กรุงเทพฯ 2 ก.ย. – GCNT ปลุกพลังภาคธุรกิจไทยใช้พลังความยั่งยืนฟื้นประเทศ ตั้งเป้าเทียบเชิญ 200 องค์กรธุรกิจในไทยร่วมเป็นสมาชิก ประกาศหนุนผลักดันบริษัทไทยจัดทำรายงานความยั่งยืน
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะนายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (GCNT) กล่าวว่า หลังเผชิญวิกฤติโควิด-19 ยิ่งถือเป็นบทบาทสำคัญของภาคเอกชนที่จะต้องช่วยคลี่คลายผลกระทบทั้งด้านชีวิตและทางเศรษฐกิจผ่านความร่วมมือในการสร้างความยั่งยืนและความมั่นคงในการดำเนินชีวิตให้ผู้คนหลายล้านคน อาทิ การสร้างความมั่นคงทางชีวิตให้นักเรียนนักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบและหางานทำได้ยากในภาวะเช่นนี้ ดังนั้น จึงเป็นบทบาทสำคัญของภาคเอกชนในการมีส่วนร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤติโควิด-19 โดยการแสดงความมั่นใจในเรื่องการลงทุนอย่างต่อเนื่องของภาคเอกชน และความพยายามที่จะทำให้เกิดการจ้างงานต่อเนื่อง ตลอดจนขยายธุรกิจโดยคำนึงถึงการเพิ่มการจ้างงานมากขึ้น
“ภาคธุรกิจเอกชนไม่ได้แค่ช่วยให้ตัวเองรอด แต่จะต้องฝ่าด่านร่วมไปกับภาครัฐ ภาคส่วนต่าง ๆ ดังนั้น การระดมสรรพกำลัง การแบ่งปันองค์ความรู้ และการแบ่งปันหลักการด้านความยั่งยืน สู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพื่อการรักษาความมั่นคงทางชีวิต ตลอดจนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อระบบสังคมถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องผนึกกำลังกัน และต้องไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทย แต่เป็นความร่วมมือที่เชื่อมโยงกันทั่วโลก การรวมตัวของบรรดาบริษัทและองค์กรธุรกิจในสมาคม Global Compact ทั่วโลก จึงเป็นสิ่งสำคัญในการที่โลกจะกลับมาได้ดีกว่าเดิม กลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม” นายศุภชัย กล่าว
สำหรับเป้าหมายของ GCNT คือ เพิ่มสมาชิกที่ขณะนี้มี 60 องค์กรธุรกิจให้ได้ถึง 200 องค์กรทั้งกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ กลาง เล็ก เพื่อผสานความร่วมมือด้านความยั่งยืนที่เข้มแข็งมากขึ้น ตลอดจนการเร่งสร้างความตระหนักรู้ให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็นทั้งอาสาสมัคร นักศึกษา ผู้นำรุ่นใหม่ เพื่อมาเป็นผู้ช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ทำให้เข้าใจหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งระบบและตระหนักรู้อย่างแท้จริง
นายศุภชัย กล่าวว่า GCNT พร้อมสนับสนุนแนวทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ผลักดันให้ภาคเอกชนต้องมีส่วนร่วมและนำเป้าหมายความยั่งยืนไปดำเนินการอย่างจริงจัง ด้วยการให้บริษัทต่าง ๆ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำรายงานด้านความยั่งยืน รวมทั้งมีการตรวจสอบรายงานจะช่วยต่อยอดเรื่องธรรมาภิบาล ความโปร่งใส ทั้งยังช่วยขับเคลื่อนมิติของประเทศไทยในเรื่องของความยั่งยืนได้อย่างมีนัยยะสำคัญ.-สำนักข่าวไทย