ttb analytics ประเมินสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าระลอกใหม่ยังไม่กระทบการค้าจีน

กรุงเทพฯ 23 พ.ค.- ttb analytics มองการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ระลอกใหม่ยังไม่กระทบการค้าจีนอย่างมีนัย ชี้จีนใช้ยุทธศาสตร์สร้างความได้เปรียบทางการค้า หวั่นไทยขาดดุลการค้ากับจีนรุนแรงขึ้นในระยะยาว  
 
ภายหลังทำเนียบขาวสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์เมื่อ 14 พ.ค.2567 ปรับขึ้นการจัดเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติมภายใต้มาตรา 301 ซึ่งจะมีผลต่อสินค้านำเข้าจากจีนในหลายกลุ่มเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จาก 25% เป็น 100% รวมถึงแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจาก 7.5% เป็น 25% เซมิคอนดักเตอร์และแผงโซลาร์เซลล์จาก 25% เป็น 50% ตลอดจนเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์จาก 0-7.5% เป็น 25-50% ซึ่งครอบคลุมมูลค่าการนำเข้าราว 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะทยอยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2567 นี้ไปจนถึงปี 2569


ttb analytics มองว่ามาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเพื่อหวังผลประโยชน์ในเชิงยุทธศาสตร์ เนื่องจากการขึ้นภาษีนำเข้าระลอกนี้คิดเป็น 4% ของมูลค่านำเข้าจากจีนของสหรัฐฯ เทียบกับมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ช่วงสงครามการค้าปี 2561 ซึ่งกระทบสินค้านำเข้าจากจีนถึง 66.4% หรือกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ การประกาศยกระดับมาตรการกีดกันทางการค้าในช่วงก่อนเข้าสู่ฤดูกาลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเฉพาะการขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ EV นอกจากจะเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศซึ่งมีมูลค่าถึง 3% ของจีดีพีสหรัฐฯ แล้ว ยังเป็นการแสดงออกเพื่อหวังช่วงชิงคะแนนเสียงให้แก่ประธานาธิบดีไบเดนในรัฐสำคัญที่เป็นแหล่งที่ตั้งหลักของอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งมีโอกาสพลิกผลการเลือกตั้งได้เสมอ (Swing State) เช่น รัฐมิชิแกน และรัฐโอไฮโอ

อีกมุมหนึ่ง สหรัฐฯ ต้องการลดอำนาจการครอบงำตลาดของจีน โดยสินค้าที่ได้รับผลกระทบในรอบนี้ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่อยู่ในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด (Green Energy) ซึ่งจีนเป็นผู้นำตลาดโลกในหลายอุตสาหกรรม ยกตัวอย่างเช่น ห่วงโซ่การผลิตแผงโซลาร์เซลล์ของจีนคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดในตลาดโลกสูงถึง 80% เมื่อเทียบกับส่วนแบ่งตลาดของสหรัฐฯ ที่ 5% เช่นเดียวกับส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ EV ทั้งโลกในปี 2566กว่า 29.5% มาจากแบรนด์จีนทั้งสิ้น ส่วนสหรัฐฯ อยู่ที่ 20% ยิ่งกว่านั้น หากสินค้าหมวด Green Energy จากจีนทะลักเข้าสหรัฐฯ มากขึ้น อาจจะส่งผลให้ผู้บริโภคชาวสหรัฐฯ มีทัศนคติต่อสินค้าจีนดีขึ้น และเปิดทางให้ผู้บริโภคยอมรับสินค้าอื่น ๆ ที่มาจากจีนเพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย


นอกจากนี้ ท่าทีดังกล่าวยังเป็นการสร้างความกดดันยุโรปซึ่งเป็นชาติพันธมิตร ซึ่งจีนพึ่งพาตลาดยุโรปสูงถึง 14.6% ของมูลค่าส่งออกของจีนทั้งหมด โดยมองว่าสหรัฐฯ มีความพยายามกดดันยุโรปและชาติพันธมิตรอื่น ๆ ให้พิจารณาขึ้นอัตราภาษีนำเข้าจากจีนด้วยเช่นกัน เนื่องจากผู้ส่งออกจีนพยายามเปลี่ยนเส้นทางการค้า (Trade Diversion) กระจายไปยังประเทศอื่นมากขึ้นเพื่อทดแทนตลาดสหรัฐฯ รวมถึงส่งผ่านไปยังประเทศที่สามเพื่อเป็นช่องทางส่งต่อไปยังสหรัฐฯ อีกทอดหนึ่ง อย่างไรก็ดี ประเทศสมาชิกยุโรปบางส่วนกลับไม่เห็นด้วยต่อการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน เนื่องจากยุโรปเองมีฐานการผลิตสินค้าสำคัญในประเทศจีนเช่นกัน

ttb analytics มองว่า บรรยากาศการค้าทั่วโลกจะมีแนวโน้มตึงเครียดขึ้นในระยะต่อไปจากการเพิ่มระดับการกีดกันทางการค้า ตลอดจนประเด็นความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงครุกรุ่นในหลายภูมิภาค โดยมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จะเป็นการเร่งให้ผู้ผลิตจีนกระจายการผลิตและหันไปลงทุนในเม็กซิโกมากขึ้นภายใต้ข้อตกลงสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) โดยเฉพาะการกระจายฐานการผลิตเพื่อส่งออกรถยนต์ EV ไปสหรัฐฯ เร็วขึ้น
 
จากท่าทีการตอบโต้ทางการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลักช่วงหลายปีที่ผ่านมา เป็นการตอกย้ำถึงรูปแบบการค้าโลกที่เปลี่ยนเป็น “การทวนกระแสโลกาภิวัฒน์” (Deglobalization)ชัดเจนขึ้น ซึ่งสวนทางกับบทบาทการค้าของจีนในตลาดโลกที่ทรงอิทธิพลขึ้นทุกขณะ ทั้งนี้ อุตสาหกรรมภาคการผลิตของจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังปลดล็อกกฎหมายที่เอื้อสิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนจากต่างชาติในปี 2561 ทำให้สินค้าที่ผลิตและส่งออกจากจีนตอบโจทย์ตลาดโลกมากขึ้น สะท้อนจากสัดส่วนมูลค่าการส่งออกจีนในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 12.6% ของมูลค่าส่งออกทั้งโลกในช่วงปี 2555-2560 เป็น 22.3% ในระหว่างปี 2564-2566 นอกจากนี้ ttb analytics ยังมองว่า ผู้ผลิตจีนใช้ประโยชน์จากความใกล้ชิดเชิงการเมือง (Political Closeness) ในการสร้างความได้เปรียบทางการค้า จนทำให้จีนสามารถเกินดุลการค้ากับคู่ค้าทั่วโลกเพิ่มขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา

โดยจีนพยายามลดการขาดดุลการค้าผ่านการเพิ่มปริมาณการค้ากับประเทศคู่ค้าเชิงยุทธศาสตร์และสร้างสมดุลการค้ากับประเทศที่มีความเป็นกลาง รวมถึงพยายามลดบทบาทคู่ค้าที่มีความขัดแย้งชัดเจน ฉะนั้นแล้ว ไทยซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่มีความ “เป็นกลาง” อาจต้องเผชิญกับการขาดดุลการค้ากับจีนรุนแรงเพิ่มขึ้นในระยะยาว หากไทยไม่เร่งแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างภาคการผลิต ด้วยการสนับสนุนอุตสาหกรรมโลกใหม่ที่จะเข้ามาทดแทนและเป็นตัวขับเคลื่อนการส่งออกในระยะข้างหน้า. -516-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร