fbpx

“การบินไทย” มั่นใจแผนฟื้นฟูผ่านโหวตเจ้าหนี้ 12 พ.ค.นี้

กรุงเทพฯ 2 มี.ค. – “ชาญศิลป์” มั่นใจแผนฟื้นฟูการบินไทยผ่านการโหวตจากเจ้าหนี้ 12 พ.ค.นี้ พร้อมเดินหน้าหาเงินกู้-ทุนใหม่ 50,000 ล้านบาท มาเสริมสภาพคล่องใน 2 ปี ส่วนกลางปีเดินหน้าเปิดเส้นทางบินต่างประเทศ เน้นยุโรป “แฟรงก์เฟิร์ต-ปารีส-ซูริก-ลอนดอน-โคเปนเฮเกน” ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ มั่นใจกลับมาทำกำไรในปี 66-67


นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้การบินไทยฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้จัดทำแผนฯ โดยในวันนี้ (2 มี.ค.) การบินไทยได้จัดทำแผนแล้วเสร็จ และยื่นแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นที่เรียบร้อย โดยในแผนฯ ได้ระบุมูลหนี้สินรวมทั้งสิ้น 410,000 ล้านบาท แต่มีมูลหนี้จริงที่การบินไทยยอมรับและเป็นหนี้ก่อนวันที่ 14 ก.ย.63 ที่ 160,000-170,000 ล้านบาท โดยการบินไทยมีเจ้าหนี้ทั้งสิ้น 13,000 ราย ซึ่งแผนที่เสนอจะไม่มีการลดหนี้เงินต้นของเจ้าหนี้ (แฮร์คัท) เพื่อให้เจ้าหนี้ยอมรับแผนฟื้นฟูที่จะมีการโหวต 12 พ.ค.64 อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่า แผนฟื้นฟูฯ ที่เสนอนี้จะผ่านการเห็นชอบแน่นอน และขั้นตอนเมื่อแผนฟื้นฟูฯ ผ่าน จะมีการส่งต่อไปยังศาลล้มละลายกลางตัดสิน ซึ่งคาดว่าตามกรอบเวลาน่าจะเป็นช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.64

ทั้งนี้ การบินไทยได้พยายามเต็มที่ในการจัดเตรียมแผนฟื้นฟูกิจการที่เป็นประโยชน์และเป็นธรรมกับเจ้าหนี้ทั้งหลายมากที่สุด และมั่นใจว่า แผนฟื้นฟูฉบับนี้จะได้รับการยอมรับจากเจ้าหนี้ และได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน โดยในเบื้องต้นคณะผู้ทำแผนฯ เสนอให้นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ และนายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล เป็นผู้บริหารแผนที่จะบริหารและจัดการธุรกิจภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการต่อไป โดยผู้ทำแผนได้เตรียมความพร้อมที่จะดำเนินการตามแผนเอาไว้อย่างดี เช่น เตรียมแผนการประกอบธุรกิจ เตรียมความพร้อมที่จะปรับโครงสร้างองค์กรให้กระชับขึ้น ในส่วนของพนักงาน มีการลดจำนวนผู้บริหาร อีกทั้งยังลดขั้นตอนการบังคับบัญชา เพื่อให้การดำเนินงานต่างๆ คล่องตัวขึ้น โดยคณะผู้ทำแผนจึงมั่นใจได้ว่า ผู้บริหารแผนจะสามารถดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ เพื่อให้การบินไทยกลับมาประกอบธุรกิจได้อย่างยั่งยืนในฐานะสายการบินแห่งชาติของประเทศไทยได้ต่อไป


“การบินไทยจะไม่มีการแฮร์คัทเจ้าหนี้ แต่จะจ่ายเงินต้น เป็นลักษณะการผ่อนจ่าย โดยการบินไทยจะไม่ขอจ่ายลูกหนี้ใน 3 ปีแรก เพราะมีปัญหาเรื่องกระแสเงินสด แต่จะเริ่มจ่ายเจ้าหนี้ในปีที่ 4 อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าจะได้รับความเห็นใจและเห็นชอบจากเจ้าหนี้ ส่วนกรณีที่ว่า มูลหนี้ที่เสนอศาลฯ อยู่ที่ 410,000 ล้านบาท แต่ทำไมการบินไทยแจ้งยอมรับหนี้ที่มีอยู่จริงเพียง 160,000-170,000 ล้านบาทนั้น เนื่องจากว่าเจ้าหนี้ได้มีการประเมินหนี้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีก 2-3 ปี ซึ่งการบินไทยมองว่ายังเป็นหนี้ที่ยังไม่เกิดขึ้น”

นายชาย เอี่ยมศิริ รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการเงินและการบัญชี การบินไทย กล่าวต่อว่า ในแผนฟื้นฟูฯ การบินไทยจะมีการลดรายจ่าย สร้างรายได้ในการดำเนินการภายในบริษัททั้งหมด เช่น เพิ่มรายได้ทั้งจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบิน (Flight Business) และธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบิน (Non-Flight Business) ส่วนการลดค่าใช้จ่าย คือ การปรับลดขนาดองค์กร ซึ่งวางเป้าหมายที่จะปรับลดจำนวนพนักงานที่เป็นพนักงานสัญญาจ้าง (Outsource) พนักงานที่เกษียณหรือลาออก และพนักงานผู้เสียสละเข้าร่วมโครงการร่วมใจจากองค์กร ในโครงการร่วมใจจากองค์กร MSP A จากที่เหลืออยู่ 21,000 คน ลดลงอีก โดยในปี 64 จะมีพนักงานเข้าร่วมโครงการร่วมใจจากองค์กร ในโครงการ MSP B และ MSP C อีกประมาณ 6,000-7,000 คน ซึ่งจะทำให้มีพนักงานคงเหลือประมาณ 14,000-15,000 คน ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายในเรื่องบุคลากรของการบินไทยลดลงเหลือเพียง 13% เท่านั้น จากเดิมมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้กว่า 23%

นอกจากนั้น การบินไทยยังมีแผนในการลดขนาดฝูงบิน และปรับลดแบบเครื่องบินจาก 12 แบบ เหลือ 5 แบบ ปรับลดแบบเครื่องยนต์จาก 9 แบบ เหลือ 4 แบบ เพื่อให้สอดคล้องกับอุปสงค์ของอุตสาหกรรมการบิน และความต้องการในการใช้เครื่องบิน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงยังได้มีการเจรจากับบริษัทที่ให้เช่าเครื่องบิน ให้ลดค่าเช่า และจ่ายเงินการใช้งานตามการใช้จริงของเครื่องบิน ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลดลงในระยะยาวกว่า 40% อย่างไรก็ตาม จากมาตรการลดต้นทุนต่างๆ นั้น มั่นใจว่า จะทำให้การบินไทยมีเงินเหลือประมาณ 36,000 ล้านบาท และภายในปี 65 จะมีเงินเหลือจากต้นทุนกว่า 58,000 ล้านบาท ซึ่งจากปัจจัยต่างๆ ทำให้มีการประมาณการว่า การบินไทยจะกลับมาทำกำไรได้ในปี 66-67


นายชาย กล่าวต่อว่า แม้ว่าจะดำเนินการตามมาตรการลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ก็ตาม การบินไทยก็ยังมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องหาเงินทุนจากผู้ร่วมทุนใหม่ หรือเงินกู้ จำนวนกว่า 50,000 ล้านบาท มาเสริมสภาพคล่องภายใน 2 ปีนี้ โดยเบื้องต้นระยะเร่งด่วนภายในกลางปี 64 การบินไทยจะต้องใช้เงินจำนวนกว่า 30,000 ล้านบาท มาใช้ในการจัดการในบริษัท ทั้งเรื่องเงินเดือน และเงินชดเชยพนักงานในส่วนต่างๆ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ในส่วนของผู้ร่วมทุนใหม่นั้นได้มีการเจราจาบ้างแล้ว แต่ขณะนี้ไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนการกู้เงินก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งของการดำเนินการ

นายนนท์ กลินทะ รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการพาณิชย์ การบินไทย กล่าวว่า ในแผนฟื้นฟูฯ การบินไทยจะเน้นการทำตลาดที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้า และความต้องการของผู้โดยสารเป็นหลัก เช่น ให้ผู้โดยสารสามารถเลือกความต้องการของที่นั่ง เลือกน้ำหนักการโหลดกระเป๋าได้ ขณะเดียวกัน จะมีโปรโมชั่นราคาค่าโดยสารที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากนั้น การทำตลาดการบินจะเน้นโค้ดแชร์ร่วมกับสายการบินพันธมิตรมากขึ้น และในเดือน ก.ค.นี้ การบินไทยจะกลับมาทำการบินเชิงพาณิชย์ในเส้นทางบินต่างประเทศ ในเส้นทางยุโรป 5 จุดบิน ประกอบด้วย เส้นทางบิน ปารีส แฟรงก์เฟิร์ต โคเปนเฮเกน ลอนดอน ซูริก ส่วนภูมิภาคเอเซีย จะทำการบิน ญี่ปุ่น ในเส้นทางบิน โอซากา ฮาเนดะ นาโกยา ส่วน เกาหลี ทำการบิน อินชอน มะนิลา จาร์การ์ตา เป็นต้น. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง