กรุงเทพ 1 ส.ค. – “พิชัย” เผยสหรัฐเก็บภาษีนำเข้า 19% จะทำให้นักลงทุนต่างชาติโล่งอกพร้อมลงทุนระยะยาวในไทย ขณะที่ไทยต้องซื้อเครื่องบินโดยสารเพิ่ม 8-10 ลำ และไปลงทุนเกษตรกรรมแปรรูปในสหรัฐ
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การประกาศ Tariff rate ที่ 19 % จะช่วยให้ไทยยังคงแข่งขันได้ในเวทีโลก สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน และเปิดประตูสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ รายได้ และโอกาสใหม่ ๆ ให้กับประเทศไทย การทำงานยังไม่สิ้นสุด รัฐบาลตระหนักถึงผลกระทบต่อผู้ประกอบการและพี่น้องเกษตรกร จึงได้จัดเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน
นายพิชัย กล่าวด้วยว่า อะไรที่เรามีความพร้อม เช่น เอฟทีเอ เราก็ให้เลย เราตกลงเรื่องใหญ่ๆ เช่น เราจะซื้ออะไรจากสหรัฐบ้าง เราจะไปลงทุนอะไรบ้าง เขาจะมาลงทุนอะไรบ้าง เท่าที่พูดคุย ไทยเราจะไปลงทุนเรื่องเกษตรกรรมแปรรูปที่เรามีความพร้อมอยู่แล้วและวัตถุดิบบางตัวก็อยู่ที่สหรัฐ ส่วนเรื่องพลังงาน ไทยเราจะซื้อด้วย ลงทุนเพิ่มในสหรัฐด้วยที่ผ่านมาเรานำเข้าพลังงานจากสหรัฐประมาณ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐต่อปีอยู่แล้ว ส่วนการนำเข้าพลังงานจะนำเข้าไม่มาก สำหรับเรื่องเครื่องบินโดยสารที่จะมีการปรับเปลี่ยนภายใน 10 ปี เราจะซื้อเพิ่มอีก 8-10 ลำ น้ำมันดิบจะนำเข้าเพิ่มอีก 10% โดยจะเริ่มตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป ส่วนเรื่องการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐจะมีการไปตรวจโรงงานที่สหรัฐก่อนนำเข้ามาและจะนำเข้ามาให้น้อยที่สุด หลังจากนี้รัฐบาลจะต้องลงรายละเอียด เราต้องทำงานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งนี้ สินค้าอะไรก็ตามที่ไทยส่งออกก่อนวันที่ 7 สิงหาคม ภาษีส่งออกไปสหรัฐจะเป็นอัตราเดิมคือ 10% แต่ถ้าส่งออกหลังวันที่ 7 สิงหาคม จะเป็นภาษีอัตราใหม่ 19%
นายพิชัย กล่าวว่า จากภาษี 19% ทำให้มีหลายบริษัทต่างชาติมีแผนลงทุนระยะยาวในไทยและรู้สึกโล่งอก ขณะที่เรื่องสัมปทานแหล่งก๊าซธรรมชาติในไทยไม่ได้มีการพูดถึงในการเจรจาครั้งนี้. -513-สำนักข่าวไทย