เดินหน้าขับเคลื่อนท่องเที่ยวฟื้นประเทศ

ทำเนียบรัฐบาล 12 ม.ค.-โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ เดินหน้าฟื้นประเทศตามแนวคิดอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ นิว แชปเตอร์ ภายใต้การรักษาสมดุลทางเศรษฐกิจ -มาตรการสาธารณสุขเคร่งครัด


นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเดินหน้าแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวในปีนี้ ซึ่งเป็นปีท่องเที่ยวไทย โดยกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกำหนดโปรโมทการท่องเที่ยวไทยภายใต้แนวคิด อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ นิว แชปเตอร์(Amazing Thailand New Chapter) จุดขายใหม่ด้านการท่องเที่ยวของไทยภายในเดือนมกราคมนี้ รวมถึงเดินหน้าจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวสีขาว สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (BCG) ในภาคการท่องเที่ยว ที่จะช่วยให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและปลอดภัยขึ้น

“ช่วงไตรมาส 2 ช่วงเดือนเมษายน วางแผนจะเก็บเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทย 300 บาทต่อคน หรือเรียกกันว่าค่าเหยียบแผ่นดิน เพื่อนำเงินที่ได้รับไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในไทย และทำประกันให้แก่นักท่องเที่ยวกรณีประสบอุบัติเหตุ หรือเสียชีวิตจะได้รับวงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท หรือค่ารักษาพยาบาล ได้รับสูงสุด 5 แสนบาท เป็นต้น โดยวางแผนเก็บรวมกับค่าตั๋วเครื่องบินกรณีเดินทางทางอากาศ และอยู่ระหว่างการพิจารณาวิธีการเรียกเก็บจากการเดินทางทางบก” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว


นายธนกร กล่าวว่า ปีนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ คาดว่าไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 1.3-1.8 ล้านล้านบาท คาดว่าจะมีต่างชาติเที่ยวไทยประมาณ  5-15 ล้านคน สร้างรายได้ราว 8 แสนล้านบาท โดยประเมินว่าหากสถานการณ์ยังเป็นเหมือนปกติทั่วไป หากมีนักท่องเที่ยวจากยุโรปและสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก ไทยน่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5 ล้านคน ถ้ามีอินเดียเพิ่มเข้ามาจะได้ถึง 7 ล้านคน และหากจีนเปิดให้คนออกนอกประเทศได้ หลังกลางปีนี้ไปแล้วน่าจะมีประมาณ 9 ล้านคน นอกจากนี้หากเปิดชายแดนให้เที่ยวได้ ซึ่งจะมี เมียนมา ลาว มาเลเซีย ซึ่งน่าจะได้ถึง 15 ล้านคน ส่วนการเดินทางเที่ยวในประเทศ คาดว่าจะอยู่ที่ 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ราว 7 แสนล้านบาท ซึ่งในปีนี้ภาครัฐยังเดินหน้าโครงการกระตุ้นไทยเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง

“แม้จะมีโอไมครอน แต่การคาดการณ์ท่องเที่ยวในปี 65 จะยังคงยืนเป้าหมายนี้ไว้อยู่เพื่อเป็นเป้าหมายสำหรับการทำงานต่อไป ล่าสุดระเทศในแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกาเลิกล็อกดาวน์แล้วเพราะได้รับการฉีดวัคซีน และแม้โอไมครอนจะแพร่กระจายเชื้อเร็ว แต่ความรุนแรงของอาการน้อยกว่าเดลต้า นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ทุกหน่วยงานติดตามประเมินสถานการณ์ทั้งภายในประเทศ และศึกษากรณีของต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนเดินหน้าฟื้นประเทศภายใต้การรักษาสมดุลทางเศรษฐกิจและสาธารณสุขต่อไป ในส่วนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ได้เตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ซึ่งทุกโครงการจะดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด”  นายธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

มือเผาพ่อค้าแตงโม สารภาพทำคนเดียว อ้างแค้นปมชู้สาว

“เพลิน พรมด้วง” มือราดน้ำมันจุดไฟเผาพ่อค้าแตงโม รับสารภาพทำคนเดียว อ้างแค้นอีกฝ่ายเป็นชู้กับภรรยา และยังเอารถกระบะที่ใช้ทำกินไปขายแตงโมเย้ยต่อหน้าต่อตา