไม่มีคำตอบ จากนั้นจึงได้ทำหนังสือไปกระทรวงกลาโหม ก็ยังไม่มีคำตอบ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 ก็ได้ส่งหนังสือไปยังกองทัพบกและกระทรวงกลาโหม ให้ชี้แจงกลับมา ก็ได้แจ้งว่ายังอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จ และคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงได้ขอขยายเวลาไปจนถึง 29 พฤศจิกายน 2566 แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีหนังสือ ชี้แจงใดๆออกมา จากนั้น 22 มกราคม 2567 กรรมาธิการก็ได้ส่งหนังสือให้มีการชี้แจง แต่ก็ยังไม่ได้รับความร่วมมืออีกเช่นเดิม วันที่ 27 มีนาคม 2567 จึงได้ยื่นหนังสือไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ,สำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องการขาดความร่วมมือของกองทัพ ต่อการดำเนินงานและอำนาจหน้าที่ของกรรมาธิการ เพื่อให้ หน่วยงานดังกล่าวแสวงหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้

ดังนั้นเมื่อมีกรณีที่สองเกิดขึ้นจึงขอทวงถามคำชี้แจงในกรณีแรกด้วย โดยในกรณีที่สองน้ำมันได้หายไปจาก กรมพลาธิการทหารบก จังหวัดนนทบุรี จำนวน 10,000 ลิตร ซึ่งได้รับทราบผลการสืบสวนข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 14 มกราคม แต่จากวันที่ 14 กรกฎาคม จนถึงวันนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือนครึ่ง กองทัพบกก็ไม่ได้มีการออกมาแถลงข่าวว่าน้ำมันหาย เพราะที่ผ่านมากองทัพมักจะสอบกันเองแล้วเรื่องก็เงียบ เมื่อเป็นข่าวเกิดขึ้นก็บอกแค่ว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่สุดท้ายก็ไม่เคยได้รับทราบคำตอบเรื่องเหล่านี้เลย เหตุการณ์น้ำมันหายครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2566 ตอนนั้น ผอ. กองเชื้อเพลิงคนใหม่กำลังจะเข้ารับตำแหน่ง แต่พบว่ามีน้ำมันหายไป 10,000 ลิตร จึงไม่กล้าเซ็นรับ ตอนนั้นไม่มีรายงานไม่มีการสอบสวน จึงไม่ทราบว่าเป็นการคุยกันเองหรือไม่


“ยื้อจนมีการสั่งซื้อน้ำมันรายใหญ่เอกชนเจ้าหนึ่ง ในวันที่ 9 พฤศจิกายนจำนวน 9,000 ลิตร และให้นำมาส่งในวันที่ 10 พฤศจิกายนซึ่งเป็นเวลาวันเดียวหลังจากที่สั่งซื้อ แต่คนที่สั่งซื้อไม่ได้มีอำนาจในการสั่งซื้อน้ำมัน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเป็นการสั่งซื้อน้ำมันมาชดเชยน้ำมันที่หายไปหรือไม่ เพราะปริมาณใกล้เคียงกัน” นายเชตวัน กล่าว

นายเชตวัน กล่าวว่าเวลาผ่านไปเป็นปี กำลังพลในหน่วย เห็นว่าเรื่องนี้ไม่เป็นธรรมจึงไปร้องเรียน ทำให้กองทัพสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง แต่ก็ล่าช้าเหมือนเดิมจนมีข่าวออกมา จึงรู้ว่าน้ำมันหายไป และทำให้นายภูมิธรรม เวชยชัยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในขณะนั้น ถึงขั้นร้องออกมาว่า “โอ้โห น้ำ มันระเหยออกมาขนาดนั้นเลยหรือ”

นายเชตวัน กล่าวว่า ล่าสุดได้ผลสอบออกมาแล้ว แต่พบข้อสงสัยในเอกสาร พบว่ามียอดขาดไป แล้วคาดดำ และได้ดำเนินการสั่งซื้อน้ำมันโดยส่วนตัวมาลงที่สถานีจ่ายของกรมเชื้อเพลิง พลาธิการ ทบ. รวม 9,000 ลิตร ซึ่งเป็นการยอมรับว่า มีน้ำมันหายไปจริง โดยซื้อน้ำมันกลับมาด้วยเงินส่วนตัว


และในเอกสารยังระบุด้วยว่ามีความเชื่อว่าน้ำมันสูญหายจริง และได้รับความเสียหาย แต่เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่าหายจริงและเกิดความเสียหายแก่ข้าราชการ สุดท้ายการกระทำจึงถือว่าไม่เป็นการทุจริตต่อราชการ จึงเกิดคำถามว่าทำไมไม่เป็นการทุจริต เพราะมีการสั่งซื้อเมื่อคืนแล้วใช่หรือไม่

“เมื่อน้ำมันมันสูญหายไปแล้วและไม่รู้ว่าสูญหายไปไหน หายไปอย่างไรใครไปเอาไปทำตอนไหน แต่พอวันหนึ่งมีคนรู้ว่าหายเกิดขึ้น แล้วเอากลับมาชดใช้คืน อย่างนี้เป็นการไม่ทุจริตหรือ นี่มันมาตรฐานเดียวกับนาฬิกายืมเพื่อนเลย พอคืนเสร็จแล้วก็ไม่ มีความผิด“ นายเชตวัน กล่าว

พร้อมกันนี้ นายเชตะวันได้ยก การตรวจสอบของ ทบ.เป็นไปตามระเบียบ คือหากพบว่ามีการสูญหาย ก็ต้องมีการรายงานแล้วตั้งกรรมการตรวจสอบได้ข้อสรุปออกมา และมีการชดใช้และรายงานต่อ ผบ.ทบ. ต่อไป แต่สิ่งที่กองทัพบกดำเนินการ คือเมื่อมีน้ำมันสูญหาย ไม่ได้มีการรายงาน ไม่ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบ แต่มีการชดใช้ ก่อนที่จะมีการร้องเรียน และตั้งกรรมการสอบ จึงมีข้อสรุปออกมาและสุดท้ายไม่เกิดการทุจริต

ดังนั้นตนคิดว่าแม้จะมีการซื้อคืนชดเชยในภายหลังแล้ว แต่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เกิดขึ้นแล้ว เรื่องของการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

เมื่อถามว่า น้ำมันที่หายไปเกิดจากการระเหยหรือมีการยักยอก นายเชตวัน กล่าวว่าในส่วนของมณฑลทหารบกที่ 18 จำนวน 200,000 ลิตร ไม่น่าจะระเหยได้แน่ๆแต่ในส่วนของกรมพลาธิการทหาร ไม่ได้มีการชี้แจงว่าระเหย เป็นการพูดเล่นมากกว่า ผลสอบออกมาก็คือหายจริงๆ

อย่างไรก็ตามคณะกรรมาธิการจะเชิญกองทัพบก เข้ามาชี้แจงในกรรมาธิการทหารในวันพรุ่งนี้ (28 ส.ค.) ถึงข้อเท็จจริงขาดหายไปของน้ำมัน และสอบถามถึงการดำเนินการที่ล่าช้า เพราะรอให้มีการปรับเลื่อนตำแหน่ง ซึ่งทราบมาว่าคนเดิมได้ปรับเลื่อนตำแหน่ง เป็นถึงรองนายพล และสอบถามถึง พยานที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ ว่าได้รับความเสียหายจากการปรับเลื่อนตำแหน่งด้วยหรือไม่.-315 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]