PwC คาดมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยปีนี้สูงกว่า 200,000 ล้านบาท

กรุงเทพ ฯ 30 ก.ค. – PwC คาดมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยปีนี้สูงกว่า 200,000 ล้านบาท หลังพบผู้บริโภคแห่ชอปปิ้งออนไลน์โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านสุขภาพ


นางสาว วิไลพร ทวีลาภพันทอง หุ้นส่วนสายงานธุรกิจที่ปรึกษา บริษัท PwC ประเทศไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจมุมมองผู้บริโภคทั่วโลกของ PwC ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำผู้บริโภคไทยปรับตัวไปสู่ดิจิทัลมากขึ้นภายในเวลาชั่วพริบตา โดยในช่วงล็อกดาวน์คนหันมาชอปปิงออนไลน์กันเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งคาดว่า ยอดขายของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในช่วงเวลานี้จะเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว และผลักดันให้ปีนี้มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยน่าจะสูงกว่า 200,000 ล้านบาท สำหรับสินค้าที่ผู้บริโภคหันมาชอปปิงออนไลน์เพิ่มมากมีตั้งแต่สินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ อย่าง หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ อาหารออร์แกนิก รวมไปถึงเทคโนโลยีเกี่ยวกับสุขภาพ เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพและความเป็นอยู่มากขึ้น
นอกจากนี้ ผู้บริโภคไทยยังปรับตัวไปสู่สังคมไร้เงินสดมากขึ้น โดยหันมาใช้บริการอีเพย์เมนต์เพราะนอกจากจะได้รับความสะดวกสบายในการชอปปิงออนไลน์แล้ว ยังเป็นการช่วยหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเงินสดซึ่งอาจเป็นแหล่งของเชื้อโรค ซึ่งตอนนี้ห้างสรรพสินค้า และ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่กลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งก็หันมาเพิ่มช่องทางการชำระด้วยผ่านดิจิทัลเพย์เมนต์กัน ฉะนั้น ธุรกิจที่หันมามุ่งเน้นทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์จะต้องมีระบบป้องกันความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า และภัยไซเบอร์ในด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจให้กับผู้บริโภค
ผลสำรวจมุมมองผู้บริโภคทั่วโลกของ PwC พบว่าการใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้บริโภครวมถึงวิธีที่พวกเขาจับจ่ายใช้ของชำและของใช้ที่จำเป็นด้วย โดยพบว่า แม้การซื้อสินค้าที่ร้านขายของชำยังคงเป็นช่องทางหลักที่ผู้บริโภคเลือกใช้ แต่รายงานระบุว่า มากกว่า 1 ใน 3 (35%) ของผู้บริโภคที่ถูกสำรวจ หันมาใช้ช่องทางออนไลน์ในการซื้อหาอาหาร ขณะที่ 86% ของผู้ที่ซื้อสินค้าออนไลน์ในเวลานี้มีแผนที่จะใช้ช่องทางนี้เพื่อซื้อสินค้าต่อไป หลังมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมจะถูกยกเลิกไปในที่สุด
สำหรับสินประเภทค้าอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารนั้น ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัส การซื้อสินค้าที่ร้านค้ายังเป็นตัวเลือกหลักเมื่อเปรียบเทียบกับช่องทางออนไลน์ โดย 47% ของผู้บริโภคกล่าวว่า พวกเขาจับจ่ายสินค้าที่ร้านค้าเป็นประจำทุกวันหรือทุกสัปดาห์เปรียบเทียบกับการชอปปิงออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ (30%) คอมพิวเตอร์ (28%) และผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะ (15%) แต่หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นต้นมา การชอปปิงออนไลน์สำหรับรายการที่ไม่ใช่อาหารได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ผ่านโทรศัพท์มือถือ 45%, คอมพิวเตอร์ 41% และ แท็บเล็ต 33% ซึ่งแนวโน้มของการชอปปิงออนไลน์ที่เติบโตนี้ เห็นได้เด่นชัดในสาธารณรัฐประชาชนจีน และตะวันออกกลาง โดย 60% และ 58% ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่า พวกเขาหันมาชอปปิงผ่านโทรศัพท์มือถือมากขึ้น . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-กลาง อากาศร้อนจัดบางพื้นที่

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคกลาง อากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัด ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้