CMDF ร่วมกับ FETCO ชี้โอกาสพัฒนาตลาดทุนไทย 

กรุงเทพฯ 19 ม.ค.-กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) ร่วมกับ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) จัดสัมมนา “Improving Thailand’s Capital Market and Efficiency” พร้อมเชิญผู้บริหารจาก McKinsey และสถาบันอนาคตไทยศึกษา (Thailand Future Foundation) เผยผลการศึกษาโอกาสการเพิ่มศักยภาพของตลาดทุนไทยท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั่วโลก พร้อมข้อเสนอเชิงนโยบายการขับเคลื่อนที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาตลาดทุนไทยให้ยั่งยืน 


ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า ทิศทางเศรษฐกิจและตลาดทุนทั่วโลกยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากวิกฤติมาสู่ช่วงของการฟื้นตัว การจัดงานสัมมนาในวันนี้จะช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจถึงศักยภาพการแข่งขันของตลาดทุนไทย เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้เตรียมความพร้อมและร่วมขับเคลื่อนตลาดทุนและเศรษฐกิจไทยไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน  

 การสัมมนา “Improving Thailand’s Capital Market and Efficiency” ได้นำเสนอและแลกเปลี่ยนมุมมองถึงผลการศึกษา ซึ่งจัดทำโดยความร่วมมือระหว่าง CMDF ร่วมกับ McKinsey & Company (Thailand) Co. Ltd. จัดทำรายงานสมุดปกขาว “Improving Thailand’s Capital Market Competitiveness and Efficiency” และ CMDF ร่วมกับ สถาบันอนาคตไทยศึกษา (Thailand Future Foundation) จัดทำงานวิจัย “ตลาดทุนของทุกคน”


สำหรับผลการศึกษา “Improving Thailand’s Capital Market Competitiveness and Efficiency” ของ CMDF และบริษัท McKinsey ได้ข้อสรุปว่า โดยรวมตลาดทุนไทยมีการพัฒนาสู่การเป็นผู้นำของภูมิภาคในด้านความสามารถในการแข่งขัน และประสิทธิภาพของตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการออกตราสารทุน (cash equity) หรือตลาดตราสารหนี้ (fixed income) ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน อย่างไรก็ตาม ตลาดทุนไทยยังมีศักยภาพในการพัฒนาอีกมากเพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำของภูมิภาคหรือแม้แต่โอกาสของการพัฒนาเป็นอันดับต้น ๆภายใต้การเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การบริหารด้านประสิทธิภาพต้นทุนเป็นสิ่งสำคัญ และจากการศึกษาพบว่า ปัจจุบันต้นทุนการซื้อขายหุ้นในตลาดรองมีต้นทุนที่สูงกว่าหลายประเทศในอาเซียน ยกเว้นประเทศอินโดนีเซีย

นายชนันต์ ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ  กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน CMDF เปิดเผยว่า เวลานี้ประเทศไทยกำลังพิจารณาเก็บภาษีขายหุ้น (FTT) ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณาในหลายมิติ ประกอบกับรูปแบบภาษีอาจมีผลกระทบที่ซับซ้อนต่อตลาดทุนไทยและเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถเรียนรู้ได้จากประสบการณ์ของตลาดทุนอื่นทั่วโลก ตัวอย่างเช่น ประเทศอินเดียที่เรียกเก็บภาษีคล้ายกัน โดยมีรายได้ภาษีที่เพิ่มขึ้นแต่มีผลกระทบน้อยต่อปริมาณการซื้อขาย ในขณะที่ประเทศสเปนจัดเก็บภาษีได้น้อยลงควบคู่กับปริมาณการเทรดที่ลดลง

นอกจากนี้ อีกหนึ่งในประเด็นสำคัญได้กล่าวถึงความยั่งยืนว่าเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งของตลาดทุนไทยโดยอ้างอิงจากผลการศึกษา ตลาดทุนไทยควรพิจารณาดำเนินตามขั้นตอนอย่างจริงจังเพื่อพัฒนากรอบงานที่จำเป็นต่อประเทศเช่น ตลาดคาร์บอน (Carbon Exchange) และมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม(national green taxonomy) เพื่อสนับสนุนการจัดหาเงินทุนเพื่อความยั่งยืนในการช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ สิ่งนี้อาจนำมาซึ่งความชัดเจนในการจำแนกกลุ่มทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม(taxonomy) ในด้านของการจัดหาเงินทุนระยะยาวที่ยั่งยืนของประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางของภูมิภาคและระดับโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ตลอดจนถึงการจัดตั้งกองทุนสีเขียวโดยมีการร่วมมือกับบริษัทร่วมทุนและการจัดตั้งตลาดคาร์บอนที่เป็นที่ต้องการเพื่อสร้างมูลค่าจากสินทรัพย์คาร์บอนทั้งในประเทศจนถึงระดับภูมิภาค


 นายเชษฐา เทอดไพรสันต์  Senior Partner และ Chairman of McKinsey Indochina, บริษัท McKinsey & Company เปิดเผยว่า เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (net-zero) จึงเป็นโอกาสดีที่จะผลักดันให้ตลาดทุนเดินหน้าสู่การเงินสีเขียว ซึ่งอาจต้องจัดหาเงินทุนที่เหมาะสมเพื่อให้สอดคล้องกับการลดคาร์บอนของเทคโนโลยีที่มีอยู่ ตลอดจนพัฒนาทางเลือกอื่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้นิยามของความยั่งยืนที่กล่าวไว้ข้างต้น ซึ่งในประเทศไทยมีหลากหลายองค์กรที่เริ่มดำเนินโครงการสีเขียวแล้ว อย่างไรก็ดีการเปลี่ยนแปลงทีละก้าวจากวิถีปัจจุบันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการบรรลุเป้าหมายของ NCZ โดยสามารถพิจารณาปฏิบัติได้ภายใต้ 3 ประการหลักดังนี้ 1) เพิ่มการจัดหาเงินทุนโครงการสีเขียวเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนของเทคโนโลยีที่ติดตั้งอยู่แล้วและสนับสนุนการลงทุนในโครงการสีเขียว 2) ต้องมีศักยภาพในการจัดตั้งกองทุนเทคโนโลยีสีเขียวเพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับนวัตกรรมคาร์บอนเป็นศูนย์ และ 3) ประเทศไทยควรพิจารณากลไกการเทรดคาร์บอนซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นให้บริษัทต่าง ๆ ปฏิบัติตามข้อบังคับเกี่ยวกับการปล่อยมลพิษผ่านกลไกของตลาดที่ตั้งไว้ สิ่งนี้จึงสามารถช่วยในการจัดหาคาร์บอนเครดิตคุณภาพสูงสู่ตลาดในภูมิภาค

ผลการศึกษา “ตลาดทุนของทุกคน” ของ CMDF และ สถาบันอนาคตไทยศึกษา (Thailand Future Foundation)  ได้ข้อสรุปว่า การมีส่วนร่วมทางการเงิน จากการสำรวจการเข้าถึงตลาดทุนจากงานวิจัย “ตลาดทุนของทุกคน” พบว่าประเทศไทยยังมีช่องว่างในตลาดทุนในสี่ด้านหลัก คือ ปัญหาการขาดรายได้ การขาดความรู้และทักษะด้านการเงินผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในการเข้าถึงตลาดทุน

   ดร.ณภัทร จาตุศรีพิทักษ์   กรรมการผู้จัดการ สถาบันอนาคตไทยศึกษา (Thailand Future Foundation) เปิดเผยว่าเพื่อให้คนไทยมีความพร้อมด้านความรู้เพื่อเข้าถึงตลาดทุน จึงจำเป็นต้องมีข้อเสนอเชิงนโยบายเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งประกอบด้วย 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) ปรับระบบนิเวศสำหรับการเข้าถึงตลาดทุนโดยเอื้อให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงได้ 2) การเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเงินที่เหมาะสมกับกลุ่มประชากรต่าง ๆ โดยรัฐบาล 3) ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ เช่น การนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความโปร่งใสในการทำงาน 4) การปรับกฎระเบียบด้านการเข้าถึง และ 5) การนำเทคโนโลยีทางการเงินที่ทันสมัยมาใช้ เช่น Decentralized Digital Identity (DDID), เทคโนโลยีบล็อกเชนและสัญญาอัจฉริยะ (smart contract) ตลอดจนอนุญาตให้ซื้อขายทั้งสินทรัพย์ดิจิทัล และแบบดั้งเดิมบนแพลตฟอร์มเดียวกัน เพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์แก่ผู้ลงทุน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน 4 จังหวัดรับมือฝนถล่ม จับตาเส้นทาง “พายุวิภา”

20 ก.ค.- กรมอุตุฯ เตือน 4 จังหวัดรับมือฝนถล่ม “จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา” จับตาเส้นทาง “พายุวิภา” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน 21-22 ก.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่ง อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน โดยมีศูนย์กลางอยุ่ห่างประมาณ 560 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเมืองจ้านเจียง […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย