กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – เงินบาทอ่อนค่าทดสอบแนว 36.00 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 9 เดือนครึ่ง ก่อนจะกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 35.95 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 35.73 บาทต่อดอลลาร์
น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า เงินบาทอ่อนค่าลงตามสัญญาณฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งในวันนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 1,117.08 ล้านบาท และ 1,740 ล้านบาท ตามลำดับ โดยแรงขายในตลาดพันธบัตรส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการออกพันธบัตรรัฐบาลของไทยที่อาจเพิ่มสูงขึ้นในปีงบประมาณหน้า นอกจากนี้ sentiment ของสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชียยังเผชิญแรงกดดันจากความกังวลต่อทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ขณะที่มีแรงซื้อคืนเงินดอลลาร์บางส่วน เพื่อปรับโพสิชันก่อนผลการประชุมเฟด (19-20 ก.ย.)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ คาดไว้ที่ 35.60-36.10 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางเงินหยวน การประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ของธนาคารกลางจีน รวมถึงผลการประชุมและ dot plot ของเฟด
ด้านนักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทอ่อนค่าหนักวันนี้ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมัน และมีข่าวลือเรื่องปลดผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กรณีมีความเห็นขัดแย้งเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล ขณะที่มีเงินทุนไหลออกจากตลาดพันธบัตรราว 1.7 พันล้านบาท ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 35.90-36.10 บาท/ดอลลาร์ หากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาเพิ่มเติม ตลาดน่าจะรอดูผลประชุมเฟดในช่วงค่ำ.-สำนักข่าวไทย