นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยสิ้นปี 66 แตะ 1,741 จุด

กรุงเทพฯ 4 ม.ค.-สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) เผยผลสำรวจ คาดหุ้นไทยสิ้นปี 66 แตะ 1,741 จุด แนะเพิ่มน้ำหนักลงทุนหมวดธุรกิจ ค้าปลีก ธนาคาร การท่องเที่ยว ลดน้ำหนักหมวดธุรกิจปิโตรเคมี พลังงานและสาธารณูปโภค รวมถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์


นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) เปิดเผยผลการสำรวจความเห็นสมาชิกนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุน รวม 26 สำนัก เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนปี 2566 

          – ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ไตรมาสแรกของปี แนวโน้มเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 65 โดยคาดว่าจะปิดสิ้นไตรมาสที่ 1,694 จุด 


          – กรอบการแกว่งตัวของ SET ทั้งปีในกรอบ 1,554-1,773 จุด

          – ดัชนีปิดสิ้นปี 66 ที่ 1,741 จุด 

ส่วนกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ของตลาดในปี 66 คาดการณ์ที่เฉลี่ย 105.34 บาท เพิ่มขึ้นกว่าผลสำรวจครั้งก่อนที่ 100.36 บาท/หุ้น และครั้งนี้คาดการณ์ EPS Growth ของปี 66 อยู่ที่ 7.06% อยู่ภายใต้สมมติฐานหลัก การปรับลดราคาน้ำมันดิบของปีนี้จาก 98.79 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล มาเป็น 87.22 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ไทยที่ 3.60%


นักวิเคราะห์ยังแสดงความเห็นต่อทิศทางการลงทุนในปี 66 จะได้รับผลบวกที่ชัดเจนจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ เศรษฐกิจภายในประเทศ โดยมีผู้โหวตถึง 96.15% และผลประกอบการ บจ.ปี 66 มีผู้โหวต 80.77% ตามมาด้วย Fund Flows จากต่างประเทศสู่ตลาดหุ้นไทย มีผู้โหวต 76.92% และปัจจัยการเมืองในประเทศ มีผู้โหวต 73.08%

ส่วนปัจจัยด้านลบ มาจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจโลก มีผู้โหวตมากถึง 88.46% รองลงมาคือ การลดหรือยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของประเทศสำคัญทั่วโลก มีผู้โหวต 62.96% และตามติดมาด้วย ปัจจัยด้านการเมืองในต่างประเทศ มีผู้โหวต 53.85%

ปัจจัยที่ควรจับตามองที่มีผลต่อการขับเคลื่อนตลาดในไตรมาสแรก ผู้ตอบส่วนใหญ่มองว่า การกลับมาเปิดประเทศของจีน และการเลือกตั้งภายในประเทศ

ด้านการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในปี 2566 นักวิเคราะห์ทุกสำนักคาดว่ามีการปรับขึ้น โดย 46.15% คาดว่าจะปรับขึ้น 0.50% รองลงมามี 42.31% มองว่าปรับขึ้น 0.75% ส่วนที่เหลือมีผู้ตอบ 7.69% ที่มองว่าจะปรับขึ้น 0.25% และมี 3.85% ที่มองว่าปรับขึ้น 1% หรือมากกว่าตามลำดับ

          นักวิเคราะห์แนะนำให้กระจายพอร์ตการลงทุน แบ่งเป็น

-เงินสดและเงินฝากระยะสั้น 12%

          -กองทุนตราสารหนี้ 20.12%

          -หุ้นไทยหรือกองทุนหุ้นไทย 28.52%

          -หุ้นหรือกองทุนหุ้นต่างประเทศ 23.60%

          -กองทุนอสังหาฯ หรือ REIT 7.52%

          -ทองคำหรือกองทุนทองคำ 7.92%

          -อื่นๆ เช่น กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน น้ำมัน 0.32%

โดยความเห็นต่อการลงทุนหุ้นต่างประเทศ / กองทุนหุ้นต่างประเทศ แนะนำกองทุนหุ้นจีน และเวียดนาม จากการเปิดกิจกรรมเศรษฐกิจกลับมาปกติอีกครั้ง

สำหรับในการลงทุนหุ้นไทยนั้น แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหมวดธุรกิจ ค้าปลีก ธนาคาร การท่องเที่ยว ในขณะที่ให้ลดน้ำหนักการลงทุนในหมวดธุรกิจปิโตรเคมี พลังงานและสาธารณูปโภค รวมถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

          รายชื่อหุ้นที่นักวิเคราะห์แนะนำ โดยมีจำนวนสำนักวิเคราะห์แนะนำตรงกันตั้งแต่ 4 สำนักขึ้นไป มีดังนี้ (เรียงชื่อตามอักษรย่อ)

          1. ADVANC เป็นหุ้น Defensive ที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอราว 4% ต่อปี และประมาณการกำไรมี Upside จากการต่อยอดเข้าสู่ธุรกิจการเงิน คือ Virtual Bank

          2. AOT มองว่าผลประกอบการจะพลิกเป็นกำไรหลังการท่องเที่ยวฟื้นตัว

          3. BBL โดยมองว่าได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และเป็นธนาคารที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ภาคธุรกิจ

          4. COM7 ปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยที่สูงขึ้น 2) การครอบครองมือถือ 5G ที่สูงขึ้น และ 3) เดินหน้าขยายสาขา 150 แห่ง ตามแผนต่อเนื่อง (ปี 2022 ขยายไปแล้ว 113 สาขา)

          5. CPALL ปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคฟื้นตัวต่อ รับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ หนุนการขยายตัวของ Same Store Sales Growth (SSSG)

นักวิเคราะห์ยังได้เพิ่มเติมการแนะนำไปยังพรรคการเมืองเกี่ยวกับนโยบายที่จะมีผลบวกต่อภาวะเศรษฐกิจ คุ้มค่ากับผลกระทบทางงบประมาณ โดยส่วนใหญ่กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แยกเป็นการเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ถัดมา นโยบายที่เพิ่มกำลังซื้อแก่ประชาชน เพื่อกระตุ้นการบริโภค ได้แก่ ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ชะลอการเก็บภาษีหุ้น อีกทั้งพัฒนาฝีมือแรงงาน / ระบบการศึกษาไทยและตามมาด้วย การช่วยเหลือภาคธุรกิจ ได้แก่ นโยบายกระตุ้นการลงทุน สนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ ขยายตลาดส่งออก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก