หวั่นส่งออกรถยนต์หดตัวหนัก หลังสหรัฐขึ้นภาษี 2 เม.ย.

กรุงเทพฯ 27 เม.ย. – กลุ่มยานยนต์หวั่นกระทบหนัก จากสหรัฐขึ้นภาษีรถยนต์และชิ้นส่วน 25% เริ่ม 2 เม.ย. ซ้ำเติมยอดผลิตหดตัว กระทบแรงงาน 8.5 แสนคน หน่วยงานวิจัยคาดกระทบจีดีพีไทยราว 0.6% ชี้แรงกระแทกภาษีสหรัฐ-นักท่องเที่ยวจีนหดตัว อาจทำให้จีดีพีไทยโตไม่ถึง 2.8% กนง.อาจลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง เพื่อพยุงเศรษฐกิจ


นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า น่าเป็นห่วงการส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนของไทยจะลดลงอีก หลัง “โดนัลด์ ทรัมป์” ผู้นำสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ทั้งหมด 25% ในวันที่ 2 เมษายน รวมถึงชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ อาทิ เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง ชิ้นส่วนเกียร์ และส่วนประกอบทางไฟฟ้า ซึ่งจะกระทบทั้งการจ้างงานและเศรษฐกิจ จากที่ปัจจุบันมีผลกระทบอยู่แล้วจากยอดผลิตและจำหน่ายรถยนต์ของไทยที่ลดลงหนัก โรงงานมีทั้งทยอยปิดตัวและลดกำลังผลิต ต้องลดเงินเดือน ลดการจ้างงานเหลือสัปดาห์ละ 3-4 วัน

ทั้งนี้ คำสั่งของทรัมป์ ขึ้นทั้งภาษีรถยนต์และชิ้นส่วนจะกระทบทั้งการส่งออกไปสหรัฐโดยตรงและกระทบต่อการส่งออกชิ้นส่วนไปประเทศ คู่ค้าหลักอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น เยอรมัน ที่เป็นผู้ผลิตสินค้าไปสหรัฐ โดยปี 67 ไทยส่งออกสหรัฐ ในรูปรถยนต์ 320 ล้านเหรียญ ชิ้นส่วนยานยนต์ 1,566 ล้านเหรียญ (สหรัฐตลาดส่งออกอันดับ 1), เครื่องยนต์สันดาปภายใน 231 ล้านเหรียญ, ส่งออกชิ้นส่วนฯ ไปญี่ปุ่น มูลค่า 1,211 ล้านเหรียญ ส่งออกชิ้นส่วนไปเยอรมัน 80 ล้านเหรียญฯ อังกฤษ 52 ล้านเหรียญ แคนาดา 33 ล้านเหรียญ เวียดนาม 39 ล้านเหรียญ


นอกจากส่งออกยานยนต์ไทยคาดว่าจะหดตัวแล้ว การจำหน่ายรถยนต์ในประเทศก็หดตัวหนัก ได้รับผลกระทบจากคู่แข่งอีวีจากจีน ,ปัญหาหนี้ครัวเรือน ที่ทำให้ การกู้เงินไม่ผ่าน รถกระบะถูกปฏิเสธสินเชื่อถึง 50% ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมา (ปี 67-68) ไฟแนนซ์ไม่ปล่อยกู้ รถกระบะราว 2.5 แสน ส่งผลดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมติดลบ ยอดขายในประเทศปี 67 อยู่ที่ 5.7 แสนคัน จากที่ปี 62 ขายได้กว่า 1 ล้านคัน ยอดส่งออกปี 67 ส่งออกได้กว่า 1 ล้านคัน ปีนี้ก็คาดว่าจะส่งออกไม่ถึง 1 ล้านคัน- ทั้งนี้ หากมองไปถึงทรัมป์ 1.0 ช่วงนั้นสงครามการค้าก็ทำให้ยอดส่งออกหดตัวกว่า 8 หมื่นคัน จากที่เคยส่งออกได้ 1.138 ล้านคัน ก็ลดลงเหลือ 1.054 ล้านคัน ในปี 61 ซึ่งอุตสาหกรรมรถยนต์มีซัพพลายด์เชน เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก แรงงานรวม 850,000 คน ก็เกรงว่าจะได้รับผลกระทบไปด้วย

“ขณะนี้รอดูประกาศของสหรัฐเรื่องขึ้นภาษีที่ชัดเจน หากไม่เปลี่ยนแปลงขึ้นภาษีรถยนต์และชิ้นส่วนทุกประเทศ แน่นอนก็กระทบต่อการส่งออกทั้งรถยนต์และชิ้นส่วนของไทย ที่ทำรายได้ส่งออกเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรถที่ส่งออกไปสหรัฐจากไทยเป็นรถเก๋งขนาดเล็ก ไม่มีคู่แข่ง หากโดนภาษีก็คงไม่มากนัก แต่ที่น่าเป็นห่วงคือการส่งออกชิ้นส่วนทั่วโลกที่จะกระทบหนัก”

