กรุงเทพฯ 28 ก.พ.- กระทรวงคมนาคม ร่อนเอกสารด่วน ถึง “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ขอให้ส่งหลักฐานอ้างอิงถึงปัญหาการทุจจริต “รถไฟฟ้าสายสีส้ม” 30,000 ล้านบาท ภายใน 15 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จัดการแถลงข่าวบริเวณทำเนียบรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม เกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ล่าสุดกระทรวงคมนาคมได้ออกเอกสารด่วนที่สุด เลขที่ 0204/1737 เรียนถึงนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ตามที่ออกมาเคลื่อนไหวและแถลงข่าว 2 ครั้ง ในวันที่ 21 และ 24 กุมภาพันธ์ 2566 ระบุว่าเพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อมวลชนไปยังประชาชนทั่วไป ได้รับรู้ข่าวสารเรื่องการทุจริตเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม และการให้ข้อมูลของนายชูวิทย์ ระบุถึงประเด็นการเรียกรับเงินจากโครงการดังกล่าวจำนวน 30,000 ล้านบาท (สามหมื่นล้านบาท) โดยยืนยันว่ามีหลักฐานการโอนเงินดังกล่าวเข้าบัญชีธนาคาร HSBC ในประเทศสิงคโปร์ เพื่อเอามาลงทุนในการเมือง และมีการทุจริตในโครงการดังกล่าว รายละเอียดปรากฏตามข่าวที่เผยแพร่ทั่วไปแล้ว นั้น
เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นโครงการเพื่อประโยชน์สาธารณะที่ได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุดังกล่าว กระทรวงคมนาคมในฐานะหน่วยงานกำกับดูแล รฟม. จึงมีหนังสือ ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อขอข้อมูลและเอกสารหลักฐานจากนายชูวิทย์ สำหรับใช้ประกอบการพิจารณาดำเนินการตามอำนาจ และอำนาจหน้าที่ คือ
- เลขบัญชีและชื่อเจ้าของบัญชีธนาคาร HSBC ที่ประเทศสิงคโปร์ ตามที่นายชูวิทย์อ้างถึงว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับการโอนเงินจำนวน 30,000 ล้านบาท (สามหมื่นล้านบาท)
- รายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีพฤติกรรมในการกระทำการทุจริตในโครงการดังกล่าวตามที่นายชูวิทย์กล่าวอ้าง
- พยานหรือเอกสารหลักฐานสนับสนุนคำกล่าวหาตามที่ได้แถลงข่าวยืนยันตามข้อ 1 และข้อ 2
- ขอข้อมูลการดำเนินการทางกฎหมายกับบุคคลที่เกี่ยวข้องตามข้อกล่าวหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่นายชูวิทย์ได้ดำเนินการไปแล้ว (ถ้ามี)
โดยหนังสือของกระทรวงคมนาคม ระบุด้วยว่า ขอความอนุเคราะห์จากนายชูวิทย์ ให้ส่งมอบข้อมูลและเอกสารหลักฐานดังกล่าวให้กับกระทรวงคมนาคมภายใน 15 วัน เพื่อเร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และหากมีความคืบหน้าในการดำเนินการในกรณีนี้ กระทรวงคมนาคมจะแจ้งประชาสัมพันธ์ให้สาธารณะต่อไป .-สำนักข่าวไทย