เพนกวินในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำญี่ปุ่นไม่ยอมกินปลาราคาถูก

โตเกียว 6 ก.ค. – เพนกวินและนากทะเลในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำของญี่ปุ่นไม่ยอมกินปลาชนิดใหม่ที่พนักงานนำมาให้อาหาร หลังพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวจำเป็นต้องหันไปซื้อปลาที่มีราคาถูกลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาเงินเฟ้อที่ทำให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น หัวหน้าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำฮาโกเนะ-เอ็น ในจังหวัดคานางาวะ ทางตอนกลางของญี่ปุ่น เผยว่า เขาจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายอาหารสัตว์ เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อ ทำให้ต้องซื้อปลาแมคเคอเรลที่มีราคาถูกลงมาเลี้ยงสัตว์น้ำแทนปลาฮอร์สแมคเคอเรล (horse mackerel) ที่มีราคาแพงขึ้น แต่กลับพบว่าเพนกวินหลายตัวไม่ยอมกินปลาแมคเคอเรลราคาถูก เขาสังเกตว่า เพนกวินงาบชิ้นเนื้อปลาเข้าปากก่อนที่จะรู้สึกว่าไม่ชอบกินเนื้อปลานี้และคายเนื้อปลาทิ้ง เพราะพวกมันรู้ว่ามีบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม นอกจากนี้ นากทะเลในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ก็ยังไม่ยอมกินเนื้อปลาที่มีราคาถูกลงเหมือนกับเพนกวินอีกด้วย หัวหน้าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำคนดังกล่าวยังเผยว่า ปลาฮอร์สแมคเคอเรลมีราคาพุ่งสูงขึ้นร้อยละ 20-30 เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อและปัญหาจับปลาได้น้อยลง อย่างไรก็ดี พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ยังคงจำเป็นต้องซื้อปลาฮอร์สแมคเคอเรลจำนวนหนึ่งต่อไปเพื่อนำมาเลี้ยงสัตว์น้ำ แต่ยังไม่มีแผนที่จะกลับไปซื้อปลาชนิดนี้อย่างเต็มรูปแบบจนกว่าราคาปลาดังกล่าวจะลดลงอยู่ในระดับเดิม.-สำนักข่าวไทย

จีนหวังสานสัมพันธ์ฟิลิปปินส์สู่ยุครุ่งเรืองครั้งใหม่

มะนิลา 6 ก.ค. – นายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน ระบุว่า จีนยินดีที่จะทำงานร่วมกับประธานาธิบดีเฟอดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ เพื่อก้าวไปสู่ยุครุ่งเรืองครั้งใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ นายหวังกล่าวในระหว่างพบปะหารือกับนายเอ็นริเก มานาโล รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของฟิลิปปินส์ที่กรุงมะนิลาในวันนี้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์ได้เริ่มต้นขึ้นใหม่อีกครั้งหลังประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ ชนะการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เขารู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมากที่ประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ ให้คำมั่นว่าจะดำเนินนโยบายที่เป็นมิตรกับจีน ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกไปสู่โลกภายนอก นายหวังยังระบุว่า จีนมีความปรารถนาเช่นเดียวกันกับผู้นำฟิลิปปินส์ที่ต้องการกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เขามั่นใจว่าการทำงานร่วมกันระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์จะนำไปสู่ยุครุ่งเรืองครั้งใหม่ของความสัมพันธ์แบบทวิภาคี สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า พฤติกรรมอันก้าวร้าวของจีนในน่านน้ำนอกชายฝั่งฟิลิปปินส์ทำให้ทั้งสองประเทศเกิดปัญหาตึงเครียดทางการทูตมาเป็นเวลานาน แต่ประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ เผยเมื่อวันอังคารว่า เขาต้องการให้ฟิลิปปินส์กับจีนมีความสัมพันธ์ด้านอื่นที่นอกเหนือไปจากปัญหาขัดแย้งทางทะเล สำนักข่าวรอยเตอร์สยังตั้งข้อสังเกตว่า ผู้นำฟิลิปปินส์พยายามสานสัมพันธ์เชิงธุรกิจกับจีน แต่ในขณะเดียวกันก็รักษาความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับสหรัฐในด้านการป้องกันประเทศอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียวอนทุกฝ่ายช่วยปกป้องกฎหมายระหว่างประเทศ

ฮานอย 6 ก.ค. – นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย เรียกร้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันปกป้องกฎหมายระหว่างประเทศในขณะที่โลกกำลังก้าวไปสู่บริบทที่ซับซ้อน นายลาฟรอฟกล่าวในระหว่างที่พบปะกับนายบุ่ย แทง เซิน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเวียดนาม ในกรุงฮานอยว่า ทุกฝ่ายต้องช่วยกันปกป้องกฎหมายระหว่างประเทศในขณะที่โลกกำลังก้าวไปสู่บริบทที่ซับซ้อน ทั้งยังระบุว่า เวียดนามเป็นพันธมิตรที่สำคัญของรัสเซียในภูมิภาคอาเซียน ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศมีพื้นฐานมาจากรากฐานทางประวัติศาสตร์และการต่อสู้ร่วมกันเพื่อความยุติธรรม ทั้งนี้ คำกล่าวของนายลาฟรอฟมีขึ้นในขณะที่ชาติตะวันตกกล่าวหารัสเซียว่า ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลังรัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครน นอกจากนี้ บรรดาผู้นำของสหภาพยุโรป หรืออียู ยังเรียกร้องให้รัฐบาลรัสเซียปฏิบัติตามคำสั่งของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ที่ระบุให้รัสเซียถอนกำลังทหารออกจากยูเครน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นายลาฟรอฟได้เดินทางเยือนกรุงฮานอยเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี ความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนแบบยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างรัสเซียกับเวียดนาม โดยที่นายลาฟรอฟมีกำหนดเดินทางไปยังอินโดนีเซียเป็นลำดับต่อไปเพื่อเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มจี 20 ที่มีกำหนดจัดขึ้นในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ เวียดนามเป็นประเทศที่ไม่ได้ออกมาประณามการก่อสงครามในยูเครนของรัสเซีย ซึ่งรัสเซียระบุว่าเป็นปฏิบัติการพิเศษทางทหาร.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐพบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์ BA.4-BA.5 เพิ่มเป็น 70%

วอชิงตัน 6 ก.ค. – ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี คาดการณ์ว่า สหรัฐจะพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ซึ่งแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 70 ในรอบสัปดาห์ของวันที่ 2 กรกฎาคม ซีดีซีเผยเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า สหรัฐจะพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ซึ่งแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 70 ในรอบสัปดาห์ของวันที่ 2 กรกฎาคม หลังจากที่ก่อนหน้านี้พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ร้อยละ 52 ในรอบสัปดาห์ของวันที่ 25 มิถุนายน ขณะนี้ ข้อมูลล่าสุดระบุว่า สหรัฐพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ BA.4 ร้อยละ 16.5 และสายพันธุ์ BA.5 ร้อยละ 53.6 ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกได้ประกาศเพิ่มเชื้อโควิดสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ไว้ในรายชื่อสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวังเมื่อเดือนมีนาคม ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหภาพยุโรป ประกาศให้เชื้อโควิดทั้งสองสายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ย่อยที่ต้องเฝ้าระวังเช่นกัน […]

ยูเครนเผยรัสเซียรุกโจมตีแคว้นโดเนตสก์อย่างหนัก

เคียฟ 6 ก.ค. – เจ้าหน้าที่ของยูเครนระบุว่า กองทัพรัสเซียเปิดฉากบุกโจมตีครั้งใหญ่ในแคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกของยูเครน ด้วยการยิงปืนใหญ่ใส่หลายพื้นที่เป็นวงกว้าง หลังจากที่รัสเซียเพิ่งประกาศชัยชนะในแคว้นลูฮันสก์ที่มีพรมแดนติดแคว้นโดเนตสก์เมื่อวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ของยูเครนเผยว่า กองทัพรัสเซียได้ตั้งเป้าบุกโจมตีเมืองสโลเวียนสก์และเมืองครามาทอสก์ในแคว้นโดเนตสก์เป็นลำดับต่อไป หลังยึดเมืองลิซิชันสก์ในแคว้นลูฮันสก์ได้เมื่อวันอาทิตย์ ทั้งยังระบุว่า กองทัพรัสเซียได้โจมตีตลาดและย่านที่พักอาศัยในเมืองสโลเวียนสก์เมื่อวันอังคาร จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 7 คน ขณะที่นายพาฟโล คิริเลนโก ผู้ว่าการแคว้นโดเนตสก์ เผยว่า กองทัพรัสเซียได้ยิงปืนใหญ่โจมตีเมืองสโลเวียนสก์และเมืองครามาทอสก์ที่ตั้งอยู่ใกล้กันอย่างหนักเมื่อคืนวันอังคาร นายเซอร์ฮีย์ ไกได ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ กล่าวผ่านโทรทัศน์ว่า ขณะนี้กำลังเกิดการสู้รบอย่างหนักหน่วงที่บริเวณพรมแดนของแคว้นลูฮันสก์ เนื่องจากรัสเซียได้ส่งกองกำลังหลักและกองกำลังเสริมไปยังพื้นที่ดังกล่าวเพื่อพยายามข้ามแม่น้ำซีเวอร์สกีโดเนตสก์ ทั้งยังระบุว่า กองทัพรัสเซียยังคงยิงปืนใหญ่โจมตีทุกอย่างที่ขวางหน้าในแคว้นลูฮันสก์และแคว้นโดเนตสก์ ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์สไม่สามารถตรวจสอบข้อกล่าวอ้างดังกล่าวได้อย่างอิสระ.-สำนักข่าวไทย

2 รัฐมนตรีอังกฤษยื่นลาออกไม่พอใจ “บอริส จอห์นสัน”

ลอนดอน 6 ก.ค. – นายริชี ซูนัก รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และนายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษ พร้อมใจยื่นใบลาออกจากตำแหน่งต่อนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจในบทบาทการเป็นผู้นำรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีจอห์นสัน นายซูนักและนายจาวิดได้ยื่นจดหมายลาออกจากตำแหน่งต่อนายกรัฐมนตรีจอห์นสันในเวลาใกล้เคียงกันเมื่อวันอังคาร เพื่อแสดงถึงความไม่พอใจในบทบาทความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีจอห์นสัน ขณะที่ผู้นำอังกฤษ ซึ่งพยายามรั้งตำแหน่งในคณะรัฐบาลต่อไปให้นานที่สุด ได้ประกาศแต่งตั้งนายนาดฮิม ซาฮาวี รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการคนปัจจุบัน ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังคนใหม่ และแต่งตั้งนายสตีฟ บาร์เคลย์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลอังกฤษ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ การลาออกของนายซูนักและนายจาวิดมีขึ้นในขณะที่นายกรัฐมนตรีจอห์นสันได้กล่าวขอโทษที่แต่งตั้ง ส.ส. อังกฤษคนหนึ่งให้มีหน้าที่กำกับดูแลพรรคอนุรักษนิยมของเขา ทั้งที่ทราบว่า ส.ส. คนนี้ถูกร้องเรียนเกี่ยวกับการประพฤติผิดทางเพศ รวมถึงปัญหาอื้อฉาวเกี่ยวกับการจัดงานเลี้ยงที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ‘ดาวน์นิง สตรีท’ ในช่วงที่อังกฤษประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวด จนทำให้ผู้นำอังกฤษถูกตำรวจสั่งปรับเงินฐานฝ่าฝืนมาตรการควบคุมโรค ในขณะเดียวกัน นายซูนักเผยถึงสาเหตุที่ยื่นจดหมายลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังว่า ประชาชนอังกฤษคาดหวังให้รัฐบาลทำงานอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และจริงจัง ทั้งยังระบุว่า เขาลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวเพื่อแสดงจุดยืนต่อมาตรฐานการทำงานของรัฐบาล ส่วนนายจาวิดระบุในจดหมายลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขว่า สถานการณ์ทางการเมืองของอังกฤษจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรีจอห์นสัน และเขาเสียความเชื่อมั่นในตัวผู้นำอังกฤษแล้ว. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ ศรีลังการับประเทศตกอยู่ในสถานะล้มละลาย

โคลัมโบ 5 ก.ค. – นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรามาสิงหะ ของศรีลังกา ยอมรับว่า ศรีลังกาตกอยู่ในสถานะล้มละลายและจะต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อต่อไปจนถึงสิ้นปีหน้าเป็นอย่างน้อย นายกรัฐมนตรีวิกรามาสิงหะกล่าวในที่ประชุมรัฐสภาศรีลังกาวันนี้ว่า ศรีลังกาจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างหนักในปีนี้ รวมถึงปัญหาขาดแคลนอาหาร น้ำมันเชื้อเพลิง และยารักษาโรค เขายอมรับว่าปัญหาเหล่านี้จะยืดเยื้อต่อไปจนถึงปีหน้า ส่วนแผนเจรจาเรื่องกู้ยืมเงินช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ขึ้นอยู่กับการสรุปแผนปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ในเดือนสิงหาคม โดยที่ศรีลังกาจะทำเรื่องกู้ยืมเงินในฐานะประเทศที่มีสถานะล้มละลาย นายกรัฐมนตรีวิกรามาสิงหะเผยว่า ศรีลังกายังคงตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ เนื่องจากธนาคารกลางของศรีลังกาคาดการณ์ว่า ศรีลังกาอาจเผชิญกับภาวะหดตัวด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึงร้อยละ 4-5 ในปีนี้ รวมถึงปัญหาเงินเฟ้อที่สูงถึงร้อยละ 60 ในช่วงสิ้นปีนี้ ผู้นำศรีลังกายังระบุเพิ่มเติมว่า หลังจากที่บรรลุข้อตกลงระดับเจ้าหน้าที่กับไอเอ็มเอฟ ศรีลังกาได้ตั้งเป้าเปิดประชุมเพื่อรับเงินบริจาคจากประเทศที่เป็นมิตร เช่น จีน อินเดีย และญี่ปุ่น เพื่อใช้ค้ำประกันเงินกู้ผ่านข้อตกลงร่วม. -สำนักข่าวไทย

อินเดียห้ามโรงแรม-ร้านอาหาร เก็บค่าเซอร์วิสชาร์จ

นิวเดลี 5 ก.ค. – สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคของอินเดียประกาศห้ามโรงแรมและร้านอาหารเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มเติม หรือเซอร์วิสชาร์จ ในใบเรียกเก็บเงิน หลังมีประชาชนร้องเรียนเรื่องดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคของอินเดียระบุว่า ร้านอาหารในอินเดียมักเรียกเก็บค่าเซอร์วิสชาร์จตั้งแต่ร้อยละ 5-15 ของยอดค่าบริการใบเรียกเก็บเงิน แต่สำนักงานฯ ได้ออกข้อกำหนดใหม่ที่สั่งห้ามร้านอาหารเรียกเก็บค่าเซอร์วิสชาร์จในใบเรียกเก็บเงินโดยเด็ดขาด รวมถึงสั่งห้ามร้านอาหารไม่ให้เรียกเก็บทิปจากลูกค้าหรือปฏิเสธให้บริการลูกค้าที่ไม่ยอมจ่ายทิป ลูกค้ามีสิทธิใช้ดุลยพินิจของตนว่าจะให้ทิปหรือจ่ายค่าบริการเพิ่มเติมให้แก่ร้านอาหารหรือไม่ ส่วนการเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มเติมโดยไม่ได้รับความยินยอมจากลูกค้าถือเป็นแนวปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ก่อนหน้านี้ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคของอินเดียเคยประกาศข้อกำหนดในปี 2560 ที่ระบุว่า ลูกค้าต้องจ่ายเฉพาะค่าอาหารตามที่ระบุบนเมนูอาหารและภาษีมูลค่าเพิ่มเท่านั้น ขณะที่รัฐบาลอินเดียสนับสนุนให้ร้านค้าจ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้างอย่างเป็นธรรมและขึ้นราคาอาหารเพื่อให้คุ้มกับต้นทุน แทนการใช้วิธีเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มเติม. -สำนักข่าวไทย

สิงคโปร์เผยโควิดระลอกล่าสุดจะไม่รุนแรงเท่าครั้งก่อน

สิงคโปร์ 5 ก.ค. – รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์เผยว่า การระบาดของเชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ระลอกล่าสุดในสิงคโปร์จะไม่รุนแรงเท่ากับการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์ย่อย BA.2 เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา นายออง ยี คัง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ ได้ตอบข้อซักถามเกี่ยวกับแนวทางการรับมือการระบาดของโรคโควิดระลอกล่าสุดในที่ประชุมรัฐสภาสิงคโปร์วันนี้ว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 สามารถแพร่เชื้อได้รวดเร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับเชื้อโควิดสายพันธุ์ย่อย BA.2 การระบาดของโรคโควิดระลอกล่าสุดในสิงคโปร์เกิดขึ้นเร็วกว่าที่ทางการคาดการณ์ไว้เพียงเล็กน้อย โดยก่อนหน้านี้คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม อย่างไรก็ดี รัฐบาลสิงคโปร์ประเมินว่าการระบาดระลอกนี้จะไม่รุนแรงเท่ากับการระบาดของเชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากชาวสิงคโปร์จำนวนมากมีภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น และมีภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติหลังหายป่วยจากโรคโควิด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ระบุว่า สิงคโปร์อาจมียอดผู้ป่วยโควิดรายใหม่ในวันนี้สูงกว่า 12,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับวันอังคารที่แล้ว ทั้งยังพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ย่อย BA.4 กับ BA.5 ราวร้อยละ 50 จากยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในระลอกล่าสุด ขณะนี้ สิงคโปร์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1.47 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 1,400 […]

