ย่างกุ้ง 4 มิ.ย. – เมียนมาเผชิญกับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ครั้งใหม่ที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ชายแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือติดกับอินเดีย ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นนับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ที่ทำให้บริการสาธารณสุขและโครงการตรวจหาเชื้อโควิดล่มสลาย
ตัวเลขอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่เมื่อวานนี้แสดงให้เห็นว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ 122 คน ถือเป็นผู้ป่วยหลักร้อยครั้งที่สองในรอบ 3 วันที่ผ่านมา แม้ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่เป็นยอดผู้ป่วยติดเชื้อสูงสุดของเมียนมาในรอบเกือบสี่เดือน ผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในรัฐฉินที่มีพรมแดนติดอินเดีย และทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่พบครั้งแรกในอินเดียและแพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าเดิมกำลังแพร่ระบาดในเมียนมา
ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของกลุ่มช่วยเหลือด้านการพัฒนาและการดูแลโซมี (Zomi Care and Development) จากเมืองตู้นซานในรัฐฉิน ซึ่งอยู่ห่างจากพรมแดนอินเดียเพียง 20 กิโลเมตร กล่าวว่า เมื่อวานนี้มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 จำนวน 3 ราย ตอนนี้ชาวบ้านต่างรู้สึกหวาดกลัวและไม่กล้าออกจากบ้าน อย่างไรก็ดี สำนักข่าวรอยเตอร์สไม่สามารถติดต่อกระทรวงสาธารณสุขเมียนมาเพื่อขอความเห็นจากเรื่องดังกล่าวได้ในขณะนี้
โครงการตรวจหาเชื้อโควิดในเมียนมาล่มสลายหลังเกิดเหตุรัฐประหาร เนื่องจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจำนวนมากเข้าร่วมขบวนการอารยะขัดขืนเพื่อต่อต้านรัฐบาลทหารที่ยึดอำนาจการปกครองจากนางออง ซาน ซู จี ผู้นำพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งและสามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 สองระลอกในเมียนมาได้เป็นอย่างดี ขณะนี้ เมียนมามียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 143,900 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 3,200 คน นอกจากนี้ เมียนมายังตรวจหาเชื้อโควิดได้เฉลี่ยวันละ 1,400 คนในรอบ 7 วันที่ผ่านมานับถึงเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นจำนวนที่ลดลงอย่างมากจากวันละ 17,000 คนในช่วงสัปดาห์ก่อนเกิดรัฐประหาร.-สำนักข่าวไทย