กรุงเทพฯ 22 เม.ย. – ตลอดทั้งวันทั้งคืน เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าค้นหาและนำร่างผู้ติดอยู่ใต้ซากตึก สตง. ออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนการปฏิบัติงานนำเศษปูนและเศษเหล็กออกจากซากอาคาร วานนี้ (21 เม.ย.) ขนได้ 281 เที่ยว ซึ่งเพิ่มมากขึ้น
นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.) รายงานความคืบหน้ากรณีค้นหาผู้สูญหายใต้ตึก สตง. ว่าเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา มีการพบร่างที่สมบูรณ์ 4 ร่าง บริเวณโซน C1 ลึกลงไป 2-3 เมตร เป็นกลุ่มคนที่ทำงานอยู่ที่ชั้น 19 ของอาคาร และยังพบชิ้นส่วนอวัยวะอีก 6 ชิ้น ดังนั้น จึงมีการส่งชิ้นส่วนอวัยวะให้นิติเวชเพื่อระบุอัตลักษณ์ รวมทั้งสิ้น 207 ชิ้น
ส่วนการปฏิบัติงานเพื่อนำเศษปูนและเศษเหล็กออกจากซากอาคาร เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ขนได้ 242 เที่ยว ส่วนวานนี้ (21 เม.ย.) ขนได้ 281 เที่ยว ซึ่งเพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับพื้นที่เก็บหลักฐานของการรถไฟฯ ที่ขยายพื้นที่เก็บหลักฐานซากอาคารมากยิ่งขึ้น สำหรับความสูงของซากอาคารในโซน A และ D มีความสูง 11.51 เมตร ขณะนี้เหลือเพียง 10.52 เมตร ส่วนโซน B และ C จากความสูง 9.81 เมตร ปัจจุบันเหลือ 9.36 เมตร นอกจากนี้ยังมีทีมตัดเหล็กด้วยแก๊สจากทหารบก 3 ชุด จากทหารเรืออีก 3 ชุด ผลัดเปลี่ยนกำลังกัน
ปัญหาอุปสรรคขณะนี้คือ การล้าของเครื่องจักรจากการใช้งานหนักและต่อเนื่องตลอดเวลา มีการซ่อมเครื่องจักรที่เป็นเคสหนัก 12 เคส ซึ่งจะรีบซ่อมแซมให้เสร็จเพื่อดำเนินงานต่อตามแผนที่กำหนดไว้ ซึ่งเนื้องานตามแผนในวันนี้ (22 เม.ย.) คือการเปิดพื้นที่โซน B ให้ทะลุถึงโซน C ส่วนโซน A และ D จะลดความสูงของซากอาคาร โดยขณะนี้จะถึงสิ้นเดือน หากลดความสูงได้วันละ 1 เมตร จากความสูงอยู่ประมาณ 9 เมตร จะสามารถดำเนินการเข้าถึงชั้น 1 ของอาคารภายในสิ้นเดือน เม.ย.นี้
จากนั้นจะเป็นการปรับแผนการทำงานไปส่วนชั้นใต้ดินแล้ว ซึ่งไม่สามารถทำงานจากด้านข้างเหมือนชั้นปกติได้ จึงเตรียมการและประเมินการดำเนินงานไว้แล้ว โดยต้องประเมินว่าชิ้นส่วนอาคารที่ลงไปอยู่ในชั้นใต้ดิน มีความหนาแน่นเพียงใด ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 21 เม.ย. 68 เวลา 18.00 น. ผู้ประสบภัย 103 ราย เสียชีวิต 51 ราย บาดเจ็บ 9 ราย ติดค้าง 43 ราย.-สำนักข่าวไทย