ศบ.ทก. เผย GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย จ่อชง สมช.-ครม.นัดพิเศษ

ทำเนียบ 6 ส.ค.- ศบ.ทก. เผยข่าวดี ที่ประชุม GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย พร้อมเตรียมเสนอให้ สมช. – ครม. นัดพิเศษ พิจารณาเย็นนี้ ก่อน รมช.กห. เดินทางร่วมลงนามพรุ่งนี้ ด้าน กต. เตรียมประชุมทูตทั่วโลก เพื่อชี้แจงสถานการณ์ให้นานาชาติเข้าใจ หลังพาองค์การระหว่างประเทศเยี่ยม 18 เชลยศึก ขณะที่ผ่อนปรนให้โดรนเพื่อการเกษตรบินได้หลัง 15 ส.ค.นี้


พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทบ.) และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับนางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ภายหลังจากการประชุมความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

พลเรือตรีสุรสันต์ แถลงว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในส่วนของความมั่นคงในห้วงที่ผ่านมา สถานการณ์โดยทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ มีการเสริมที่มั่นทางทหารในพื้นที่บางส่วน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใด ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเช่นเดียวกันก็มีการตรวจพบว่ามีการใช้โดรนเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในสถานการณ์ไทยห้ามบินโดรนทั่วประเทศ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงยังเข้มงวดในการสกัดกั้น ตรวจตรา ตรวจสอบ รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 15 สิงหาคมนี้


ส่วนสถานการณ์บริเวณช่องอานม้า ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามตัดลวดหนามที่ฝ่ายไทยได้วางไว้ ตามขอบเขตอธิปไตยของไทย ปัจจุบันกำลังทหารในพื้นที่ของทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยเจรจาเรียบร้อยแล้ว ไม่มีการกระทบกระทั่งใด ๆ สถานการณ์อยู่ในสภาวะปกติ ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการวางลวดหนามชุดใหม่ทดแทนชุดเดิมที่ถูกตัดไปเรียบร้อยแล้ว

ต่อมา การดำเนินการต่อบุคคลที่ถูกจับกุมและเป็นคนต่างด้าว ขอยืนยันให้พี่น้องประชาชนได้เชื่อมั่นและมั่นใจ ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเข้มงวดในการตรวจตราและดำเนินการจับกุมต่อบุคคลต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมามีการจับกุม ดำเนินการและดำเนินคดีไปบ้างแล้ว โดยหลักการการปฏิบัติ คือ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการปฏิบัติการเชิงรุกในการตรวจค้นขยายผล โดยการสืบสวนสอบสวนขยายผลเกี่ยวกับผู้ที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยหรือคนต่างด้าวที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อเป็นข้อมูลด้านความมั่นคง ได้ประสานกับหน่วยงานความมั่นคงต่าง ๆ โดยแจ้งเบาะแส รายละเอียดต่าง ๆ ให้หน่วยงานด้านความมั่นคงได้ทราบด้วยเช่นเดียวกัน ในลักษณะการแชร์ข้อมูล เพื่อเป็นการป้องกันป้องปรามการขยายใช้ข่าว การรายงานข่าวที่อาจบิดเบือนและที่มีผลทางด้านความมั่นคง หากมีการตรวจสอบแล้ว ทางฝ่ายความมั่นคงพิสูจน์ทราบแล้วยังไม่มีประเด็นใด ๆ ที่น่าเป็นห่วง บุคคลต้องสงสัยนั้นก็จะถูกผลักดันออกนอกประเทศและขึ้นทะเบียนไว้ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และหากพบว่านอกจากบุคคลนั้นเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายแล้ว ทำผิดกฎหมายในเรื่องอื่น ๆ ก็จะดำเนินการตามคดีตามกฎหมายของไทยที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกด้วย

พลเรือตรีสุรสันต์ ยังกล่าวถึงเรื่องการใช้โดรนในช่วงเวลาที่ผ่านมา ที่มีการตรวจพบการใช้โดรนเพิ่มมากขึ้น จึงขอเน้นย้ำว่าประเทศไทยยังไม่อนุญาตให้มีการบินโพรนทุกชนิด ทุกประเภท ทั่วประเทศ จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2568 ตามประกาศ ของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย อย่างไรก็ตามในวันนี้ในที่ประชุมศบ.ทก.มีการพูดคุยเรื่องการผ่อนปรนการบินโดรนเกษตร ในบางพื้นที่ ภายหลังวันที่ 15 สิงหาคม ด้วยเห็นว่าพี่น้องเกษตรกรมีความจำเป็นและเดือดร้อน จำเป็นต้องใช้โดรนเพื่อการเกษตร ซึ่งโดรนการเกษตรที่จะขึ้นบินต้องผ่านการขึ้นทะเบียน การหารือมีประเด็นว่าโดรนเกษตรที่จะใช้ต้องผ่านการขึ้นทะเบียนผู้บังคับหรือผู้ควบคุมอากาศยาน และมีการลงทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฏหมาย ผ่านระบบ UAS Portal ของสำนักงานการบินพลเรือน การบินสามารถบินได้เฉพาะเวลากลางวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 18.00 น. การลงทะเบียนไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ซึ่งจะมีประกาศเรื่องการผ่อนปรนการบินโดรนให้ประชาชนทราบต่อไป


พร้อมเน้นย้ำ ปัจจุบันผู้ซื้อโดนที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป มีหน้าที่จะต้องลงทะเบียนที่จุดขายคล้ายกับการซื้อซิมโทรศัพท์มือถือ

ในส่วนของความมั่นคงการประชุม GBC เมื่อคืนนี้ คณะเลขานุการ GBC ของทั้งสองฝ่ายได้ประชุมเจรจาหารือจนถึงเวลา 24.15 น. เนื่องจากทางฝ่ายเลขาของกัมพูชาไม่สามารถตัดสินใจ ตกลงใจได้ในบางหัวข้อจึงต้องส่งเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้กลับไปให้พนมเปญพิจารณาก่อน จนทำให้เกิดความล่าช้าในการตกลงใจ จนกระทั่งเมื่อเช้านี้ มีข่าวดีที่ทั้งสองฝ่ายสามารถสรุปข้อตกลงได้และปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารให้ประธานของทั้งสองฝ่ายพิจารณา ขอเน้นย้ำว่าเป็นการตกลงระหว่างฝ่ายเลขาฯ ร่วม ยังไม่ถือว่าเป็นข้อตกลงสุดท้ายของประชุมนี้ โดยฝ่ายไทยจะนำเรื่องข้อสรุปเสนอเข้าที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในช่วงบ่ายวันนี้ ที่จะมีการประชุม สมช. ร่วมกับการประชุม ครม.วาระพิเศษด้วย เพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป ก่อนที่ประธานฝ่ายไทยจะเดินทางไปประชุม GBC ในวันพรุ่งนี้ที่ประเทศมาเลเซีย

ด้านนางมาระตี แถลงถึงการเยี่ยมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเชลยศึกของผู้แทนคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) เมื่อวานนี้ที่กองทัพบกและกระทรวงการต่างประเทศได้นำคณะเจ้าหน้าที่สำนักงานภูมิภาคของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ เข้าเยี่ยมเชลยศึกชาวกัมพูชาที่อยู่ระหว่างการถูกควบคุมตัว 18 นาย ขอย้ำว่าเป็นการริเริ่มฝ่ายไทย เพื่อแสดงเห็นถึงความโปร่งใสในการดำเนินการการปฎิบัติตามหลักมนุษยธรรม และการปฏิบัติตามหลัก ICRC ของฝ่ายไทย ตามกฎหมายอย่างครบถ้วนและเคร่งครัด สำหรับการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป กระทรวงการต่างประเทศทั้งที่กรุงเทพฯ และผ่านคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา จะดำเนินการเชิงรุกเพื่อประสานงานกับทั้งสำนักงานภูมิภาคในประเทศไทย และสำนักงานใหญ่ของ ICRC ที่นครเจนีวาอย่างใกล้ชิด และพร้อมให้ความร่วมมือ ชี้แจงข้อมูลการดำเนินงานของฝ่ายไทย

นางมาระตี ยังเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) กระทรวงการต่างประเทศจะจัดการประชุมออนไลน์ กับเอกอัครราชทูต เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรและกงสุลใหญ่ของไทยทั่วโลก เพื่อย้ำการดำเนินการเชิงรุกของทีมประเทศไทย ในการเดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริงที่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์และพิสูจน์ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลและสื่อมวลชนต่างประเทศ ตลอดจนประชาคมโลกเข้าใจผิดจากการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ข้อมูลบิดเบือนอย่างเป็นระบบของฝ่ายกัมพูชาที่มีออกมาอย่างแพร่หลายมากจนถึงปัจจุบัน พร้อมยืนยันจุดยืนของไทยให้ประชาคมโลก นานาประเทศ ได้รับทราบต่อเนื่องจากการเข้าร่วมกิจกรรมเสวนาที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ และการจัดการบรรยายสรุปแก่คณะฑูตและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศประจำประเทศ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา

ในส่วนของการประชุมออนไลน์ในวันพรุ่งนี้ จะได้รับทราบข้อมูลล่าสุดเพื่อทำความเข้าใจกับรัฐบาล องค์การระหว่างประเทศ สื่อมวลชนท้องถิ่น และภาคส่วนอื่น ๆ เพื่อเน้นหลักการของไทยที่ต้องการยุติความขัดแย้ง โดยสันติวิธีและกลับสู่การเจรจากับกัมพูชาบนพื้นฐานความจริงใจ ความสุจริตใจ

สุดท้ายนี้ ในช่วงเวลานี้การเผยแพร่ข่าวปลอม ข่าวบิดเบือนจากฝ่ายกัมพูชา และการใส่ร้ายฝ่ายไทยถึงขั้นแต่งนิยาย มีความถี่มากขึ้นเป็นพิเศษในช่วงเวลานี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทีมไทยแลนด์อยู่ที่มาเลเซีย กำลังเจรจาในกรอบ GBC อยู่ ขอเรียนว่าฝ่ายไทยเชื่อมั่นว่าการรักษาบรรยากาศที่ดีโดยไม่ใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่ง จะเป็นส่วนสำคัญที่จะลดความตึงเครียดระหว่างสองประเทศเพื่อประโยชน์ของประชาชนของทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ประโยชน์ของฝ่ายรัฐบาลอย่างเดียว บรรยากาศที่จะเอื้อต่อการเจรจาในกรอบเจรจา GBC มีความสำคัญมาก จะยกระดับขึ้นเป็นระดับรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมในวันพรุ่งนี้ ซึ่งขอให้ทุกท่านทั้งที่อยู่ที่มาเลเซียแล้วและทีมงานที่จะเดินทางไปพร้อมกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมประสบความสำเร็จในภารกิจนี้

นางสาวศศิกานต์ ระบุว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับทุกชีวิต ขอยืนยันว่าการเยียวยาทุกอย่างจะเป็นไปอย่างรอบด้าน ครบทุกมิติ มีมาตรฐาน ให้เกียรติผู้เสียสละอย่างสูงสุด ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้ได้มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์กรอบอัตราการเยียวยา ตามข้อเสนอของสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยอ้างอิงจากข้อมูลสถิติรายได้ประชาชาติและอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในพื้นที่ชายแดน ทั้งนี้เพื่อสะท้อนมูลค่าความเสียหายและความสูญเสียที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เป็นส่วนเพิ่มเติมจากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ที่อนุมัติไปก่อนหน้านี้แล้ว

สำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่แนวหน้า หากถึงแก่ชีวิตหรือทุพพลภาพ จะได้รับเงินเยียวยารวม 10 ล้านบาทต่อราย และ 8 ล้านบาทต่อรายสำหรับพลเรือน ในส่วนที่มากกว่าของเจ้าหน้าที่รัฐ คือ ค่าเสี่ยงภัย กรณีบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่จะได้รับเงิน 1 ล้านบาท และพลเรือน 800,000 บาท กรณีบาดเจ็บมากเจ้าหน้าที่รัฐจะได้รับ 500,000 บาท พลเรือน 400,000 บาท นอกจากนี้คณะรัฐมนตรียังได้มีมติอนุมัติกรอบงบประมาณเบื้องต้น จำนวน 404.6 ล้านบาทจากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณะภัย และงบกลางเพื่อเยียวยาความเสียหายในครั้งนี้

ในส่วนของระเบียบปกติได้เริ่มดำเนินการจ่ายเงินไปแล้ว แต่ในส่วนเพิ่มเติมที่ครม.เพิ่งอนุมัติมาจะทำให้เร็วที่สุด และในกรณีที่บางเคสไม่ได้รวมอยู่ในหลักเกณฑ์ รัฐบาลกำลังพิจารณาความช่วยเหลืออย่างเร็วที่สุดเช่นกัน ทั้งนี้รัฐบาลยังมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจและประเมินความเสียหายด้านทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามลำดับขั้นตอนอย่างรวดเร็วที่สุด -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ถก สมช.-ครม.นัดพิเศษ พิจารณาข้อตกลงหยุดยิง

ทำเนียบรัฐบาล 6 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ พิจารณาข้อตกลงหยุดยิงไทย-กัมพูชา ด้าน “บิ๊กเล็ก” ตั้งเกณฑ์วัดความจริงใจกัมพูชา 3 ระดับ บอกผ่าน GBC ระดับเลขาฯ แล้ว เบื้องต้นบรรลุข้อลงหยุดยิง ตามข้อเสนอ 8 ข้อ ขอรอดูปฏิบัติจริง ย้ำ MOU43 ยังมีประโยชน์เป็นข้ออ้างกล่าวหาเขมรได้-ขอสบายใจ ยึดประโยชน์ชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีรัฐพิเศษเพื่อที่จะรับรองข้อตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ภายหลังคณะเลขานุการ GBC ไทย ได้เดินทางไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อหารือในวงเล็กมาก่อนหน้านี้ โดยบรรยากาศการประชุมมีบรรดารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอาทิ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายชูศักดิ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย รวมถึงคณะเลขานุการ GBC เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง พลเอกณัฐพล เปิดเผยก่อน การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) […]

ศบ.ทก. เผย GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย จ่อชง สมช.-ครม.นัดพิเศษ

ทำเนียบ 6 ส.ค.- ศบ.ทก. เผยข่าวดี ที่ประชุม GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย พร้อมเตรียมเสนอให้ สมช. – ครม. นัดพิเศษ พิจารณาเย็นนี้ ก่อน รมช.กห. เดินทางร่วมลงนามพรุ่งนี้ ด้าน กต. เตรียมประชุมทูตทั่วโลก เพื่อชี้แจงสถานการณ์ให้นานาชาติเข้าใจ หลังพาองค์การระหว่างประเทศเยี่ยม 18 เชลยศึก ขณะที่ผ่อนปรนให้โดรนเพื่อการเกษตรบินได้หลัง 15 ส.ค.นี้ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทบ.) และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับนางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ภายหลังจากการประชุมความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือตรีสุรสันต์ แถลงว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในส่วนของความมั่นคงในห้วงที่ผ่านมา สถานการณ์โดยทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ มีการเสริมที่มั่นทางทหารในพื้นที่บางส่วน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใด ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเช่นเดียวกันก็มีการตรวจพบว่ามีการใช้โดรนเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในสถานการณ์ไทยห้ามบินโดรนทั่วประเทศ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงยังเข้มงวดในการสกัดกั้น ตรวจตรา ตรวจสอบ รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 15 […]

กกพ.จี้ MEA แจงปัญหาไฟดับ

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จี้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) แจ้งปัญหาไฟดับเป็นบริเวณกว้าง ด้านประชาชนแห่คอมเมนต์ผลกระทบและต้องการเห็นการชดเชย จากปัญหาความเดือดร้อนคนกรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ส.ค.) เวลา 22.12 น. เกิดไฟดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ย่านสะพานควาย เขตพญาไท ถ.ประดิพัทธ์ และ ถ.พระรามที่ 6 และ MEA แก้ไขจนจ่ายครบเวลา 23.50 น. ทางสำนักงาน กกพ.แจ้งว่าได้ประสานให้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) รายงานข้อเท็จจริง และแนวทางการแก้ไขและป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ในขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่างระบุเดือดร้อนจากเหตุไฟดับ ต้องการให้ MEA ชี้แจงสาเหตุที่ชัดเจน บางส่วนก็ชื่นชม แก้ปัญหาได้รวดเร็ว บางส่วนก็ต้องการเห็น การชดเชยจาก MEA เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยไฟดับทั้งอาคาร ดับทั้งไฟสาธารณะ ไฟจราจร สัญญาณอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ MEA ชี้แจงเบื้องต้นสาเหตุเกิดจากความขัดข้องทางเทคนิคของอุปกรณ์ในสถานีไฟฟ้าย่อย ในระหว่างการเตรียมการเพื่อปฏิบัติงานปรับปรุงระบบจ่ายไฟฟ้าตามปกติ, ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือภัยคุกคามทางไซเบอร์ สาเหตุที่แท้จริงของอุปกรณ์ขัดข้องจะชี้แจงต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า […]

ตำรวจเตรียมสอบเชิงลึกชาย BHQ หวั่นเป็นไส้ศึก

บุรีรัมย์ 6 ส.ค.-ตำรวจสอบปากคำชายชาวกัมพูชา พบใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ อ้างเคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การ เกรงแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับ กรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมชายชาวกัมพูชา ได้ที่บ้านพักภรรยาคนไทยและมีเครื่องแบบทหารพร้อมตราสัญลักษณ์ BHQ จากการสอบปากคำ เคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว มาทำงานอยู่ไทย แล้วถูกสวมชื่อ จากการตรวจสอบพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน และอ้างว่าเมื่อก่อนเข้ามาอย่างถูกต้อง แต่ล่าสุดมีการลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทาง จ.สระแก้ว โดยอ้างว่าจ่ายเงินบุคคลที่พาเข้า 4,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงว่าอาจจะแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับคอยส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความมั่นคงของไทย ไปให้ฝั่งกัมพูชา จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบมีรูปถ่ายกายแต่งกายทหารและถือปืน เบื้องต้นทางตำรวจจะดำเนินคดีมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย