น้ำท่วม-ดินถล่มศรีลังกา เสียชีวิต 17 ราย

โคลัมโบ 7 มิ.ย. – เจ้าหน้าที่ของศรีลังการะบุว่า น้ำท่วมและดินถล่มที่เกิดจากฝนตกหนักในศรีลังกา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 17 ราย และประชาชนอีกหลายแสนคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์จัดการภัยพิบัติแห่งชาติของศรีลังการะบุในแถลงการณ์ว่า ระดับน้ำท่วมกำลังลดลง แต่ยังคงมีประกาศแจ้งเตือนภัยจากดินถล่มใน 10 อำเภอ ทั้งยังระบุว่า มีประชาชนกว่า 270,000 คนได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม รวมถึงมีบ้านเรือนราว 100,000 หลังที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่หัวหน้าหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของศรีลังกาคาดว่า ปริมาณฝนจะลดลงนับตั้งแต่วันนี้ แต่จะมีฝนตกเป็นระยะในบางพื้นที่ ก่อนหน้านี้ ศรีลังกาเผชิญกับฝนตกหนักมาเป็นเวลาหลายวันจนทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำทางตอนใต้และตะวันตกเอ่อล้นตลิ่งในช่วงสุดสัปดาห์ และไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำจนทำให้ประชาชนหลายแสนคนต้องอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ภัยพิบัติทางธรรมชาติดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ศรีลังกาคาดว่าจะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่ใช้อยู่เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระลอกที่สาม ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ทั้งนี้ การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของศรีลังกาได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นขยายแผนเร่งฉีดวัคซีนโควิดให้ผู้สูงวัย

ผู้สูงวัยชาวญี่ปุ่นเข้าแถวยาวเหยียดหน้าศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ขนาดใหญ่ในนครโอซากา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น หลังทางการญี่ปุ่นขยายสิทธิเข้ารับการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ใน 2 จังหวัดใกล้เคียง

รัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียพบผู้ป่วยโควิดพุ่งสูงอีกครั้ง

รัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ในประเทศสูงสุดในรอบเกือบสัปดาห์ ขณะที่ทางการเร่งหาที่มาของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้รวดเร็วขึ้นและพบการระบาดครั้งแรกในอินเดีย

รถไฟชนกันในปากีสถานตายแล้ว 30 ราย

อิสลามาบัด 7 มิ.ย. – ตำรวจปากีสถานเปิดเผยวันนี้ว่า เกิดเหตุรถไฟสองขบวนชนกันในพื้นที่ทางตอนใต้ของปากีสถาน และทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 30 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 50 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงของเมืองกอตคิในปากีสถานกล่าวกับสถานีโทรทัศน์จีโอ นิวส์ ของปากีสถานว่า รถไฟ 2 ขบวนชนกันทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ราย และถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงแล้ว เขายังคาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังไม่อาจเข้าถึงตู้รถไฟที่พังยับเยิน แม้เหตุรถไฟชนกันที่เมืองกอตคิในแคว้นสินธ์ทางตอนใต้ของปากีสถานจะผ่านมานานหลายชั่วโมงแล้วก็ตาม และในแต่ละตู้รถไฟที่พังเสียหายอาจมีผู้โดยสารสูงสุดถึง 25 คน สื่อท้องถิ่นของปากีสถานรายงานว่า รถไฟด่วนเซอร์ไซยิดมุ่งหน้าจากเมืองลาฮอร์ของแคว้นปัญจาบไปยังเมืองการาจีของแคว้นสินธ์ และชนกับรถไฟด่วนมิลแลตที่ประสบเหตุตกรางในระหว่างเดินทางจากเมืองซากอดฮาของแคว้นปัญจาบไปยังเมืองการาจีของแคว้นสินธ์ ขณะนี้ปากีสถานได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในโรงพยาบาลหลายแห่งของเมืองกอตคิ ดาฮาร์กี โอบาโร และมีร์ปูร์ มาเทโล.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำชนพื้นเมืองแคนาดาผิดหวังในคำพูดของโป๊บฟรานซิส

กลุ่มผู้นำชนพื้นเมืองและผู้รอดชีวิตจากโรงเรียนของแคนาดาไม่สนใจท่าทีเจ็บปวดของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก ที่มีต่อเหตุพบศพเด็ก 215 คนที่โรงเรียนคาทอลิกเก่าสำหรับชาวพื้นเมือง และระบุว่า คริสตจักรจำเป็นต้องทำอะไรมากกว่านี้

อดีตผู้นำโลกขอกลุ่มจี 7 จ่ายวัคซีนโควิดให้ประเทศยากจน

ลอนดอน 7 มิ.ย. – อดีตประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีต่างประเทศ 100 คน เรียกร้องให้กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือจี 7 (G7) จ่ายค่าวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทั่วโลก เพื่อช่วยหยุดยั้งการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิดที่ทำให้เกิดภัยคุกคามไปทั่ว กลุ่มอดีตผู้นำระดับโลกได้ระบุในจดหมายที่ส่งถึงกลุ่มจี 7 ว่า ความร่วมมือระดับโลกล้มเหลวเมื่อปีก่อน แต่ในปีนี้อาจก้าวไปสู่ยุคใหม่ได้ การสนับสนุนจากกลุ่มจี 7 และจี 20 เพื่อทำให้ประเทศที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลางเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไม่ใช่การกุศล แต่เป็นผลประโยชน์เชิงกลยุทธ์ของแต่ละประเทศมากกว่า ทั้งยังระบุว่า กลุ่มจี 7 และผู้นำประเทศอื่น ๆ ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษในวันศุกร์นี้ ควรรับประกันว่าจะจ่ายเงินสูงสุดปีละ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 93.6 ล้านล้านบาท) เป็นเวลาสองปีเพื่อรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก ในบรรดาผู้นำที่ลงนามในจดหมายดังกล่าว ได้แก่ นายกอร์ดอน บราวน์ และนายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายบัน […]

สหรัฐเผยไม่พบหลักฐานว่ายูเอฟโอเป็นของมนุษย์ต่างดาว

วอชิงตัน 4 มิ.ย. – เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐไม่พบหลักฐานที่ยืนยันว่าปรากฏการณ์ทางอากาศไม่ทราบที่มาที่นักบินของกองท้พเรือสหรัฐพบเห็นหลายครั้งเป็นยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว แต่ก็ยังไม่อาจหาเหตุผลมาอธิบายได้ หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ ของสหรัฐ รายงานอ้างคำพูดเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของสหรัฐที่สรุปรายงานดังกล่าว ซึ่งเตรียมยื่นต่อรัฐสภาสหรัฐในเดือนนี้ว่า ปรากฏการณ์ส่วนใหญ่ที่บันทึกไว้ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาไม่ได้เป็นการบันทึกโดยกองทัพสหรัฐหรือหน่วยงานที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงของรัฐบาลสหรัฐ เดอะไทมส์ รายงานว่า  หน่วยเฉพาะกิจของกระทรวงกลาโหมสหรัฐมีการตรวจสอบการศึกษาข่าวกรองลับในการพบเห็นปรากฏการณ์ดังกล่าวกว่า 120 ครั้ง โดยหลายครั้งเป็นรายงานจากเจ้าหน้าที่ในกองทัพเรือสหรัฐ รวมถึงรายงานบางส่วนที่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพของต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐเชื่อว่า การทดลองทางด้านเทคโนโลยีของประเทศมหาอำนาจคู่ปรับทางกองทัพของสหรัฐ อาจจะมีส่วนทำให้เกิดปรากฎการณ์ที่เป็นที่สงสัยกัน เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองและทหารของสหรัฐกำลังวิตกกังวลว่า จีนหรือรัสเซียอาจกำลังทดลองเทคโนโลยีความเร็วเหนือเสียง สื่อดังกล่าวยังระบุเพิ่มเติมว่า คาดว่ารายงานฉบับที่ไม่เป็นความลับจะได้รับการยื่นต่อรัฐสภาสหรัฐในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ และจะเพิ่มข้อสรุปอื่น ๆ อีกเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ สาธารณชนต่างให้ความสนใจเพิ่มขึ้นกับจานบินของมนุษย์ต่างดาว หรือยูเอฟโอในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาจากรายงานที่จะได้รับการเปิดเผย โดยผู้ที่ชื่นชอบยูเอฟโอคาดการณ์ถึงการเปิดเผยเกี่ยวกับการพบเห็นที่อธิบายไม่ได้ และหลายคนเชื่อว่ารัฐบาลพยายามหาทางปกปิดเรื่องดังกล่าวมาเป็นเวลาหลายสิบปี อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนดังกล่าวระบุในบทความของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ว่า ความคลุมเครือของรายงานดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลไม่อาจชี้ขาดได้ว่า ทฤษฎีต่าง ๆ ที่นำมาใช้พิจารณาปรากฏการณ์ไม่ทราบที่มานั้นอาจเป็นมนุษย์ต่างดาวตามธรรมชาติ.-สำนักข่าวไทย  

ผบ. กองทัพอากาศเกาหลีใต้ขอลาออกกรณีทหารฆ่าตัวตาย

โซล 4 มิ.ย. – ผู้บัญชาการกองทัพอากาศของเกาหลีใต้เสนอขอลาออกจากตำแหน่ง พร้อมกล่าวขอโทษและแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีทหารอากาศหญิงฆ่าตัวตายเพราะถูกเพื่อนทหารนายหนึ่งล่วงละเมิดทางเพศ ลี ซอง-ยง ผู้บัญชาการกองทัพอากาศของเกาหลีใต้ระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า เขาขอโทษต่อการเสียชีวิตของทหารอากาศหญิงและขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต เขาขอแสดงความรับผิดชอบครั้งใหญ่หลวงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยการขอลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจ่าอากาศชายนายหนึ่งถูกจับกุมเมื่อวานนี้ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศและทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมงานหญิง ซึ่งเป็นเหตุให้เธอฆ่าตัวตายในเดือนที่แล้วและระบุถึงสาเหตุการจบชีวิตตนเองผ่านคลิปวิดีโอที่บันทึกในโทรศัพท์ ทั้งนี้ จ่าอากาศชายตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าก่อเหตุลวนลามจ่าอากาศหญิงในรถยนต์ระหว่างที่ทั้งสองกำลังเดินทางกลับฐานทัพหลังรับประทานอาหารมื้อค่ำในเดือนมีนาคม ครอบครัวของผู้เสียชีวิตเผยว่า จ่าอากาศหญิงต้องเผชิญกับความทุกข์ทางใจและขอย้ายไปประจำการที่ฐานทัพอื่น ทั้งยังกล่าวหากองทัพอากาศว่าพยายามปกปิดข่าวการทำร้ายร่างกายผู้หญิงและปิดปากเธอไม่ให้พูดถึงเรื่องนี้ด้วย ทั้งนี้ คดีดังกล่าวสร้างความโกรธเคืองให้แก่สาธารณชนอย่างมากหลังครอบครัวของจ่าอากาศหญิงได้ยื่นคำร้องต่อทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อวันอังคาร และเรียกร้องให้มีการสืบสวนและลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด.-สำนักข่าวไทย

เมียนมาพบโควิดระบาดครั้งใหม่ใกล้ชายแดนอินเดีย

ย่างกุ้ง 4 มิ.ย. – เมียนมาเผชิญกับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ครั้งใหม่ที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ชายแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือติดกับอินเดีย ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นนับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ที่ทำให้บริการสาธารณสุขและโครงการตรวจหาเชื้อโควิดล่มสลาย ตัวเลขอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่เมื่อวานนี้แสดงให้เห็นว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ 122 คน ถือเป็นผู้ป่วยหลักร้อยครั้งที่สองในรอบ 3 วันที่ผ่านมา แม้ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่เป็นยอดผู้ป่วยติดเชื้อสูงสุดของเมียนมาในรอบเกือบสี่เดือน ผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในรัฐฉินที่มีพรมแดนติดอินเดีย และทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่พบครั้งแรกในอินเดียและแพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าเดิมกำลังแพร่ระบาดในเมียนมา ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของกลุ่มช่วยเหลือด้านการพัฒนาและการดูแลโซมี (Zomi Care and Development) จากเมืองตู้นซานในรัฐฉิน ซึ่งอยู่ห่างจากพรมแดนอินเดียเพียง 20 กิโลเมตร กล่าวว่า เมื่อวานนี้มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 จำนวน 3 ราย ตอนนี้ชาวบ้านต่างรู้สึกหวาดกลัวและไม่กล้าออกจากบ้าน อย่างไรก็ดี สำนักข่าวรอยเตอร์สไม่สามารถติดต่อกระทรวงสาธารณสุขเมียนมาเพื่อขอความเห็นจากเรื่องดังกล่าวได้ในขณะนี้ โครงการตรวจหาเชื้อโควิดในเมียนมาล่มสลายหลังเกิดเหตุรัฐประหาร เนื่องจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจำนวนมากเข้าร่วมขบวนการอารยะขัดขืนเพื่อต่อต้านรัฐบาลทหารที่ยึดอำนาจการปกครองจากนางออง ซาน ซู จี ผู้นำพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งและสามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 สองระลอกในเมียนมาได้เป็นอย่างดี ขณะนี้ เมียนมามียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 143,900 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 3,200 คน นอกจากนี้ เมียนมายังตรวจหาเชื้อโควิดได้เฉลี่ยวันละ […]

มาเลเซียอนุมัติใช้วัคซีนแอสตราเซเนกาที่ผลิตในไทย

กัวลาลัมเปอร์ 4 มิ.ย. – เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขมาเลเซียเปิดเผยว่า ได้อนุมัติแบบมีเงื่อนไขในการใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาที่ผลิตในไทยโดยบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ นพ. นูร์ ฮิชาม อับดุลลาห์ ผู้อำนวยการใหญ่กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย ระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า มาเลเซียคาดว่าวัคซีนของแอสตราเซเนกาที่ได้รับการผลิตในไทยจะช่วยเร่งโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนมาเลเซียได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้ รัฐบาลมาเลเซียได้กำหนดให้วัคซีนของแอสตราเซเนกาเป็นวัคซีนทางเลือกหลังมีรายงานพบความเป็นไปได้ว่าวัคซีนดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันชนิดหายาก อย่างไรก็ดี รัฐบาลตัดสินใจนำวัคซีนของแอสตราเซเนกามาใช้ในโครงการฉีดวัคซีนแห่งชาติอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังมีประชาชนหลายแสนคนพยายามแย่งชิงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาเลเซียได้สั่งซื้อวัคซีนของแอสตราเซเนกาทั้งหมด 12.8 ล้านโดส ในจำนวนนี้ มีครึ่งหนึ่งที่ซื้อผ่านโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลก และอีกครึ่งหนึ่งซื้อโดยตรงจากผู้ผลิตวัคซีน รัฐบาลมาเลเซียระบุก่อนหน้านี้ว่า มาเลเซียมีกำหนดรับวัคซีนของแอสตราเซเนกาจากไทยล็อตแรก 610,000 โดสภายในเดือนนี้ ตามมาด้วย 410,000 โดสในเดือนกรกฎาคม และอีก 1.2 ล้านโดสในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน ด้านทางการมาเลเซียรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 7,748 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 595,000 คน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 3,090 คน ซึ่งเป็นยอดผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตสูงเป็นอันดับที่สามของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์.-สำนักข่าวไทย

“เฟาชี” เรียกร้องจีนเผยข้อมูลการแพทย์เพื่อหาที่มาโควิด

นพ. แอนโทนี เฟาชี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อระดับแนวหน้าของสหรัฐเรียกร้องให้จีนเปิดเผยข้อมูลทางการแพทย์ของชาวจีน 9 คนที่มีอาการป่วย ซึ่งอาจเป็นเบาะแสสำคัญว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาดครั้งแรกจากการรั่วไหลที่ห้องปฏิบัติการทดลองในเมืองอู่ฮั่นของจีนหรือไม่

เวียดนามอนุมัติใช้วัคซีนโควิดของซิโนฟาร์มแล้ว

ฮานอย 4 มิ.ย. – กระทรวงสาธารณสุขของเวียดนามประกาศอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของซิโนฟาร์มเป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว วัคซีนของซิโนฟาร์มเป็นวัคซีนเชื้อตาย และได้รับการผลิตโดยสถาบันผลิตภัณฑ์ชีวภาพปักกิ่งในเครือบริษัทซิโนฟาร์มของจีน สถาบันสุขอนามัยและระบาดวิทยาแห่งชาติของเวียดนามแนะนำให้อนุมัติวัคซีนดังกล่าว โดยที่นายเจื่อง ก๊วก เกือง รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุขเวียดนามเป็นผู้ลงนามอนุมัติเมื่อวานนี้ สถาบันสุขอนามัยและระบาดวิทยาจะรับผิดชอบในการร่วมมือกับผู้ผลิตวัคซีนเพื่อรับรองการผลิตวัคซีนดังกล่าว รวมถึงความปลอดภัยและคุณภาพ นอกจากนี้ สถาบันดังกล่าวจะทำงานร่วมกับสำนักงานบริหารวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการฝึกอบรมที่อยู่ภายใต้กระทรวงสาธารณสุข เพื่อประเมินความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน อีกทั้งยังร่วมมือกับสถาบันควบคุมวัคซีนและชีวภาพแห่งชาติเพื่อประเมินวัคซีนด้วยการส่งมอบตัวอย่างและวัตถุดิบที่เกี่ยวข้องให้ก่อนที่จะนำวัคซีนมาใช้ ทั้งนี้ สถาบันสุขอนามัยและระบาดวิทยาจะเป็นผู้ให้คำแนะนำด้านการจัดเก็บ การแจกจ่าย และการใช้วัคซีนอีกด้วย วัคซีนของซิโนฟาร์มถือเป็นวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขนานที่สามที่ผ่านการอนุมัติใช้เป็นกรณีฉุกเฉินในเวียดนาม ต่อจากวัคซีนสปุตนิก-วีของรัสเซีย และวัคซีนของแอสตราเซเนกาที่พัฒนาโดยบริษัทเวชภัณฑ์ของอังกฤษและสวีเดน วัคซีนของซิโนฟาร์มได้รับการอนุมัติใช้ในจีนเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน และผ่านการอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ในเดือนพฤษภาคม มีประเทศและดินแดน 42 แห่งที่ใช้วัคซีนดังกล่าว และซิโนฟาร์มปักกิ่งได้ส่งมอบวัคซีนทั่วโลกราว 200 ล้านโดสแล้ว ขณะนี้ เวียดนามใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาเป็นวัคซีนหลักในโครงการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน โดยมีชาวเวียดนามกว่า 1.1 ล้านคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนจากประชากรทั้งหมด 96.4 ล้านคน ทั้งนี้ เวียดนามตั้งเป้าจัดหาวัคซีนให้ได้ราว 150 ล้านโดสภายในปีนี้เพื่อฉีดให้แก่ประชาชนร้อยละ 70.-สำนักข่าวไทย

1 239 240 241 242 243 315