เหตุดินถล่มในอินเดีย ตายเพิ่มเป็น 42 ราย

มณีปุระ 4 ก.ค. – เหตุดินถล่มพื้นที่ก่อสร้างทางรถไฟในรัฐมณีปุระ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย เมื่อช่วงค่ำวันพุธที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 42 ราย และยังคงมีผู้สูญหายอีก 20 คน เว็บไซต์ข่าวเดอะควินต์ของอินเดียรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบผู้เสียชีวิตจากเหตุดินถล่มพื้นที่ก่อสร้างทางรถไฟเพิ่มขึ้นเป็น 42 ราย ในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่กองทัพอินเดีย 27 ราย แรงงานก่อสร้าง พนักงานของการรถไฟอินเดีย และชาวบ้านรวม 15 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่ของทางการอินเดียเผยกับบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซีว่า เจ้าหน้าที่สามารถช่วยผู้รอดชีวิตจากเหตุดินถล่มได้ 18 คนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่คาดว่าจะไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่มอีกแล้ว เนื่องจากซากปรักหักพังในพื้นที่ก่อสร้างและสภาพพื้นดินอ่อนยวบทำให้ยากต่อการนำเครื่องจักรกลหนักมาใช้ค้นหาผู้รอดชีวิต อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เปลี่ยนไปใช้ระบบเรดาร์เพื่อค้นผู้รอดชีวิตที่อาจติดอยู่ในซากปรักหักพังแทน ทั้งนี้ พื้นที่ก่อสร้างดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเส้นทางรถไฟเชื่อมต่อเขตจิริบามกับนครอิมผาล ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐมณีปุระ ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ของทางการอินเดียเผยกับสำนักข่าวเอเอ็นไอของอินเดียว่า เหตุดินถล่มในครั้งนี้เกิดขึ้นจากฝนตกหนัก ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการค้นหาผู้รอดชีวิตอย่างมาก ทั้งนี้ หลายรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียมักเผชิญกับเหตุน้ำท่วมรุนแรงจากฝนตกหนักอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะรัฐอัสสัม มณีปุระ เมฆาลัย และตริปุระ. -สำนักข่าวไทย

เผยตำรวจสหรัฐ 8 นาย โยงเหตุกระหน่ำยิงชายผิวดำเสียชีวิต

โอไฮโอ 4 ก.ค. – เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่า ตำรวจเมืองแอครอนในรัฐโอไฮโอ 8 นาย มีความเชื่อมโยงเหตุกระหน่ำยิงชายผิวดำที่ไร้อาวุธจนเสียชีวิต โดยพบบาดแผลกระสุนปืนบนร่างมากถึง 60 แผล หลังตำรวจพยายามจับกุมเขาในข้อหาฝ่าสัญญาณไฟจราจรเมื่อสัปดาห์ก่อน ตำรวจสหรัฐได้เปิดเผยคลิปวิดีโอจำนวนมากในงานแถลงข่าวเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น และมีคลิปหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่ามีกระสุนถูกยิงออกมาจากรถยนต์ของนายเจย์แลนด์ วอล์กเกอร์ ชายผิวดำ วัย 25 ปี ซึ่งถูกตำรวจยิงเสียชีวิต ขณะนี้ ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าตำรวจเมืองแอครอนยิงกระสุนใส่นายวอล์กเกอร์เป็นจำนวนกี่นัด แต่พบบาดแผลกระสุนบนร่างกว่า 60 แผล หัวหน้าสำนักงานตำรวจเมืองแอครอนเผยว่า ตำรวจพยายามหยุดรถยนต์ของนายวอล์กเกอร์เมื่อช่วงเช้ามืดวันจันทร์ที่แล้ว เพราะกระทำผิดเรื่องจราจรและอุปกรณ์ จากนั้นมีเสียงปืนดังมาจากรถของนายวอล์กเกอร์ในระหว่างที่ถูกตำรวจไล่ตามได้ไม่ถึง 1 นาที ขณะที่กล้องวงจรปิดของสำนักงานขนส่งเมืองแอครอนสามารถจับภาพคล้ายประกายไฟจากกระบอกปืนที่ยื่นออกมาจากรถของนายวอล์กเกอร์ได้ ตำรวจเมืองแอครอนยังระบุว่า นายวอล์กเกอร์ได้ชะลอรถในอีกไม่กี่นาทีต่อมา และกระโดดหนีออกจากรถที่กำลังแล่นอยู่ โดยที่เขาสวมหน้ากากสกีและวิ่งหนีตำรวจ ตำรวจจึงไล่ตามตัวเขาไปจนถึงลานจอดรถแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้ยินเสียงกระสุนรัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในคลิปวิดีโอ ทั้งนี้ ตำรวจยังพบปืนพก ซองกระสุน และแหวนแต่งงานอยู่บนเบาะรถยนต์ของนายวอล์กเกอร์ ซึ่งคาดว่าเป็นปืนกระบอกที่นายวอล์กเกอร์ใช้ยิงใส่ตำรวจก่อนหน้านี้ ด้านนายบ็อบบี ดิเซลโล ทนายความของครอบครัววอล์กเกอร์ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตำรวจยังคงกระหน่ำยิง ทั้งที่นายวอล์กเกอร์อยู่บนพื้นแล้ว เขากังวลอย่างยิ่งที่ตำรวจเมืองแอครอนอ้างว่า นายวอล์กเกอร์ยิงปืนใส่ตำรวจจากรถยนต์ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า การตัดสินใจวิสามัญฆาตรกรรมนายวอล์กเกอร์เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุเมื่อเทียบกับข้อหาเพียงเล็กน้อยที่ตำรวจตั้งไว้. -สำนักข่าวไทย

ระดมเงิน 10 ล้านบาทให้ พนง.ผู้ไม่หยุดเลยตลอด 27 ปี

ลาสเวกัส 4 ก.ค. – พนักงานร้านเบอร์เกอร์คิงที่เมืองลาสเวกัสในรัฐเนวาดา ทางตะวันตกของสหรัฐ ผู้ไม่เคยลาหยุดงานแม้แต่วันเดียวนับตั้งแต่ทำงานที่ร้านแห่งนี้มาเป็นเวลา 27 ปี กลายเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์จากคลิปที่เขาได้รับของขวัญสุดธรรมดาจากผู้จัดการร้าน จนกระทั่งมีคนระดมบริจาคเงินให้เขาแล้วเกือบ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10.7 ล้านบาท) หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กโพสต์ของสหรัฐรายงานว่า นายเควิน ฟอร์ด วัย 54 ปี ทำงานในตำแหน่งแคชเชียร์และพนักงานทำอาหารของร้านเบอร์เกอร์คิง สาขาท่าอากาศยานนานาชาติแมคคาร์แรนในรัฐเนวาดามาตั้งแต่ปี 2538 และได้รับของขวัญจากผู้จัดการร้านเนื่องในวันครบรอบ 27 ปีที่ทำงานในร้านแห่งนี้เป็นตั๋วชมภาพยนตร์ แก้วสตาร์บัคส์ ขนมหวาน และช็อกโกแลต คลิปบันทึกภาพนายฟอร์ดรับมอบของขวัญและกล่าวขอบคุณเพื่อนร่วมงานกลายเป็นกระแสไวรัลในโลกออนไลน์ เพราะผู้คนที่เห็นคลิปดังกล่าวต่างรู้สึกตกใจที่เขาได้รับของขวัญขอบคุณสุดแสนธรรมดาทั้งที่ทุ่มเทให้แก่บริษัทมาเป็นเวลายาวนาน หลังจากนั้นไม่นาน เซรีนา ฟอร์ด ลูกสาวของนายฟอร์ด ได้ใช้แพลตฟอร์ม ‘โกฟันด์มี’ (GoFundMe) เปิดรับเงินบริจาคเพื่อเป็นของขวัญให้แก่บิดา โดยตั้งเป้าไว้ที่ 200 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7,100 บาท) แต่กลับกลายเป็นว่ามีผู้บริจาคเงินนับถึงขณะนี้แล้วเกือบ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนนายฟอร์ดเผยหลังทราบเรื่องยอดเงินบริจาคว่า เขายังไม่มีแผนลาออกจากงานหรือลาพักร้อน และยังไม่ได้คิดว่านำเงินบริจาคไปใช้ทำอะไร. -สำนักข่าวไทย

1 69 70 71 72 73 315