การผลิตรถยนต์ของไทยเดือน ก.พ.68 มีทั้งสิ้น 115,487 คัน ลดลง 13.62% ผลิตขายในประเทศลดลง 21.26% โดยเฉพาะรถกระบะที่ยังคงลดลง 42.10% ผลิตส่งออกลดลง 9.48% ส่งผลให้จำนวนรถยนต์ผลิต 2 เดือนแรกของปีนี้มีทั้งสิ้น 222,590 คัน ลดลง 19.29%


สำหรับภาพรวมการส่งออกของไทย สหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย มีสัดส่วนราว 18% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด โดยปี 2567 มีมูลค่า 54,956.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่การนำเข้า สหรัฐฯ เป็นแหล่งนำเข้าอันดับ 4 ของไทย มีสัดส่วนราว 6% ของมูลค่านำเข้าทั้งหมด หรือมีมูลค่า 19,528.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยรวมไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ 35,427.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่อันดับที่ 12 ของโลก

ก่อนหน้านี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินผลกระทบหากทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% ว่าจะกระทบส่งผลกระทบต่อ จีดีพีราว 0.6% และประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 2568 ที่ปัจจุบันมองไว้ที่ 2.4% มีความเสี่ยงที่จะลดลง แต่จะยังอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 2.0% การส่งออกรถยนต์ไทยไปสหรัฐ ปี 2568 มีโอกาสหดตัว โดยสหรัฐอาจผลิตเพิ่มในประเทศทดแทน ทั้งนี้ ในปี 2567 ไทยส่งออกรถยนต์ไม่เกิน 1,500 ซีซี ไปสหรัฐ ประมาณ 42,000 คัน

นายเมธัส รัตนซ้อน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) เปิดเผยว่าจากความเสี่ยงของสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น TISCO ESU ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปีนี้ลงมาอยู่ที่ 2.8% จากเดิมที่คาดไว้ 3.0% โดยยังไม่นับรวมหากสหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากไทยโดยตรง และมองว่า GDP ยังมีดาวน์ไซด์มีความเสี่ยงที่จะเติบโตได้เพียง 2.1% ต่ำกว่าปี 67 ที่ขยายตัว 2.5%
โดยความเสี่ยงที่จะกระทบต่อ GDP ไทยปีนี้ ได้แก่ ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่อาจพลาดเป้า จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง มองว่าอาจต้องปรับลดเป้านักท่องเที่ยวลงประมาณ 2 ล้านคน

นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากมาตรการภาษีตอบโต้สหรัฐฯ (Reciprocal Tarif) ซึ่งอาจกระทบเศรษฐกิจไทยประมาณ 0.35-0.50 % โดยความเป็นไปได้ที่สหรัฐ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากไทยเพิ่ม ต้องดูที่ส่วนต่างอัตราภาษีระหว่างสหรัฐและไทย ที่เรียกเก็บในปัจจุบันซึ่งมีส่วนต่างประมาณ 5% อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับสินค้าที่ถูกเรียกเก็บเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันสินค้าหลักที่ถูกส่งออกไปยังสหรัฐ อาทิ เครื่องจักร ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล โซลาร์รูฟท็อป ยางพาราโดยเฉพาะยางรถยนต์ กลุ่มดังกล่าวมีความเสี่ยงเป็นอันดับต้น ๆ

อีกทั้งยังมีความกังวลจากภาคการผลิตซึ่งชะลอตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 67 และนำเข้ามากขึ้นโดยเฉพาะสินค้าจากจีน และการลงทุนจากต่างประเทศ หากไทยถูกเรียกเก็บภาษี ประเมินว่ามีโอกาสที่นักลงทุนต่างชาติจะยกเลิกแผนการลงทุน ในหลายอุตสาหกรรม ในขณะที่นโยบายการเงิน คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) หลังมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 2.00% ในการประชุมครั้งแรกของปีไปแล้ว แต่หากเศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวได้ที่ 2.8% คาดว่า กนง.อาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.00% ตลอดทั้งปี แต่หากจีดีพีลดลงอีก กนง.อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกราว 1-2 ครั้ง ในปีนี้หรือลงมาอยู่ที่ 1.50-1.75% ต่อปี ต้องจับตารายละเอียดนโยบายสงครามการค้าของสหรัฐฯ ในวันที่ 2 เมษายนนี้.-511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย