สหรัฐฯ-จีนทำข้อตกลงการค้า ดันสินค้าไทยแข่งขันส่งออกเพิ่ม

นนทบุรี 25 มิ.ย.-สนค.วิเคราะห์ผลการทำข้อตกลงเศรษฐกิจการค้าระยะแรกระหว่างสหรัฐฯ กับจีนครบรอบ 1 ปี พบจีนนำเข้าจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น แต่ยังไม่ถึงเป้าหมาย ส่วนไทยไม่ได้รับผลกระทบ เหตุสินค้าที่จีนตกลงนำเข้าจากสหรัฐฯ ไทยยังส่งออกได้เพิ่มขึ้น ทั้งอุตสาหกรรมและเกษตร แนะปรับแผนรักษาตลาด เพิ่มส่วนแบ่งตลาด ใช้กลยุทธ์ออฟไลน์ ออนไลน์เจาะตลาด 


นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยถึงการติดตามความคืบหน้าการค้าสินค้าภายใต้ข้อตกลงเศรษฐกิจการค้าระยะแรกระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. 2563 หรือกว่า 1 ปี ว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลการค้าปี 2563 พบว่าจีนนำเข้าสินค้าภายใต้ข้อตกลงฯ จากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.22 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 13.94 สูงกว่าอัตราการขยายตัวของการนำเข้าสินค้าโดยรวมของจีนจากสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 10.41 แต่ยังไม่บรรลุเป้าหมายการนำเข้าที่กำหนด เนื่องจากจีนสามารถนำเข้าสินค้าได้เพียงร้อยละ 57.70 ของเป้าหมายปีแรกเท่านั้น โดยกลุ่มสินค้าที่จีนสามารถนำเข้าได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายปีแรกมากที่สุด คือ สินค้าเกษตร ร้อยละ 64.36 ของเป้าหมาย ตามด้วยสินค้าอุตสาหกรรม ร้อยละ 59.68 และสินค้าพลังงาน ร้อยละ 39.14 และเมื่อพิจารณาในแต่ละกลุ่มสินค้า พบว่า ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม จีนบรรลุเป้าหมายเพียงสินค้าเดียว คือ เวชภัณฑ์ ขณะที่อากาศยานเป็นสินค้าอุตสาหกรรมที่จีนนำเข้าต่ำกว่าเป้าหมายมากที่สุด ในกลุ่มสินค้าเกษตร จีนสามารถนำเข้ามากกว่าเป้าหมาย 3 รายการ ได้แก่ เนื้อสัตว์ ธัญพืช และฝ้าย แต่ยังคงนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองต่ำกว่าเป้าหมายถึง 1.06 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับกลุ่มสินค้าพลังงาน จีนยังคงนำเข้าต่ำกว่าเป้าหมายในทุกสินค้า

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาสินค้าที่จีนนำเข้าจากสหรัฐฯ ภายใต้ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ กับจีน เทียบกับการส่งออกของไทยไปจีนในสินค้ากลุ่มเดียวกัน พบว่า จีนยังนำเข้าสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 6.40 โดยสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าเกษตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.81 และ 10.49 ตามลำดับ แต่นำเข้าสินค้าพลังงานจากไทยลดลงร้อยละ 36.55 จากแรงกดดันด้านราคาน้ำมันดิบที่ลดลงทั่วโลก และเมื่อพิจารณาสินค้าภายใต้ข้อตกลงฯ 538 รายการ มีสินค้าที่ไทยแข่งขันได้ดีเยี่ยม 88 รายการ เช่น เครื่องมือที่ใช้งานด้วยมือแบบนิวเมติก/แบบไฮดรอลิก/แบบมีมอเตอร์ รถยนต์และยานยนต์สำหรับขนส่งบุคคล ส้มสดหรือแห้ง เนื้อปลาแบบฟิลเล อำพันขี้ปลา ปลาแช่เย็นจนแข็ง บิวเทน ซึ่งจีนยังคงนำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้นแม้ว่าจะนำเข้าจากโลกลดลง และสินค้าที่ไทยยังแข่งขันได้ดี 100 รายการ เช่น คอมพิวเตอร์ วงจรรวมอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด มันสำปะหลัง ผลไม้สด เช่น ทุเรียน ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการโดยรวมของจีนที่เพิ่มขึ้น โดยการนำเข้าสินค้าที่ไทยแข่งขันได้ดีเยี่ยมและดี ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ปัจจุบันจีนนำเข้าสินค้าสองกลุ่มนี้จากไทยเป็นสัดส่วนเกือบร้อยละ 80 ของมูลค่าการนำเข้าสินค้าภายใต้ข้อตกลงฯ ทั้งหมด ที่จีนนำเข้าจากไทย สะท้อนว่าไทยสามารถใช้ศักยภาพในการส่งออกได้ดี


อย่างไรก็ตาม มีสินค้าไทยส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบ โดยจีนนำเข้าจากไทยลดลงในปี 2563 เช่น น้ำมันปิโตรเลียมดิบและน้ำมันดิบ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ เครื่องคำนวณและแสดงข้อมูลแบบพกพา น้ำตาลทราย โดยสินค้าเหล่านี้มีมูลค่า 1 ใน 5 ของมูลค่าการนำเข้าสินค้าที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงฯ ทั้งหมดของจีนจากไทย ทั้งนี้ มีสินค้าหลายตัวในกลุ่มนี้ที่จีนกลับมานำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้นในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 อาทิ เคมีภัณฑ์ (เช่น อะไซคลิกแอลกอฮอล์ อีพอกไซด์) เลนส์ ปริซึม กระจกเงา เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ตัวต้านทานไฟฟ้า เครื่องสำอาง เสริมความงาม กุ้ง ปู สดแช่เย็น แช่แข็ง น้ำตาลทราย และพืชผักที่ปรุงแต่งทำไว้ไม่ให้เสีย

นอกจากนี้ ในช่วงที่เหลือของปี 2564 ไทยอาจเผชิญแรงกดดันจากการที่จีนต้องเร่งนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ ในหลายกลุ่มสินค้า เนื่องจากในปีแรก จีนนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ได้เพียงร้อยละ 57.70 ของเป้าหมาย ผู้ประกอบการไทยต้องเตรียมรับมือกับการแข่งขันในตลาดจีนที่อาจรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่จีนนำเข้าจากสหรัฐฯ ลดลงในปีที่ผ่านมา เช่น รถยนต์และยานยนต์สำหรับขนส่งบุคคล เครื่องพิมพ์ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด ผลิตภัณฑ์จากไม้บางชนิด ไซคลิกไฮโครคาร์บอน โทรศัพท์ มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ซึ่งจีนอาจต้องเร่งนำเข้าจากสหรัฐฯ มากขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีไบเดนอยู่ระหว่างทบทวนนโยบายการค้าต่อจีน และให้ความสำคัญมากกับการติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตามข้อตกลงระยะแรกของจีน ควบคู่ไปกับการประเมินผลจากการใช้/ยกเว้นมาตรการภาษีกับสินค้าจีนภายใต้สงครามการค้า โดยต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไปว่านโยบายและท่าทีของสหรัฐฯ ต่อจีนในอนาคตจะเป็นอย่างไร

ทั้งนี้ สนค.แนวทางเชิงรุกในการขยายตลาดส่งออกไปจีน ในสินค้ากลุ่มที่ไทยสามารถแข่งขันได้ดีเยี่ยมและดี จะต้องส่งเสริมการส่งออกอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาหรือขยายส่วนแบ่งตลาดของไทย ส่วนสินค้าที่จีนนำเข้าจากไทยลดลง ต้องพิจารณาถึงปัญหา อุปสรรค และหาสาเหตุ โดยต้องเร่งพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่น มุ่งเน้นจุดขายด้านคุณภาพและมาตรฐานสินค้าไทย เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ควบคู่กับการขยายการส่งออกไปยังตลาดสำคัญอื่น ๆ และตลาดที่เติบโตสูงโดยในปี 2564 นี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกไปตลาดจีนไว้มากมาย ทั้งในรูปแบบออฟไลน์ (การส่งเสริมการขายในห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ต) และออนไลน์ (การจับคู่ธุรกิจแบบออนไลน์ การส่งเสริมสินค้าไทยบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ เช่น Tmall, JD และ Taobao) ตลอดจนรูปแบบไฮบริด เช่น การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในรูปแบบ Mirror & Mirror  โดยเฉพาะสินค้าที่มีโอกาสสูง เช่น ผลไม้ ยางพารา ข้าว สินค้าอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าฮาลาล สินค้าสุขภาพและความงาม สินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ตลอดจนสินค้าและบริการอื่น ๆ เพื่อบุกตลาดเมืองรองและย่านเศรษฐกิจสำคัญ รวมทั้งการส่งเสริมผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน และเร่งรัดการจัดทำ Mini FTA กับมณฑลไห่หนานของจีน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า  และทำให้สินค้าไทยเข้าถึงตลาดที่มีจำนวนคนและกำลังซื้อมหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ


อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงเศรษฐกิจการค้าระยะแรกระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 14 ก.พ. 2563 มีเนื้อหาครอบคลุมประเด็นเศรษฐกิจต่าง ๆ รวมถึงการขยายการค้าระหว่างสองประเทศ โดยจีนตกลงที่จะซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากมูลค่าในปี 2560 ไม่น้อยกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในเวลา 2 ปี (1 ม.ค. 2563–31 ธ.ค. 2564) ประกอบด้วย 1. สินค้าอุตสาหกรรม เช่น เครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า ยานพาหนะ 2. สินค้าเกษตร เช่น เมล็ดพืช น้ำมัน เนื้อสัตว์ อาหารทะเล 3. สินค้าพลังงาน เช่น ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน และ 4. บริการ เช่น การท่องเที่ยว การประกันภัย และหลักทรัพย์ โดยเป้าหมายการค้าสินค้า (อุตสาหกรรม เกษตร พลังงาน) รวมเป็นมูลค่าราว 1.62 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 81 ของเป้าหมายการค้าทั้งหมดเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]