สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตจากโควิดทะลุ 1 ล้านคนแล้ว

นิวยอร์ก 12 พ.ค. – สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทะลุ 1 ล้านคนแล้ว นับตั้งแต่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายแรกเมื่อสองปีก่อน ข้อมูลที่สำนักข่าวรอยเตอร์สบันทึกไว้พบว่า สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดทะลุ 1 ล้านคนแล้ว นับตั้งแต่องค์การอนามัยโลกประกาศให้โรคโควิดเป็นโรคระบาดทั่วโลกเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่สหรัฐมีตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดเพียง 36 คน แต่ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น การระบาดของโรคโควิดในสหรัฐก็ลุกลามอย่างรวดเร็วราวกับไฟป่า เนื่องจากพบการระบาดรุนแรงในหลายเมืองที่มีประชากรหนาแน่น เช่น นครนิวยอร์ก ก่อนที่จะแพร่กระจายไปทั่วประเทศ ก่อนหน้านี้ สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดแซงหน้าตัวเลขทหารสหรัฐที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อเดือนมิถุนายน 2563 และสูงกว่าตัวเลขทหารสหรัฐที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อมียอดผู้เสียชีวิตจากโควิดกว่า 405,000 คนในเดือนมกราคม 2564 ขณะนี้ ทั่วโลกมียอดผู้เสียชีวิตจากโควิดกว่า 6.7 ล้านคน แต่องค์การอนามัยโลกระบุว่า ตัวเลขที่แท้จริงของผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดทั้งทางตรงและทางอ้อมอาจมีสูงถึง 15 ล้านคนทั่วโลก.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้เครื่องบิน “ทิเบต แอร์ไลน์” ในสนามบินจีน

ฉงชิ่ง 12 พ.ค. – เครื่องบินของสายการบินทิเบต แอร์ไลน์ เกิดเหตุไฟลุกไหม้ขณะอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติฉงชิ่งเจียงเป่ยในนครฉงชิ่ง ทางตะวันตกของจีน เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ขณะที่ผู้โดยสาร 113 คนและลูกเรือ 9 คนอพยพหนีออกจากเครื่องบินได้อย่างปลอดภัย สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางของจีน หรือซีซีทีวี เผยแพร่คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นภาพไฟลุกท่วมเครื่องบินของสายการบินทิเบต แอร์ไลน์ เที่ยวบิน TV9833 หลังประสบเหตุไถลออกนอกลานบินในขณะที่กำลังออกเดินทางจากนครฉงชิ่งไปยังเมืองหลินจือในเขตปกครองตนเองทิเบต ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เมื่อเวลา 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 09.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ซีซีทีวียังรายงานว่า ผู้โดยสารบนเครื่องบินได้หนีออกจากเครื่องบินที่ลุกไหม้ผ่านสไลด์ฉุกเฉินทางประตูหลังและพากันวิ่งหนีออกห่างจากเครื่องบิน ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ของสนามบินสามารถดับไฟที่ลุกไหม้เครื่องบินลำนี้ได้แล้ว พร้อมทั้งสั่งปิดลานบินที่เป็นจุดเกิดเหตุ ในขณะเดียวกัน สายการบินทิเบต แอร์ไลน์ ได้ระบุผ่านเวย์ปั๋ว แฟลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังของจีนแบบเดียวกันกับทวิตเตอร์ว่า ผู้โดยสาร 113 คนและลูกเรือ 9 คนสามารถหนีออกจากเครื่องบินได้อย่างปลอดภัย แต่มีผู้โดยสารบางส่วนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาแล้ว ทั้งยังระบุว่า สายการบินฯ จะเร่งสืบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ โดยเครื่องบินแอร์บัส A319-100 ที่ใช้ในเที่ยวบินดังกล่าวมีอายุใช้งาน 9 ปีครึ่ง ขณะที่ท่าอากาศยานฉงชิ่งเจียงเป่ยเผยผ่านเวย์ปั๋วว่า […]

เผยสหรัฐอยากให้อาเซียนใช้วิถีการทูตในเมียนมามากขึ้น

วอชิงตัน 12 พ.ค. – เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐเผยว่า สหรัฐต้องการให้บรรดาผู้นำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีบทบาทมากขึ้นในการทำให้เมียนมาหวนกลับเข้าสู่เส้นทางระบอบประชาธิปไตยหลังเกิดเหตุรัฐประหารเมื่อปีก่อน ในขณะที่การประชุมระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐกับผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเปิดฉากขึ้นในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่กรุงวอชิงตันตามเวลาท้องถิ่น นายเคิร์ต แคมป์เบลล์ เจ้าหน้าที่ประสานงานภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐระบุว่า รัฐบาลสหรัฐจะสนับสนุนให้ใช้วิธีเจรจาทางการทูตมากขึ้นในประเด็นเกี่ยวกับเมียนมาในระหว่างการประชุมกับบรรดาผู้นำของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ในพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐคาดหวังให้อาเซียนจริงจังกับการเข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลทหารเมียนมากับฝ่ายต่อต้านรัฐประหาร รวมถึงแนวทางทางการทูตเกี่ยวกับอนาคตของเมียนมา โดยที่สหรัฐจะยังคงมีบทบาทในการสนับสนุนและร่วมมือกับชาติพันธมิตรอื่น ๆ เพื่อแก้ไขปัญหานี้เช่นกัน ทั้งยังระบุว่า สหรัฐเห็นว่าอาเซียนได้เริ่มลงมือแก้ไขวิกฤตการณ์ในเมียนมา ซึ่งรวมถึงการแต่งตั้งทูตพิเศษเข้าไปเจรจากับนายพลของเมียนมา แต่ก็ยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ก่อนหน้านี้ อาเซียนได้ตัดสินใจไม่เชิญพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนจนกว่ารัฐบาลทหารเมียนมาจะยอมทำตามฉันทามติ 5 ข้อตามที่ตกลงไว้กับอาเซียนเมื่อปีก่อนเพื่อยุติสถานการณ์รุนแรงในประเทศนับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหารและจับกุมบรรดาผู้นำพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งรวมถึงนางออง ซาน ซู จี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีก่อน.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีเหนือพบผู้ป่วยโควิดรายแรกในประเทศ

เปียงยาง 12 พ.ค. – เกาหลีเหนือยืนยันอย่างเป็นทางการในวันนี้ว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายแรกในประเทศและสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศ โดยที่ผู้ป่วยโควิดรายดังกล่าวติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในกรุงเปียงยาง สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่า เกาหลีเหนือเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งใหญ่ในประเทศ เนื่องจากมีช่องโหว่ในด้านกักโรค ทั้งที่มาตรการนี้ช่วยให้เกาหลีเหนือปลอดจากการระบาดของโรคโควิดมาเป็นเวลากว่า 2 ปี 3 เดือนนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 รายงานดังกล่าวระบุว่า มีชาวเกาหลีเหนือในกรุงเปียงยางติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ทางการเก็บตัวอย่างส่งตรวจของผู้ป่วยติดเชื้อเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม แต่ไม่ได้เปิดเผยยอดผู้ป่วยโควิดหรือข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของโรค รายงานดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เป็นประธานเปิดประชุมพรรคแรงงานเกาหลีเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางควบคุมการระบาดของโรคโควิด นายคิมได้สั่งให้ใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดทั่วประเทศเพื่อป้องกันการระบาดในครั้งนี้ และสั่งให้เจ้าหน้าที่เร่งสำรองเวชภัณฑ์ฉุกเฉินโดยด่วน ก่อนหน้านี้ แม้เกาหลีเหนือยืนกรานมาตลอดว่าไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในประเทศ แต่เจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้และสหรัฐตั้งข้อสังเกตว่าไม่น่าเป็นไปได้ เนื่องจากได้รับรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนจำนวนมากในหลายเมืองของเกาหลีเหนือที่มีพรมแดนติดเกาหลีใต้กับจีน ทั้งนี้ เกาหลีเหนือเคยปฏิเสธไม่รับวัคซีนป้องกันโรคโควิดจากโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลกและวัคซีนซิโนแวกจากจีน.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาจับปลากระเบนยักษ์ยาว 4 เมตรได้ในแม่น้ำโขง

คณะผู้เชี่ยวชาญของโครงการ  ‘อัศจรรย์แม่น้ำโขง’ (Wonders of the Mekong) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ เผยวันนี้ว่า ชาวประมงกัมพูชารู้สึกตกใจอย่างมากหลังจับปลากระเบนน้ำจืดยักษ์ใกล้สูญพันธุ์ได้โดยบังเอิญ โดยที่ปลากระเบนตัวนี้มีลำตัวยาว 4 เมตรและมีน้ำหนัก 180 กิโลกรัม

นิวซีแลนด์จ่อเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ส.ค.นี้

เวลลิงตัน 11 พ.ค.-นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ เผยวันนี้ว่า นิวซีแลนด์จะเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบในเดือนสิงหาคมนี้ หลังใช้มาตรการคุมเข้มพรมแดนเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 มาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นระบุว่า นิวซีแลนด์จะเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบและยกเลิกการตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทางเข้าประเทศตั้งแต่เวลา 23.59 น. ของวันที่ 31 กรกฎาคม โดยได้เลื่อนเร็วขึ้นจากเดิมกว่า 2 เดือน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทั้งยังระบุว่า การเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบถือเป็นข่าวดีสำหรับครอบครัว ผู้ประกอบการธุรกิจ และผู้ย้ายถิ่นฐาน รวมถึงสายการบินและบริษัทเดินเรือที่ต้องวางแผนเตรียมความพร้อมเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติสู่นิวซีแลนด์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวที่มีนักเดินทางหนาแน่น ก่อนหน้านี้ นิวซีแลนด์ได้ประกาศใช้มาตรการคุมเข้มพรมแดนนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด โดยที่นิวซีแลนด์จัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดต่ำสุดเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์หลายรายได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่ามาตรการดังกล่าวไม่มีความยืดหยุ่น ขาดความเห็นอกเห็นใจ และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ขณะนี้ นิวซีแลนด์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1 ล้านคน และผู้เสียชีวิต 855 คน. -สำนักข่าวไทย

นักข่าว “อัลจาซีรา” ถูกยิงตายในเขตเวสต์แบงก์

เยรูซาเลม 11 พ.ค. – นักข่าวหญิงของสถานีโทรทัศน์อัลจาซีราของกาตาร์ถูกยิงเสียชีวิตในขณะรายงานข่าวกองทัพอิสราเอลปฏิบัติการจู่โจมเมืองเจนินในเขตเวสต์แบงก์ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น กระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์ระบุว่า ชีรีน อาบู อักเลห์ ผู้สื่อข่าวหญิงชาวปาเลสไตน์ชื่อดังของอัลจาซีราถูกยิงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้สื่อข่าวชาวปาเลสไตน์อีกคนของหนังสือพิมพ์อัล-กุดส์ (Al-Quds) ที่มีสำนักงานใหญ่ในนครเยรูซาเลมได้รับบาดเจ็บแต่มีอาการคงที่แล้ว ทั้งยังอ้างว่า ผู้สื่อข่าวทั้งสองคนถูกกองทัพอิสราเอลยิงกระสุนใส่ ขณะที่คลิปวิดีโอของเหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า อาบู อักเลห์ สวมเสื้อเกราะกันกระสุนสีน้ำเงินที่มีคำว่า ‘สื่อมวลชน’ (PRESS) อยู่บนเสื้อ ในขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลเผยว่า ทหารอิสราเอลถูกระดมยิงและถูกระเบิดโจมตีอย่างหนักในระหว่างปฏิบัติภารกิจที่เมืองเจนิน ทำให้กองทหารตัดสินใจยิงตอบโต้ ทั้งยังระบุว่า กองทัพกำลังเร่งสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและหาสาเหตุถึงความเป็นไปได้ที่นักข่าวทั้งสองคนถูกกระสุนจากกลุ่มมือปืนชาวปาเลสไตน์หรือไม่ ด้านรัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่างประเทศของกาตาร์ได้ออกมาประณามเหตุยิงนักข่าวของอัลจาซีราเสียชีวิตในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครองโดยอิสราเอล ก่อนหน้านี้ อิสราเอลได้ส่งกองทหารไปปฏิบัติการจู่โจมเกือบทุกวันในเขตเวสต์แบงก์ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาในขณะที่อิสราเอลต้องเผชิญกับเหตุโจมตีรุนแรงหลายครั้งในประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฝีมือของชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ทั้งในและรอบนอกเมืองเจนิน. -สำนักข่าวไทย

“Apple” ประกาศเลิกผลิต “iPod” ถาวรแล้ว

ซานฟรานซิสโก 11 พ.ค. – แอปเปิล อิงค์ บริษัทผู้ผลิตสมาร์ตโฟนรายใหญ่ของโลก ประกาศยุติการผลิตอุปกรณ์ฟังเพลงแบบพกพาในตระกูล ‘ไอพ็อด’ (iPod) หลังวางจำหน่ายมาเป็นเวลากว่า 20 ปี  แอปเปิลระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า บริษัทจะยุติการผลิตสินค้าตระกูลไอพ็อด แต่ยังคงวางจำหน่าย ‘ไอพ็อด ทัช’ (iPod Touch) ซึ่งเป็นไอพ็อดรุ่นสุดท้าย จนกว่าสินค้าจะขายหมด แอปเปิลเปิดตัวไอพ็อดรุ่นแรกเมื่อปี 2544 ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมเครื่องเล่นเพลงแบบพกพาก่อนถูกบดบังด้วยสมาร์ตโฟน บริการสตรีมมิงเพลงออนไลน์ และไอโฟนในปัจจุบัน ก่อนหน้านี้ ไอพ็อดได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องหลายครั้งจนกระทั่งมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยปุ่มควบคุมการทำงานแบบวงกลม  (scroll wheel) จุเพลงได้มากถึง 1,000 เพลง และเปิดใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมง ส่วนไอพ็อด ทัช เปิดตัวครั้งแรกในปี 2550 ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับที่แอปเปิลเปิดตัวไอโฟน ทั้งนี้ แอปเปิลหยุดรายงานยอดจำหน่ายของไอพ็อดมาตั้งแต่ปี 2558. -สำนักข่าวไทย

อนามัยโลกชี้ยุทธศาสตร์โควิดเป็นศูนย์ของจีนไม่ยั่งยืน

เจนีวา 11 พ.ค. – ดร. ทีโดส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า ยุทธศาสตร์ทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเป็นศูนย์ของจีนไม่ยั่งยืน เมื่อพิจารณาถึงพฤติกรรมและแนวโน้มการระบาดของเชื้อโควิดในอนาคต ดร. ทีโดรส กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันอังคารตามเวลาในสวิตเซอร์แลนด์ว่า องค์การอนามัยโลกมองว่ายุทธศาสตร์ทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์ไม่ยั่งยืน เมื่อพิจารณาถึงพฤติกรรมและแนวโน้มการระบาดของเชื้อโควิดในอนาคต องค์การอนามัยโลกได้หารือเรื่องนี้กับผู้เชี่ยวชาญของจีนและชี้ให้เห็นว่ายุทธศาสตร์ที่จีนใช้อยู่นั้นไม่ยั่งยืน เขาคิดว่าการเปลี่ยนแนวทางควบคุมโรคโควิดในจีนเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากปัจจุบันมีข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อโควิดและเครื่องมือทางการแพทย์เพิ่มขึ้นในการรับมือกับการระบาด ในขณะเดียวกัน นพ. ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก เผยในงานเดียวกันว่า องค์การอนามัยโลกเน้นย้ำมาโดยตลอดว่าจำเป็นต้องใช้มาตรการควบคุมโรคโควิดอย่างสมดุลเพื่อลดผลกระทบต่อสังคม เช่น ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ยุทธศาสตร์ทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์ในจีนกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากนักวิทยาศาสตร์และประชาชน เนื่องจากทางการจีนได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดในหลายเมืองจนทำให้ประชาชนหลายล้านคนไม่พอใจอย่างมาก ในขณะที่หลายประเทศที่เคยใช้ยุทธศาสตร์เดียวกับจีนต่างหันไปใช้แนวทางใช้ชีวิตร่วมกับเชื้อโควิดกันหมดแล้ว ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 220,700 คน และผู้เสียชีวิตเกือบ 5,200 คน. -สำนักข่าวไทย

สหรัฐเผย “ปูติน” วางแผนทำสงครามยาวนานในยูเครน

วอชิงตัน 11 พ.ค. – หน่วยข่าวกรองสหรัฐเตือนว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กำลังวางแผนทำสงครามยาวนานในยูเครน เพราะถึงแม้รัสเซียจะคว้าชัยชนะในภูมิภาคตะวันออกของยูเครนได้ ก็ไม่อาจยุติความขัดแย้งในครั้งนี้ แอวริล เฮนส์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐ กล่าวรายงานต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า ประธานาธิบดีปูตินยังคงมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายที่เหนือกว่าการยึดภูมิภาคดอนบาส แต่ก็ประสบปัญหาด้านขีดความสามารถทางทหารรัสเซียในตอนนี้ ซึ่งสวนทางกับความต้องการของเขา ทั้งยังระบุว่า ผู้นำรัสเซียอาจกำลังรอให้การสนับสนุนยูเครนของสหรัฐและชาติยุโรปลดน้อยลง เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อ ขาดแคลนอาหาร และราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้น อย่างไรก็ดี เฮนส์ตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีปูตินอาจหันไปใช้การโจมตีที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิมในสงครามครั้งนี้ แม้รัสเซียจะสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ก็ต่อเมื่อผู้นำรัสเซียเห็นว่ามีภัยคุกคามต่อประเทศก็ตาม ขณะที่สกอตต์ แบริเออร์ ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวว่า ขณะนี้รัสเซียกับยูเครนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีฝ่ายใดเอาชนะกันได้ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี ระบุว่า คำเตือนของหน่วยข่าวกรองสหรัฐมีขึ้นในขณะที่กองทัพรัสเซียยังคงบุกโจมตีภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน อย่างหนักหน่วงเพื่อยึดครองพื้นที่ดังกล่าว หลังยูเครนสามารถต้านทานการโจมตีกรุงเคียฟจนรัสเซียต้องถอนกำลังออกไปในที่สุด ในขณะเดียวกัน กองทัพยูเครนอ้างว่าสามารถยึดพื้นที่ของ 4 เมืองในแคว้นคาร์คิฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน คืนจากรัสเซียได้แล้ว ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยว่า ยูเครนประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อย ๆ จากการขับไล่กองทัพรัสเซียออกจากภูมิภาคคาร์คิฟ ซึ่งถูกรัสเซียเปิดฉากโจมตีอย่างหนักมาตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์. […]

จีนว่ากลุ่มจี 7 ห่วงเลือกตั้งฮ่องกงเป็นการแทรกแซงกิจการภายใน

ปักกิ่ง 10 พ.ค. – จีนระบุวันนี้ว่า การที่กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือจี 7 ออกมาแสดงความวิตกกังวลต่อกระบวนการเลือกตั้งผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงคนใหม่เป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีน โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนเผยในการแถลงข่าวประจำวันนี้ว่า ชาติตะวันตกและสถาบันบางแห่งได้สมคบคิดกันเพื่อใส่ร้ายป้ายสีการเลือกตั้งผู้บริหารสูงสุดคนใหม่ของฮ่องกง ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างร้ายแรง จีนไม่เห็นด้วยและขอประณามการกระทำดังกล่าว ทั้งยังวิพากษ์วิจารณ์ประเทศเหล่านี้ว่าพยายามทำตัวเป็นอาจารย์สอนวิชาประชาธิปไตยให้แก่ฮ่องกง ทั้งที่ฮ่องกงก็มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า กลุ่มจี 7 ได้แสดงความวิตกกังวลเมื่อวันจันทร์เกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้งผู้บริหารสูงสุดคนใหม่ของฮ่องกงและปัญหาเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนในฮ่องกง ทั้งนี้ สมาชิกของกลุ่มจี 7 ประกอบด้วยฝรั่งเศส เยอรมนี แคนาดา อิตาลี ญี่ปุ่น อังกฤษ และสหรัฐ ก่อนหน้านี้ นายจอห์น ลี วัย 64 ปี ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารคนใหม่ของฮ่องกงเมื่อวันอาทิตย์ โดยที่เขาจะรับตำแหน่งต่อจากนางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารฮ่องกงคนปัจจุบันในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้.-สำนักข่าวไทย

ทูตรัสเซียในโปแลนด์โดนกลุ่มต้านสงครามยูเครนสาดสีใส่หน้า

วอร์ซอ 10 พ.ค. – เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำโปแลนด์ถูกกลุ่มต้านสงครามยูเครนสาดสีแดงใส่หน้าในระหว่างที่เขาไปวางช่อดอกไม้ที่สุสานทหารโซเวียตในกรุงวอร์ซอของโปแลนด์เมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อรำลึกถึงชัยชนะของสหภาพโซเวียตต่อนาซีเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่ 2 นายเซอร์เก อันดรีฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำโปแลนด์ ถูกกลุ่มต่อต้านสงครามยูเครนสาดสีแดงใส่หน้าในระหว่างที่เขาไปวางช่อดอกไม้ที่สุสานทหารโซเวียตในกรุงวอร์ซอ คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในสื่อออนไลน์เผยให้เห็นภาพนายอันดรีฟตกอยู่ในวงล้อมของกลุ่มผู้ต่อต้านสงครามยูเครน โดยมีผู้ประท้วงบางคนตะโกนใส่เขาว่า ‘ฆาตรกร’ และ ‘เผด็จการ’ ในขณะที่ผู้ประท้วงอีกส่วนยืนถือธงชาติยูเครน นายอันดรีฟเผยกับผู้สื่อข่าวหลังเกิดเหตุดังกล่าวว่า เขารู้สึกภาคภูมิใจในตัวประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินและประเทศรัสเซีย ขณะที่กระทรวงต่างประเทศรัสเซียได้ยื่นเรื่องประท้วงเหตุการณ์นี้ต่อรัฐบาลโปแลนด์ ขณะที่ผู้ประท้วงหญิงไม่เผยนามที่อยู่ในเหตุการณ์กล่าวว่า ไม่น่าเชื่อว่านายอันดรีฟจะกล้าเดินทางมาวางช่อดอกไม้ที่สุสานแห่งนี้ในขณะที่รัสเซียกำลังบุกโจมตียูเครน เธอไม่ต้องการให้โลกใบนี้เกิดสงครามอีกแล้ว ทั้งนี้ มีชาวยูเครนกว่า 3 ล้านคนได้อพยพหนีภัยสงครามเข้ามาในโปแลนด์ ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุด.-สำนักข่าวไทย

1 83 84 85 86 87 315