สั่งการทุกหน่วยงาน “คมนาคม” รับมือพายุ “วิภา”

กรุงเทพฯ 23 ก.ค. – “สุริยะ” สั่งการทุกหน่วยงาน “คมนาคม” รับมือพายุวิภา จัดเจ้าหน้าที่-อุปกรณ์ ช่วยเหลือประชาชนทันที-มีประสิทธิภาพ กำชับทุกฝ่ายเกาะติดสถานการณ์ 24 ชั่วโมง ดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้ผลกระทบอย่างใกล้ชิด


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้พายุโซนร้อนวิภากำลังพาดผ่านประเทศไทย ส่งผลให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ต้องเผชิญกับลมพายุและฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน และมีความเสี่ยงดินโคลนถล่ม จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ดำเนินมาตรการความปลอดภัยสูงสุด เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้

กรมทางหลวง (ทล.) จัดเตรียมป้ายเตือนอันตราย ป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยง – ทางลัด และเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะถนนสายหลักและเส้นทางภูเขาที่มีความเสี่ยงดินโคลนถล่ม อาทิ จังหวัดน่าน พะเยา เชียงราย แพร่ และลำปาง เฝ้าระวังจุดเสี่ยงน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำและทางหลวงสายสำคัญ พร้อมจัดเตรียมเครื่องจักรเพื่อแก้ไขสถานการณ์ได้ทันทีหากเกิดเหตุฉุกเฉิน อีกทั้งให้ประสานการทำงานกับหน่วยงานท้องถิ่น และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนประชาชนและผู้ใช้ทางอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ทล. ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมและดินสไลด์ในโครงข่ายทางหลวง ข้อมูล ณ 23 กรกฎาคม 2568 เวลา 11.30 น. พบ 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย (10 สายทาง 14 แห่ง) น่าน (5 สายทาง 8 แห่ง) และพะเยา (5 สายทาง 7 แห่ง) รวม 29 แห่ง การจราจรผ่านได้ 22 แห่ง ผ่านไม่ได้ 7 แห่ง ขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีฝนตกหนัก ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และสอบถามเส้นทางผ่านสายด่วน ทล. โทร. 1586 ตลอด 24 ชั่วโมง


ส่วนกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้กำชับให้หน่วยงานในพื้นที่จัดเจ้าหน้าที่ให้ลงพื้นที่ตรวจสายทางที่อยู่ในความรับผิดชอบอย่างใกล้ชิด หากพบถนนที่ได้รับผลกระทบทั้งสัญจรผ่านได้และผ่านไม่ได้ให้เร่งดำเนินการนำเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย เข้าติดตั้งเพื่อแจ้งเตือนประชาชนผู้ใช้เส้นทางระมัดระวังในการขับขี่สัญจรทันที พร้อมรายงานสถานการณ์เข้าสู่ระบบบริหารจัดการงานอุทกภัย ทช. หรือ FMS เพื่อให้ผู้บริหารและประชาชนได้รับทราบเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว สามารถแจ้งเหตุสายด่วน ทช. โทร. 1146 ข้อมูล ณ 23 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.30 น. มีสายทางที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม 3 จังหวัด สามารถสัญจรผ่านได้ ดังนี้ 1) ชม.3018 แยก ทล.108 – บ้านกิ่วแลป่าเป้า อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ช่วง กม. ที่ 11+730 – 11+740 2) พร.6040 บ้านน้ำพุ – บ้านแม่แรม อำเภอร้องกวาง อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ช่วง กม. ที่ 5+280 – 6+150 และ 3) อบ.4038 แยก ทล.2173 – บ้านพิบูลมังสาหาร อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ช่วง กม. ที่ 18+000 – 18+200

กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งดำเนินมาตรการป้องกันน้ำท่วมในระบบขนส่งทางราง โดยเน้นการทำความสะอาดและปรับปรุงระบบระบายน้ำ ขุดลอกทางน้ำธรรมชาติ จัดเจ้าหน้าที่สำรวจพื้นที่เสี่ยง และจัดหาเครื่องมือวัดปริมาณน้ำฝน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยเกิดน้ำท่วมซ้ำซาก เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินรถ ทั้งนี้ รฟท. ได้เตรียมความพร้อมโดยกำชับทุกฝ่ายให้เข้มงวดมาตรการความปลอดภัยและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอุปกรณ์ทั้งรางรถไฟและตัวรถ อาณัติสัญญาณ เครื่องกั้นอัตโนมัติให้พร้อมใช้งาน และสำรองพนักงานรถจักรสำหรับภารกิจเผชิญเหตุ รวมถึงตรวจเช็กระบบต่าง ๆ ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ ติดตามปริมาณน้ำฝน ประเมินสถานการณ์ จัดหาสถานที่พักคอยผู้โดยสาร และขอความร่วมมือผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังบริเวณจุดตัดเสมอระดับและอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟ โดยให้สังเกตป้ายและสัญญาณเตือนระดับน้ำ เพื่อความปลอดภัย

ขณะที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้แจ้งให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางออกจากประเทศไทยไปยังในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เช่น ฮ่องกง มาเก๊า และเซินเจิ้น เป็นต้น ตรวจสอบข่าวสารและสถานะของเที่ยวบิน หากได้รับผลกระทบจากเที่ยวบินล่าช้าหรือการยกเลิกเที่ยวบิน จะได้รับการคุ้มครองสิทธิทั้งในเที่ยวบินแบบประจำในประเทศและระหว่างประเทศ เช่น การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินหรือการขอรับเงินค่าโดยสารคืนเต็มจำนวน แต่ยกเว้นการรับค่าชดเชยเนื่องจากเกิดจากเหตุการณ์ภายนอกที่ไม่อาจคาดหมายและไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.caat.or.th/th/archives/97266 หรือ โทร. 0 2568 8800 สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศไทยจากสนามบินที่ได้รับผลกระทบให้ตรวจสอบสิทธิและทางเลือกจากเว็บไซต์ของสายการบินที่เดินทาง


ด้านบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ได้ออกมาตรการรองรับสภาพอากาศที่อาจส่งผลกระทบการบินเพื่อเพิ่มระดับของความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการจัดการจราจรทางอากาศ ตามแนวทางขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) 4 ด้าน ประกอบด้วย 1) การให้บริการจราจรทางอากาศและการปฏิบัติการบิน 2) การให้บริการเครื่องอำนวยความสะดวกการเดินอากาศ โดยให้เฝ้าระวังและเตรียมการรองรับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ 3) ลักษณะทางกายภาพของสนามบิน เช่น ทางวิ่ง ทางขับ และอื่น ๆ จนส่งผลต่อการให้บริการจราจรทางอากาศ และ 4) อาคารสถานที่ของ บวท. โดยให้ตรวจสอบสภาพการใช้งาน ความมั่นคงแข็งแรง รวมทั้งให้กำหนดแนวทางการบริหารความคล่องตัวการจราจรทางอากาศ เพื่อให้ทุกเที่ยวบินเกิดความสะดวก และความปลอดภัยทางการบินสูงสุด

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) รายงานว่า ท่าอากาศยานในสังกัด ทอท. มีการดำเนินการโดยท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้จัดเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ พร้อมให้บริการในการเปิดศูนย์ประสานงานบริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ชั้น 1 ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุกรณีเกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมขังภายในเขตสนามบินอย่างเคร่งครัด โดยจะมีการประชุมติดตามและประเมินสถานการณ์เป็นประจำทุกวัน เวลา 09.00 น. เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างทันท่วงที รวมถึงได้เปิดพื้นที่สำหรับจอดยานพาหนะ เพื่อช่วยเหลือพนักงานและประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบ สามารถรองรับรถยนต์ได้ประมาณ 250 คัน ขณะที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย อนุญาตให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังบ้านเรือน นำรถยนต์มาจอดบริเวณถนนเส้นทางบ้านพักพนักงานได้ ช่วงวันที่ 23 – 24 กรกฎาคม 2568 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด โดยเที่ยวบินยังเข้า – ออกได้ปกติ

ในส่วนของกรมเจ้าท่า (จท.) ได้ออกประกาศ จท. ที่ 152/2568 เรื่องให้ระมัดระวังการเดินเรือ เนื่องจากจากอิทธิพลของพายุวิภา และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ควรงดออกจากฝั่ง เพื่อความปลอดภัยในการเดินเรือ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมและทุกหน่วยงานเกี่ยวเกี่ยวข้อง พร้อมที่จะเข้าดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้สถานการณ์ดังกล่าวเกิดผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชน แต่หากมีสถานการณ์ผิดปกติจะเร่งส่งหน่วยงานเข้าลงพื้นที่และเร่งจัดการโดยทันที พร้อมกันนี้ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม หรือแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายระหว่างเดินทางติดต่อได้ที่ สายด่วน กระทรวงคมนาคม 1356 ทล. 1586 ทช. 1146 การรถไฟแห่งประเทศไทย 1690 AOT Contact Center 1722 และกรมเจ้าท่า 1199. -513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย