วัยรุ่นอเมริกันถูกอุโมงค์ทรายชายหาดถล่มทับตาย

นิวเจอร์ซีย์ 18 พ.ค. – วัยรุ่นชายอเมริกันถูกอุโมงค์ทรายชายหาดถล่มทับเสียชีวิตในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ส่วนน้องสาวรอดชีวิตมาได้อย่างฉิวเฉียด หลังทั้งสองคนเล่นขุดอุโมงค์ทรายลึกบนชายหาด แล้วอุโมงค์พังถล่มทับร่างทั้งสองคน ตำรวจรัฐนิวเจอร์ซีย์เผยว่า เลวี แคเวอร์ลีย์  วัยรุ่นชาย วัย 18 ปี จากรัฐเมนของสหรัฐ และน้องสาว วัย 17 ปี ใช้จานร่อนขุดอุโมงค์ทรายลึกที่ชายหาดส่วนบุคคลในย่านเจอร์ซีย์ ชอร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ริมชายฝั่งทะเลเมื่อช่วงบ่ายวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น แต่กลับเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่ออุโมงค์ดังกล่าวพังถล่มทับร่างของทั้งสองคนเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ขณะที่สื่อท้องถิ่นของสหรัฐรายงานว่า เลวีเสียชีวิตหลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงครึ่งในการดึงร่างเขาขึ้นมาจากทราย ส่วนน้องสาวได้รับการช่วยชีวิตและให้การรักษาทางการแพทย์ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของเธอ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นได้แจ้งเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว แต่ก็ยังไม่ได้เผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ในครั้งนี้. -สำนักข่าวไทย

สหรัฐอนุมัติฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในเด็ก 5-11 ปี

วอชิงตัน 18 พ.ค.-สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ หรือเอฟดีเอ ประกาศอนุมัติการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปีแล้ว นพ. โรเบิร์ต คาลิฟฟ์ ผู้บริหารของเอฟดีเอ ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า เอฟดีเอได้อนุมัติการฉีดวัคซีนโควิดเข็มสามในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคโควิดอย่างต่อเนื่อง เด็กกลุ่มนี้ต้องได้รับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มสองแล้วอย่างน้อย 5 เดือน โดยจะใช้วัคซีนเข็มกระตุ้นขนาด 10 ไมโครกรัมเช่นเดียวกับการฉีดวัคซีนเข็มแรกและเข็มสองที่เป็นสูตรสำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี  นพ. คาลิฟฟ์ ยังระบุว่า แม้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่เป็นเด็กมีแนวโน้มจะมีอาการป่วยรุนแรงน้อยกว่าผู้ใหญ่ แต่เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนก็ทำให้มีเด็กมีอาการป่วยและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมากขึ้น รวมถึงอาจทำให้เด็กได้รับผลกระทบระยะยาวจากการป่วย แม้ว่าจะมีอาการป่วยตอนแรกไม่รุนแรงก็ตาม ทั้งนี้ ประกาศของเอฟดีเอมีขึ้นในขณะที่สหรัฐพบยอดผู้ป่วยโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 90,000 คน และมีตัวเลขผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี ระบุว่า สหรัฐมีประชากรเด็กอายุ 5-11 ปี ราว 28 ล้านคน โดยพบเด็กกลุ่มนี้ติดเชื้อโควิด 4.8 ล้านคน และเสียชีวิต 360 คน แม้สหรัฐได้อนุมัติการฉีดวัคซีนโควิดสองเข็มแรกในเด็กอายุ 5-11 ปีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน […]

อนามัยโลกห่วงโควิดระบาดหนักในเกาหลีเหนือ

เจนีวา 18 พ.ค. – องค์การอนามัยโลกแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดรุนแรงของโรคโควิด-19 ในเกาหลีเหนือที่อาจทำให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดตกอยู่ในความเสี่ยง และพร้อมให้ความช่วยเหลือเกาหลีเหนือ รวมถึงวัคซีนโควิด ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก เผยเมื่อวันอังคารตามเวลาในสวิตเซอร์แลนด์ว่า องค์การอนามัยโลกรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิดในเกาหลีเหนือเป็นพิเศษ เพราะชาวเกาหลีเหนือยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด ซึ่งทำให้ผู้ที่มีโรคประจำตัวเสี่ยงต่ออาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตหลังติดเชื้อโควิด องค์การอนามัยโลกขอให้เกาหลีเหนือเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดในครั้งนี้โดยเร็วที่สุด ทั้งยังระบุว่า องค์การอนามัยโลกพร้อมให้ความช่วยเหลือแก่เกาหลีเหนือในด้านต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนด้านเทคนิคและเวชภัณฑ์ ชุดตรวจหาเชื้อโควิด ยารักษาโรค และวัคซีนโควิด เพื่อควบคุมการระบาดในครั้งนี้ ในขณะเดียวกัน นพ. ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่อาจเกิดขึ้นได้ในพื้นที่ที่ไม่เคยพบการระบาดมาก่อน องค์การอนามัยโลกจึงรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับประเด็นนี้อย่างยิ่ง เนื่องจากมีหลายประเทศยังไม่ยอมรับการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่มีอยู่ในขณะนี้ ด้าน พญ. มาเรีย แวน เคอร์โคฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า แนวคิดที่ว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทำให้ผู้ป่วยโควิดมีอาการป่วยเล็กน้อยเป็นความเชื่อที่ผิดและเป็นอันตราย เพราะจะทำให้ประชาชนการ์ดตก ทั้งยังระบุว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนยังคงทำให้ผู้ป่วยที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนมีอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงวัยและผู้ที่มีโรคประจำตัว จนถึงขณะนี้เกาหลีเหนือยังคงไม่แสดงท่าทีตอบรับความช่วยเหลือจากองค์การอนามัยโลก สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่า เกาหลีเหนือพบผู้ป่วยมีไข้เกือบ 1.5 […]

ผู้นำตุรกีย้ำคัดค้าน “ฟินแลนด์-สวีเดน” เข้าร่วมนาโต

อังการา 17 พ.ค. – ประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน ของตุรกี แถลงย้ำว่า เขายังคงคัดค้านไม่ให้ฟินแลนด์และสวีเดนเข้าร่วมเป็นประเทศสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต เนื่องจากไม่พอใจจุดยืนของทั้งสองประเทศที่สนับสนุนกองกำลังติดอาวุธชาวเคิร์ด ซึ่งตุรกีมองว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายทางตอนใต้ของประเทศที่มีพรมแดนติดซีเรีย ประธานาธิบดีแอร์โดอาน กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ตุรกี ซึ่งเป็นสมาชิกสำคัญของนาโต ยังคงคัดค้านไม่ให้ฟินแลนด์และสวีเดนเข้าร่วมเป็นประเทศสมาชิกของนาโต เนื่องจากทั้งสองประเทศให้การสนับสนุนกองกำลังติดอาวุธชาวเคิร์ด ซึ่งตุรกีมองว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย และไม่ยอมแสดงจุดยืนที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งยังระบุว่า สวีเดนและฟินแลนด์ไม่จำเป็นต้องส่งตัวแทนมายังกรุงอังการา เพื่อเกลี้ยกล่อมให้ตุรกีเห็นด้วยกับการเข้าร่วมเป็นประเทศสมาชิกของนาโต ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ระบุว่า การที่สวีเดนกับฟินแลนด์สมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกของนาโต ซึ่งมีสมาชิก 30 ประเทศ ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อรัสเซียโดยตรง แต่เน้นย้ำว่ารัสเซียพร้อมตอบโต้ในทันที หากมีการขยายโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร ทั้งนี้ หากฟินแลนด์และสวีเดนต้องการเข้าร่วมเป็นประเทศสมาชิกของนาโต จะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากประเทศสมาชิกทั้งหมด 30 ประเทศ ดังนั้น ทั้งสองประเทศจึงต้องการเสียงสนับสนุนจากตุรกีด้วยเช่นกัน ก่อนหน้านี้ ตุรกีเคยกล่าวหาสวีเดนกับฟินแลนด์ว่าให้ที่พักพิงแก่สมาชิกของพรรคแรงงานเคอร์ดิสถานที่ตุรกีมองว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย รวมถึงคณะผู้ติดตามของศาสนจารย์เฟตุลเลาะห์ กุเลน นักเทศน์ชาวตุรกี วัย 81 ปี ที่ตุรกีอ้างว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มทหารที่พยายามก่อรัฐประหารในปี 2559. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ ศรีลังกาเผยเหลือน้ำมันสำรองใช้อีกแค่วันเดียว

โคลอมโบ 17 พ.ค. – นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรามาสิงหะ ของศรีลังกา เผยว่า ศรีลังกามีน้ำมันสำรองเหลือใช้อีกแค่ 1 วันเท่านั้น ในขณะที่กำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 70 ปี นายกรัฐมนตรีวิกรามาสิงหะ วัย 73 ปี ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของศรีลังกาเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม แถลงผ่านโทรทัศน์ในวันนี้ว่า ตอนนี้ศรีลังกาเหลือน้ำมันสำรองใช้อีกเพียงวันเดียวเท่านั้น แต่การนำเข้าน้ำมันเบนซินและดีเซลด้วยวงเงินสินเชื่อกับอินเดียจะทำให้จัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นอกจากนี้ ศรีลังกายังต้องการเงินตราต่างประเทศโดยด่วน 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,600 ล้านบาท) เพื่อนำไปชำระค่านำเข้าสินค้าจำเป็นในอีกไม่กี่วันเช่นกัน นายกรัฐมนตรีวิกรามาสิงหะยังระบุว่า เขาจำเป็นต้องขอให้ธนาคารกลางของศรีลังกาพิมพ์ธนบัตรเพิ่มขึ้นเพื่อนำมาจ่ายเงินเดือนให้พนักงานของรัฐและนำไปใช้จ่ายสินค้าและบริการที่จำเป็น แต่การทำเช่นนี้จะทำให้สกุลเงินรูปีศรีลังกาอ่อนค่าลง นอกจากนี้ เขายังเสนอแผนขายสายการบินศรีลังกา แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินประจำชาติของศรีลังกา เพื่อพยุงฐานะด้านการเงินของประเทศ เนื่องจากศรีลังกา แอร์ไลน์ ประสบปัญหาขาดทุนราว 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,500 ล้านบาท) ในปีการเงินสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2564 บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ศรีลังกาต้องเผชิญกับเหตุประท้วงทั่วประเทศเพื่อต่อต้านประธานาธิบดีโกตาบายา […]

เกษตรกรอินโดนีเซียร้อง รบ. เลิกสั่งระงับส่งออกน้ำมันปาล์ม

จาการ์ตา 17 พ.ค. – เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันอินโดนีเซียหลายร้อยคนออกมาชุมนุมในกรุงจาการ์ตาและอีกหลายเมือง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกคำสั่งระงับส่งออกน้ำมันปาล์มไปต่างประเทศ ซึ่งทำให้เกษตรกรมีรายได้น้อยลง สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานวันนี้ว่า เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันอินโดนีเซียหลายร้อยคนได้มาชุมนุมหน้ากระทรวงประสานงานกิจการเศรษฐกิจของอินโดนีเซียพร้อมด้วยรถกระบะบรรทุกทะลายปาล์ม ผู้ชุมนุมถือป้ายประท้วงที่มีข้อความว่า “เกษตรกรมาเลเซียได้ผลประโยชน์ในขณะที่เกษตรกรอินโดนีเซียต้องทุกข์ทรมาน” เนื่องจากมาเลเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่อันดับสองของโลก รองจากอินโดนีเซีย และตั้งเป้าส่งออกน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยสัดส่วนที่หายไปหลังอินโดนีเซียประกาศระงับส่งออกน้ำมันปาล์มตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน สมาคมเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันของชาวอินโดนีเซีย (APKASINDO) ระบุในแถลงการณ์ว่า ราคาปาล์มน้ำมันในประเทศร่วงกว่าร้อยละ 70 และต่ำกว่าราคาขั้นต่ำที่ทางการท้องถิ่นกำหนดไว้ สมาคมฯ ยังคาดการณ์ว่า โรงงานรับซื้อปาล์มน้ำมันไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 ได้หยุดซื้อปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรรายย่อยแล้ว นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังวางแผนเดินทางไปชุมนุมหน้าทำเนียบประธานาธิบดีอินโดนีเซีย รวมถึงจัดการชุมนุมในอีก 22 จังหวัดทั่วประเทศ ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย ประกาศระงับส่งออกน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หลังจากล้มเหลวในการใช้นโยบายต่าง ๆ เพื่อควบคุมปัญหาราคาสินค้าครัวเรือนปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ผลสำรวจล่าสุดของ Indikator Politik Indonesia พบว่า ประธานาธิบดีวิโดโดมีคะแนนนิยมลดเหลือเพียงร้อยละ 58.1 ในเดือนนี้หลังเผชิญกับปัญหาสินค้าราคาแพง ต่ำที่สุดนับจากเดือนธันวาคม 2558 ที่มีคะแนนนิยมเพียงร้อยละ 53 ด้านรัฐมนตรีกระทรวงประสานงานกิจการเศรษฐกิจของอินโดนีเซียเผยว่า รัฐบาลจะใช้คำสั่งห้ามส่งออกปาล์มน้ำมัน […]

สิงคโปร์คิดค้นยาแคปซูลดูดซึมไขมันจากเส้นใยใบสับปะรด

สิงคโปร์คิดค้นยาแคปซูลและขนมปังกรอบผลิตจากเส้นใยของใบสับปะรดที่มีสรรพคุณช่วยดูดซึมไขมัน ซึ่งเป็นแนวทางที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนด้วยการนำใบสับปะรดมาใช้ให้เกิดประโยชน์

เกาหลีเหนือระดมทหาร-จนท. สาธารณสุขรับมือโควิดระบาด

เปียงยาง 17 พ.ค. – เกาหลีเหนือสั่งระดมกำลังทหารแจกจ่ายยารักษาโรคโควิด-19 และสั่งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกว่า 10,000 คนลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อโควิดท่ามกลางสถานการณ์ระบาดรุนแรง สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่า สำนักงานป้องกันโรคระบาดฉุกเฉินของเกาหลีเหนือระบุว่า พบผู้ป่วยที่มีไข้เพิ่มขึ้น 269,510 ทำให้มีผู้ป่วยเป็นไข้สะสมกว่า 1.48 ล้านคน และมียอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 56 คน นับถึงช่วงค่ำวันจันทร์ แต่ไม่ได้เปิดเผยว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดกี่คน นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือได้สั่งให้กองทหารสังกัดหน่วยแพทย์กองทัพบกลงพื้นที่ช่วยแจกจ่ายยารักษาโรคโควิดให้แก่ประชาชนในกรุงเปียงยาง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดในครั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาจัดส่งยาล่าช้าและคลี่คลายวิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุขในเมืองหลวงของเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ ยังสั่งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขราว 11,000 คน ซึ่งรวมถึงคุณครูและนักเรียนแพทย์ ลงพื้นที่ช่วยตรวจหาเชื้อโควิดให้แก่ประชาชนทั่วประเทศและรักษาผู้ป่วยที่มีไข้ ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลกได้ออกมาเตือนว่า เกาหลีเหนืออาจเผชิญกับสถานการณ์ระบาดอย่างรวดเร็วโดยที่เกาหลีเหนือยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดให้ประชาชนและไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ขณะที่เกาหลีใต้เผยเมื่อวันจันทร์ว่ายินดีที่จะส่งความช่วยเหลือด้านยารักษาโรคและเวชภัณฑ์ เช่น วัคซีนป้องกันโรคโควิด หน้ากากอนามัย และชุดตรวจหาเชื้อโควิด ให้เกาหลีเหนือ แต่ระบุว่า เกาหลีเหลือยังไม่ตอบรับความช่วยเหลือในครั้งนี้ ด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการระบาดของโรคโควิดในเกาหลีเหนือ และพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านวัคซีนโควิดแก่เกาหลีเหนือ. -สำนักข่าวไทย

ยูเครนเร่งอพยพทหารที่เหลือออกจากเมืองมารีอูปอล

เคียฟ 17 พ.ค. – กองทัพยูเครนเผยวันนี้ว่า กำลังเร่งอพยพทหารยูเครนที่เหลืออยู่ทั้งหมดออกจากโรงงานเหล็กอาซอฟสตอล ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของยูเครนในเมืองมารีอูปอลที่ถูกรัสเซียปิดล้อมมานานหลายเดือนและโจมตีจนย่อยยับ โดยยอมให้รัสเซียยึดครองเมืองนี้ กองทัพยูเครนระบุในแถลงการณ์ขณะประกาศอพยพทหารของจากโรงงานอาซอฟสตอลว่า กองทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องเมืองมารีอูปอล ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ของยูเครน ได้ยุติภารกิจดังกล่าวแล้ว ขณะที่อันนา มัลยาร์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมของยูเครนระบุว่า ได้อพยพทหารบาดเจ็บ 53 นายออกจากโรงงานเหล็กและส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในเมืองโนโวอาซอฟสก์ที่รัสเซียยึดครองอยู่ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองมารีอูปอลไปทางตะวันออกราว 32 กิโลเมตร ส่วนทหารอีก 211 นายถูกส่งตัวไปยังเมืองโอเลนิฟกา ซึ่งถูกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียหนุนหลังยึดครอง ทั้งยังระบุว่า ยูเครนจะนำตัวนักโทษรัสเซียไปแลกตัวกับผู้อพยพออกจากโรงงานเหล็กอาซอฟสตอล ทั้งนี้ ยังไม่ทราบตัวเลขแน่ชัดว่ามีทหารยูเครนติดอยู่ในโรงงานเหล็กอีกเท่าใด เนื่องจากกองทัพยูเครนระบุว่า กำลังเร่งช่วยอพยพทหารที่ยังคงติดอยู่ในโรงงานแห่งนี้ ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุในแถลงการณ์เมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ว่า ทางการยูเครนหวังว่าจะสามารถช่วยชีวิตทหารทั้งหมดที่ติดอยู่ในโรงงานเหล็กอาซอฟสตอล เนื่องจากทหารจำนวนหนึ่งมีอาการบาดเจ็บสาหัสและต้องได้รับการรักษาโดยด่วน ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า รถบัส 5 คันพาทหารออกจากโรงงานเหล็กเดินทางถึงเมืองโนโวอาซอฟสก์ตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ ทหารบางส่วนได้รับบาดเจ็บและต้องใช้เปลหามเคลื่อนย้ายเข้าโรงพยาบาล คาดกันว่ามีทหารราว 600 นายติดอยู่ในโรงงานเหล็กอาซอฟสตอล. -สำนักข่าวไทย

ฟินแลนด์ประกาศเข้าร่วม “นาโต” โดยเร็วที่สุด

เฮลซิงกิ 12 พ.ค.-ประธานาธิบดีเซาลี นีนิสเตอ ของฟินแลนด์ และนายกรัฐมนตรีซานนา มาริน ของฟินแลนด์ เผยร่วมกันว่า ฟินแลนด์ต้องสมัครเป็นประเทศสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต โดยเร็วที่สุด ท่ามกลางสถานการณ์ที่รัสเซียกำลังเดินหน้าบุกโจมตียูเครน ประธานาธิบดีนีนิสเตอและนายกรัฐมนตรีมารินระบุในแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า ฟินแลนด์ต้องสมัครเป็นประเทศสมาชิกของนาโตโดยเร็วที่สุด และคาดว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการตัดสินใจเรื่องนี้ภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ขณะที่แหล่งข่าวไม่เผยนามที่เป็นนักการทูตและเจ้าหน้าที่ระดับสูงเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สก่อนหน้านี้ว่า ชาติพันธมิตรของนาโตคาดว่าฟินแลนด์และสวีเดนจะสมัครเป็นประเทศสมาชิกของนาโตในอีกไม่กี่วันนี้ และนาโตจะอนุมัติคำขอดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ในขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์เอ็กซ์เพรสเซนของสวีเดนรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เผยนามว่า รัฐบาลสวีเดนวางแผนยื่นสมัครเป็นประเทศสมาชิกของนาโตในสัปดาห์หน้า โดยที่รัฐสภาสวีเดนจะเปิดอภิปรายเกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคงของประเทศในวันจันทร์ ส่วนนายกรัฐมนตรีแมกดาเลนา แอนเดอร์สสัน ของสวีเดน จะเปิดประชุมคณะรัฐมนตรีวาระพิเศษเพื่อลงมติอย่างเป็นทางการในการเข้าร่วมเป็นประเทศสมาชิกของนาโต ซึ่งคาดว่ารัฐบาลสวีเดนจะยื่นใบสมัครต่อนาโตทันทีหลังเสร็จสิ้นการประชุมดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำอังกฤษเผยไม่คิดกลับไปฟื้นสัมพันธ์ “ปูติน”

ลอนดอน 12 พ.ค. – นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ระบุวันนี้ว่า เขาไม่คิดที่จะกลับไปฟื้นความสัมพันธ์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียอีกต่อไป หลังรัสเซียนำกำลังทหารบุกโจมตียูเครนตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรีจอห์นสันถูกตั้งคำถามในระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุแอลบีซีของอังกฤษว่า ประธานาธิบดีปูตินจะได้รับการต้อนรับในเวทีโลกหรือไม่ในกรณีที่เขากลับตัวกลับใจ ผู้นำอังกฤษตอบว่า ประธานาธิบปูตินคงยากที่จะกลับตัวกลับใจในตอนนี้ แต่เขาคิดว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้เขาไม่คิดที่จะกลับไปฟื้นความสัมพันธ์กับผู้นำรัสเซียในตอนนี้ก็ตาม นายกรัฐมนตรีจอห์นสันยังระบุว่า ตอนนี้ทั่วโลกกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยในอดีตที่รัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียมาเป็นของตัวเองในปี 2557 และไม่มีใครเห็นด้วยกับวิธีเช่นนี้ ทั่วโลกจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย แต่ในขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสในการเจรจากับประธานาธิบดีปูตินเกี่ยวกับอนาคตข้างหน้า แต่ผู้นำรัสเซียกลับเลือกที่จะบุกโจมตียูเครนหนักกว่าเดิม ถ้ายูเครนยินยอมที่จะทำข้อตกลงใด ๆ กับประธานาธิบดีปูตินในตอนนี้ ก็จะทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะซ้ำรอยเดิมในประวัติศาสตร์อย่างที่ทุกคนรู้กันดี เขาจึงขอเน้นย้ำชัดเจนอีกครั้งว่า อังกฤษจะไม่กลับไปฟื้นความสัมพันธ์กับประธานาธิบดีปูตินอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ผู้โดยสารขับเครื่องบินลงจอดในสหรัฐหลังนักบินป่วยกลางอากาศ

ไมอามี 12 พ.ค. – องค์การบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐ หรือเอฟเอเอ เผยว่า ผู้โดยสารคนหนึ่งที่ไม่มีประสบการณ์ขับเครื่องบินมาก่อน สามารถนำเครื่องบินส่วนตัวขนาดเล็กลงจอดได้อย่างปลอดภัยที่สนามบินในรัฐฟลอริดาเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น หลังนักบินมีอาการป่วยจนขับเครื่องบินต่อไม่ได้ เอฟเอเอระบุว่า ผู้โดยสารคนดังกล่าวสามารถนำเครื่องบินเซสนา 208 (Cessna 208) ซึ่งเป็นเครื่องบินใบพัดเดี่ยว ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติปาล์มบีชในรัฐฟลอริดาได้อย่างปลอดภัยเมื่อเวลา 12.30 น. ของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น หลังเครื่องบินลำนี้ได้ออกเดินทางจากเมืองมาร์ชฮาร์เบอร์ของบาฮามาส ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของรัฐฟลอริดา ได้เพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยที่บนเครื่องบินมีนักบิน 1 คนและผู้โดยสาร 2 คน เอฟเอเอยังระบุว่า หลังออกเดินทางขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ราว 1 ชั่วโมง นักบินแจ้งว่าเขารู้สึกไม่สบายก่อนที่จะหมดสติคาเก้าอี้ จากนั้นเครื่องบินก็ดิ่งลงสู่พื้นโลกอย่างรวดเร็วจนทำให้ผู้โดยสารคนหนึ่งตัดสินใจบังคับเครื่องบินแทนนักบินที่หมดสติทั้งที่เขาไม่มีประสบการณ์ขับเครื่องบินมาก่อน ข้อความบันทึกเสียงสนทนาระหว่างผู้โดยสารกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศระบุว่า ผู้โดยสารคนนี้สื่อสารกับเจ้าหน้าที่ว่า นักบินมีอาการป่วยจนไม่สามารถขับเครื่องบินได้ และเขาก็บังคับเครื่องบินไม่เป็น อีกทั้งยังไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังบินอยู่เหนือพื้นที่ใด  อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศได้ให้คำแนะนำผู้โดยสารคนดังกล่าวเกี่ยวกับการรักษาระดับบินและการบินไปตามแนวชายฝั่งไปจนถึงการช่วยให้ผู้โดยสารคนนี้นำเครื่องบินลงจอดได้อย่างปลอดภัยที่ท่าอากาศยานปาล์มบีช ทั้งนี้ เอฟเอเอระบุว่า หลังลงจอดฉุกเฉินได้ที่ท่าอากาศยานดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวนักบินที่มีอาการป่วยไปรักษาในโรงพยาบาลใกล้เคียง ส่วนผู้โดยสารทั้งสองคนไม่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สุดระทึกในครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย

1 82 83 84 85 86 315