เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุนแนะนักลงทุนควรศึกษาก่อนเข้าลงทุน

กรุงเทพฯ 25 ก.ย.-เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุนแนะนักลงทุนหน้าใหม่ควรศึกษารายละเอียดก่อนเข้าลงทุน โดยเฉพาะต้องระวังการเข้าใจผิด  เพราะชีวิตอาจเปลี่ยนไปสู่ความย่ำแย่ได้


นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน กล่าวว่า การลงทุนมีทั้งโอกาสและความเสี่ยงควบคู่กัน การไม่ลงทุนเลยเป็นการปิดโอกาสของอนาคตที่น่าเสียดายแต่ต้องไม่มั่นใจเกินความจริง เพราะโอกาสทายผิดเกิดขึ้นได้ในบางครั้ง โดยหลายปีที่ผ่านมา การที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารต่ำเตี้ยเรี่ยดินเพียง 0.50-1.50% เป็นเวลานาน มีผลทำให้เกิดผู้สนใจเข้าลงทุนในสินทรัพย์เพื่อการลงทุน ทั้งหุ้น ทอง กองทุน หุ้นกู้ หรือแม้กระทั่งคริปโท กันอย่างมากมาย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี ที่คนไทยได้หาทางออกในการออมเงินรูปแบบที่มากกว่าการฝากธนาคารเพียงอย่างเดียว โดยมีข้อมูลสถิติ และมีเหตุผลทางวิชาการสนับสนุนอย่างหนักแน่นว่า สินทรัพย์เพื่อการลงทุนนั้นมีผลตอบแทนระยะยาวดีกว่าเงินฝากแต่ก็มีความเสี่ยงที่สูงกว่าสอดคล้องกัน

สำหรับหลักการในการลงทุนต่างๆ เช่น ความรู้ในสินทรัพย์ที่ลงทุน การกระจายความเสี่ยงการลงทุน ความรู้ทางการวิเคราะห์  เทคนิคและกลยุทธ์การลงทุน คุณผู้อ่านน่าจะเคยเห็น เคยฟังกันมามากพอสมควร  บทความวันนี้ ผมจะขอจับบางประเด็นของการลงทุนที่ต้องระวังการเข้าใจผิด  เพราะชีวิตอาจเปลี่ยนไปสู่ความย่ำแย่ได้  มีประเด็นดังนี้ คือ 


เรื่องของหุ้น หลายท่านรู้ว่า ให้ใช้หลักการกระจายการลงทุน จึงกระจายไปในหลายหุ้นแล้ว แต่ว่าหลายหุ้นนั้นเป็นธุรกิจประเภทเดียวกันหมดเลย เวลาธุรกิจนั้นแย่ จึงเเย่ไปทั้งหมด เช่นลงหุ้นเกี่ยวกับท่องเที่ยวทั้งหมด แล้วมาเจอภาวะโควิดอย่างยาวนาน  ที่จริงต้องกระจายหุ้นไปในหลายธุรกิจ (ที่เลือกแล้วว่าแนวโน้มธุรกิจดี)

เลือกหุ้นที่มี Volume ซื้อขายเยอะ แสดงว่าหุ้นดีมีคนเข้าซื้อเยอะ  อันนี้จริงบางส่วน แต่มีหลายหุ้นที่ไม่จริงนะครับ โดยเฉพาะหุ้นที่ผลการดำเนินงานปัจจุบันยังไม่เคยมีแววดีเลย มีแต่ข่าวและการแสดงวิสัยทัศน์ที่น่าตะลึงพรึงเพริด กรณีนี้นอกจากวิธีต้องไปตรวจจากงบการเงิน ดูกำไร และ Cashflow แล้ว ผมแนะให้ไปดูว่ามีบทวิเคราะห์ทางปัจจัยพื้นฐาน(IAA Consensus) ใน www.settrade.com หรือไม่นะครับ ปกติแล้ว  แม้ว่านักวิเคราะห์ไม่ค่อยเขียนหุ้นขนาดกลางถึงเล็กเพราะไม่มีกำลังคนมากพอ  แต่ถ้าเป็นหุ้นที่มีการซื้อขายมากและเป็นบริษัทดี  นักวิเคราะห์ไม่ทิ้งให้เหงาแน่  ต้องมีคนเข้าไปวิเคราะห์ไว้มากมาย ดังนั้น ถ้าไม่มีเลย หรือมีแค่ 1-2 ราย ทั้งๆ ที่มี Volume มากแบบนี้ โปรดไตร่ตรองให้ดีครับ 

ตลาดล่วงหน้าเปิดโอกาสให้ทำกำไรทั้งขาขึ้นและขาลง กรณีนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้ท่านที่มีวิทยายุทธ์ที่ดีที่จะทายทิศทางให้ถูก จึงต้องเข้าใจตรงกันครับว่า ถ้าทายผิดก็ต้องขาดทุนครับ จึงไม่ควรทุ่มหนักตรงนี้เพราะเข้าใจว่าคงกำไรดีทั้งตอนขาขึ้นและขาลง


ทองคำ ตามรายงานข่าวมักเห็นคำว่า ทองคำเป็น Safe Haven หลายคนเลยเข้าใจว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยไม่เสี่ยงอันนี้ต้องเรียนว่า ตามสถิติเห็นได้ชัดเจนว่าทองคำเป็นสินทรัพย์เสี่ยงที่มีราคาขึ้นลงรุนแรงพอสมควร  สถิติรายปี บางครั้งขึ้น 7-8 ปีต่อเนื่อง  รวมแล้วหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่รอบที่ลงก็แย่ยาวไป 3-5 ปี รวมขาลง ร่วม 30-40% ทีเดียวแต่เฉลี่ยแล้วก็นับว่าให้กำไรระยะยาว เฉลี่ยปีละ 6% ดังนั้น แม้พวกเรารวมถึงผมด้วย จะสนใจลงทุนทองคำแต่ต้องเข้าใจตรงกันว่า เป็นของเสี่ยง มีโอกาสที่จะลงมากเป็นบางจังหวะครับ  สรุปแล้วทองคำแม้จะน่าสนใจ แต่ไม่ควรทุ่มหมดหน้าตัก ควรกระจายเงินไปในสินทรัพย์การเงินอื่นๆด้วย

หลายคนฟังมาว่า หุ้นกู้เสี่ยงน้อยกว่าหุ้นสามัญ ดังนั้นถ้าไม่อยากเสี่ยงมาก ก็เล่นหุ้นกู้ ประเด็นนี้เป็นจริงในกรณีที่เป็นหลักการกว้างๆ โดยเฉลี่ย และเป็นจริงแน่ในกรณีเป็นหุ้นกู้เทียบกับหุ้นสามัญของบริษัทเดียวกันหรือระดับความเสี่ยงเท่ากัน  แต่เนื่องจากหุ้นกู้นั้นมีหลายบริษัทเป็นผู้ออก  จึงมีระดับความเสี่ยงแตกต่างกันมาก  บางบริษัทมีอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) สูง หรือค่อนข้างสูง  ระดับ Investment Grade จึงสามารถให้อัตราดอกเบี้ยต่ำ  แต่บางบริษัทก็มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่า Investment Grade  ซึ่งจัดเป็น Speculative-grade Bond บางทีก็เรียกชื่อที่บาดใจว่า Junk Bond นอกจากนั้น บางหุ้นกู้ที่ขาย ถึงขั้นไม่มีการประกาศอันดับความน่าเชื่อถือเลย  แบบนี้ต้องใช้ความระมัดระวังมาก  

แม้จะตั้งอัตราดอกเบี้ยให้สูงลิบลิ่ว  6-7 % ต่อปี  ก็ไม่ได้แปลว่าน่าสนใจที่สุดเพราะได้ดอกเบี้ยมากที่สุด รวมทั้งอย่านึกไปว่ายังเสี่ยงน้อยกว่าเล่นหุ้น  เพราะในเหตุการณ์จริงมีหุ้นกู้บางบริษัทที่ไม่สามารถจ่ายเงินคืนให้เห็น  ขณะที่หุ้นสามัญของบริษัทชั้นดีในตลาด  ก็ยังมีความแข็งแรงทางผลดำเนินงานและฐานะการเงิน  ในระยะยาวถ้าราคาลงก็ยังมีโอกาสขึ้นไปใหม่ จ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ  ถ้าอยากจะขายหุ้นสามัญชั้นดีก็สะดวกสบายขายได้ทันที  ดูแล้วน่าสนใจกว่าไปลง Junk Bond ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีแบบนี้ครับ

คำว่าถ้าไม่ขายก็ไม่ขาดทุน  ประเด็นนี้ น่าจะเป็นคำสอนที่พาลงเหวไปก็มากนะครับ  เพราะคำนี้จะได้ผลก็ต่อเมื่อหุ้นที่ถือมีธุรกิจที่ดี  ยังไม่มีสถานการณ์วิกฤติทางธุรกิจหรือภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปในทางแย่ลงรุนแรง ในความจริงนั้น ถ้าราคาหุ้นลงก็ต้องยอมรับความจริงว่ากำลังขาดทุน  ส่วนจะสู้ต่อหรือมอบตัวแค่ตรงนี้ ก็เป็นอีกขั้นหนึ่ง  ดังนั้น ในกรณีหุ้นที่เราถืออยู่เกิดวิกฤติทางธุรกิจ หรือวิกฤติความน่าเชื่อถือ  ถ้าไม่ขายก็หายนะได้เลยนะครับ

เข้าหุ้นตามคุณ ABC ดีกว่า เขาเคยเล่นได้กำไรหลายร้อยเปอร์เซ็นต์จนรวยแล้ว  ไม่น่าจะพลาด  ประเด็นนี้ ก็ไม่ควรมั่นใจสุดขีดขนาดนั้นครับ  เพราะผลกำไรในอดีตไม่ได้รับประกันว่าจะได้เหมือนกันในอนาคต  รวมทั้งคนที่เคยกำไรมากๆ บางกรณีนั้นอาจมาจากเล่นแบบใจถึงแล้วเดาถูกก็มี  นอกจากนั้น เราก็น่าจะเคยเห็นการไปเล่นตามคนที่เคยกำไรดี พอครั้งหน้าเราทุ่มตามอย่างมั่นใจก็ขาดทุนเลยก็มี ดังนั้น เราอาจต้องไปดูก่อนว่า คุณ ABC มีหลักการเหตุผล วิธีการเลือกหุ้นลงทุนที่ดีน่าศึกษาเรียนรู้หรือไม่ ถ้าใช่ เราก็ลองศึกษาเรียนรู้ตามแนวทางที่เขาทำ  และถ้ามีบทวิเคราะห์ทางปัจจัยพื้นฐานของนักวิเคราะห์ให้ดู ก็เอามาพิจารณาความสมเหตุสมผลประกอบ  สุดท้ายเราเป็นผู้ไตร่ตรองตัดสินใจเองตามข้อมูล ดีกว่าเล่นตามคนอื่นเเบบไม่ดูเนื้อหานะครับ

อย่างไรก็ตาม สุดท้าย การลงทุนมีทั้งโอกาสและความเสี่ยงควบคู่กัน การไม่ลงทุนเลยเป็นการปิดโอกาสของอนาคตที่น่าเสียดาย แต่ต้องไม่มั่นใจเกินความจริง เพราะโอกาสทายผิดเกิดขึ้นได้ในบางครั้ง .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

เครื่องบิน แอร์ อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มียืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าใด เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย […]

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย